บุพเพสันนิวาส ๒ – สันต์ สะตอแมน

สันต์ สะตอแมน

            ปลดนายอำเภอ หรือผู้ว่าฯ ดีกว่าไหม?

            เพราะแนวคิดของแพทย์ชนบท ที่แนะรัฐบาลให้จัดงบพิเศษ 1,000 ล้าน เพื่อจ่ายให้กับผู้สูงวัย (60ปีขึ้นไป) แลกกับการเข้ารับฉีดวัดซีนเข็มละ 500 บาทนั้น

ดูมันทะแม่งๆ ซึ่งหากจะเข้มงวดเอาจริงเอาจัง ระดับนายอำเภอก็น่าจะเอาอยู่ ไม่ต้องถึงกับใช้อามิสสินจ้างล่อใจ

อีกอย่าง ผู้สูงวัยไม่ว่าจะอยู่ในที่แห่งหนไหน ล้วนต่างก็มีครอบครัวลูกหลาน ถ้าไม่อกตัญญูเสียแล้ว ลูกๆ หลานๆ ก็น่าจะพาพ่อแม่ปู่ย่าตายายไปฉีดวัคซีนได้

หรือหากไม่ว่าง ก็แค่โทรศัพท์ไปหา อธิบายความให้เข้าใจ ให้เลิกกลัว ให้เลิกเชื่อข่าวลวง-ข่าวเท็จ เพราะ 2 ล้านคนที่แพทย์ชนบทบอกพบว่าไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว..

น่าจะเกิดจาก “กลัววัคซีน” เป็นสำคัญ!

และถ้ายังกลัวจนขี้ขึ้นสมอง อย่าว่าแต่จ้างเงิน 500 บาทต่อเข็มเลย ให้เข็มละพัน-สองพันก็ไม่แน่ว่า..ผู้อาวุโสสูงวัย 2 ล้านคนที่พบนั้นจะยอมไปฉีดวัคซีนแต่โดยดี?

ผมไม่ได้เสียดายเงิน เพียงแต่ถ้าเอะอะใช้เงินล่อใจอยู่อย่างงี้ ผู้คนก็จะติดเป็นสันดาน ต่อไปรัฐบาลจะทำอะไร ก็ต้องจ้าง ต้องจ่ายเงินตะพึดตะพือไปกระนั้นหรือ?

ผมว่า รัฐบาลน่าจะลองใช้กลยุทธ์ “ตีป่าล้อมเมือง” ด้วยการเข้มงวดกวดขันเอากับนายอำเภอ-ผู้ว่าฯ เดินลุยเข้าไปในหมู่บ้าน ก่อนจะออกมาสู่ตำบล อำเภอ จังหวัด

และหากวิธีนี้ไม่ได้ผล ก็ต้องยอมจำนน หมายถึงยอมรับ คนเรามีกรรมเป็นของตัวเอง เมื่อถูกกำหนดให้ตายด้วยโควิด-19.. เคี่ยวเข็ญ ขู่ บังคับ หรือใช้อมิสสินจ้างล่อ..

ก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลง “กรรม” ได้..ใครไม่เชื่อ ผมเชื่อครับ!

แล้วนี่..ผมก็ต้องเชื่อ ก็ที่ทีมผู้สร้างภาพยนตร์ “บุพเพสันนิวาส ๒” ได้แจ้งกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรว่า..

“ถึง ออเจ้าผู้เฝ้ารอ..

ด้วยเหตุที่เกิดไข้โควิดระบาดเข้ามาทางประเทศสยาม จนพลเมืองจับไข้กันเรือนหมื่นเรือนแสน นับรวมถึงผู้กำกับภาพยนตร์ นักแสดงและทีมงานอีกหลายท่าน ที่จับไข้โควิดจนต้องกักตัวอยู่ที่เรือน

ส่งผลให้งานในส่วนโพสต์โพรดักชั่นของภาพยนตร์ ล่าช้าไม่เป็นไปตามกำหนด เพื่อความสมบูรณ์แบบของภาพยนตร์ และการรับชมที่ได้อรรถรสสูงสุดของผู้ชมชาวสยาม

จีดีเอช และ บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำเป็นต้องเปลี่ยนกำหนดฉายภาพยนตร์ จากวันที่ ๔ พฤษภาคม ออกไป และจะประกาศกำหนดฉายใหม่ให้ทราบโดยเร็ววัน

จึงเรียนมาเพื่อแจ้งให้ออเจ้าทราบ ขออภัยที่ไม่อาจมาเจอออเจ้าได้เร็วอย่างใจต้องการ”

ครับ..ให้อภัย ไม่ต้องรีบ-เร่ง ถือคติ “ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม” น่ะถูกต้อง-ดีแล้ว หนังน่ะไม่ฉายก็ไม่ได้เสียหายเน่าบูด แต่หากนำออกมาฉายในขณะที่ไม่พร้อม หรือในท่ามกลางบรรยากาศไม่เอื้อ..

ก็จะหมดค่า-ไร้ราคาทันที เมื่อไม่มีคนดู!

นี่..พูดถึง “ออเจ้า” ในฉบับ-เวอร์ชั่นของภาพยนตร์ ก็มีคนวิเคราะห์ให้ฟังด้วยความเป็นห่วง-เป็นกังวลว่าจะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนกับละคร

ซึ่งก็แน่นอน เพราะละครเป็น “ของฟรี” ดี-ไม่ดีคนดูก็ยัง (ทน) ตามดู แต่กับภาพยนตร์ที่ฉายในโรงและเก็บเงินค่าตั๋ว 150-180 หรือ 200 บาทนั้น

ถ้าหนังไม่ดี ถูกวิจารณ์ด้านลบในวัน-สองวันแรกฉายเสียแล้ว ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จด้านรายได้

แต่ “บุพเพสันนิวาส ๒” นี้ ด้วยพะยี่ห้อ “จีดีเอช” ผู้สร้าง ผมมองว่าไม่เห็นจะต้องเป็นห่วงหรือกังวลอะไร ยิ่งมี “ต้นทุน” กระแสความนิยมที่กระหึ่มเมืองมาก่อน..

มีแต่จะกำไรมาก หรือกำไรน้อย เท่านั้น ปิดประตู “ขาดทุน” ไปได้เลย!

อย่างไรก็ตาม..ภาพยนตร์ก็หาใช่ไวน์ บ่มนานไปคนอาจจะลืมทั้งรสชาติและกลิ่นได้ อย่าง “ออเจ้า” ที่ฮิตติดปากตอนนู้น ตอนนี้..

“หิวแสง” ยอดนิยม!


Written By
More from pp
“พิพัฒน์” เดินหน้ารับฟังความเห็น จากทุกลุ่ม ระดมสมองแก้ปัญหากองทุนประกันสังคม
"พิพัฒน์" เดินหน้ารับฟังความเห็น จากพรรคการเมือง นักวิชาการ นักการเงินการธนาคาร กองทุนเทมาเส็ก ไอแอลโอ ระดมสมองแก้ปัญหาการล่มสลายของกองทุนประกันสังคม ในอีก 30 ปีข้างหน้า ดีเดย์...
Read More
0 replies on “บุพเพสันนิวาส ๒ – สันต์ สะตอแมน”