“ชวน” นำคณะผู้แทนรัฐสภาไทย ร่วมประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน ที่กัมพูชา

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 เวลา 13.00 น. ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฏร พร้อมด้วย ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ และคณะผู้แทนรัฐสภาไทยฯ เข้าร่วมการประชุมเต็มคณะ ช่วงที่ 1 ในการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 43

ในการนี้ นายชวน หลีกภัย ได้กล่าวถ้อยแถลงแสดงความยินดีและความขอบคุณต่อราชอาณาจักรกัมพูชา ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 43 และได้กล่าวถึงความในพระราชสาส์นแห่งพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ
นโรดม สีหมุนี

ที่ได้พระราชทานในพิธีเปิดการประชุมว่า ถึงแม้สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คลี่คลายลงไปแล้ว แต่โรคร้ายดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนไปอีกหลายสิบปี โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง

จากนั้น ได้เน้นย้ำถึงถ้อยแถลงในการประชุมหารือระหว่างผู้นำสมัชชารัฐสภาอาเซียนและผู้นำอาเซียน (AIPA-ASEAN Interface) ที่ผ่านมา ใน 5 ประเด็น ได้แก่

1. การจัดการสภาพภูมิอากาศ (ASEAN Green Deal)
2. การให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง
3. การส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคในการจัดการภัยพิบัติ

4. การจัดตั้งห้องสมุดดิจิทัลด้านกฎหมาย
5. ความร่วมมือของรัฐสภาอาเซียนในด้านสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย และธรรมาภิบาล รวมถึงการสร้างประชาคมอาเซียน ซึ่งแนวทางหลักทั้ง 5 ประการนี้นับเป็นหมุดหมายสำคัญในพัฒนาการความร่วมมือของอาเซียน

ทั้งนี้ ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรได้กล่าวถึงแนวทางการดำเนินการของประเทศไทยที่มุ่งฟื้นฟูแนวทางเศรษฐกิจชีวภาพ – เศรษฐกิจหมุนเวียน – เศรษฐกิจสีเขียว เพื่อจัดการสภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสร้างความเป็นอยู่ที่ดี ตลอดจนการดำเนินงานภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ และยังกล่าวถึงความร่วมมือระดับภูมิภาคในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการจัดตั้งห้องสมุดดิจิทัลด้านกฎหมายซึ่งเป็นการสานต่อข้อเสนอของตนในประเด็นการปรับปรุงกฎหมายของอาเซียนให้มีความสอดคล้องกันในการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 40

ในตอนท้าย นายชวน หลีกภัย เน้นย้ำว่า ประเด็นที่มีการได้หารือกันในที่ประชุมนั้น จะบังเกิดผลก็ต่อเมื่อได้มีการนำไปปฏิบัติอย่างจริงจังซึ่งนอกจากจะต้องยึดหลักกฎหมายเป็นสำคัญแล้ว เหนือสิ่งอื่นใดผู้ปฏิบัติต้องยึดถือความซื่อสัตย์สุจริตและหลักธรรมาภิบาลด้วย

Written By
More from pp
อนุทิน หารือ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ พร้อมสานต่อความร่วมมือทุกมิติ ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน สนับสนุนสภาพแวดล้อมทางธุรกิจสำหรับนักลงทุน
4 มีนาคม 2567 เวลา 14.00 น. ณ ห้องรับรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชั้น 2 ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนาชิดะ...
Read More
0 replies on ““ชวน” นำคณะผู้แทนรัฐสภาไทย ร่วมประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน ที่กัมพูชา”