สันต์ สะตอแมน
“ในฐานะประธานชมรมวิจารณ์บันเทิง คนปัจจุบัน”
เนี่ย..คุณสนานจิตต์ บางสพาน นักวิจารณ์ภาพยนตร์มือเก๋า และผู้กำกับ ขึ้นต้นแนะนำตำแหน่งแห่งหน ก่อนจะละเลงข้อความต่อในเฟซบุ๊ก ว่า..
“ขอประกาศแซบว่า ชมรมวิจารณ์บันเทิง ขอถอนตัว หรือ say NO กับการขอรับงบประมาณ “อุดหนุน” การจัดงาน ประกาศผล “ภาพยนตร์ไทย ยอดเยี่ยม ชมรมวิจารณ์บันเทิง”
ที่ คณะอนุกรรมการ Soft power มีน้ำใจมอบให้กับ “ชมรมวิจารณ์บันเทิง” จำนวน 2 ล้านบาท จากงบรัฐบาล ในปีงบประมาณปี 67
ซึ่งกรมบัญชีกลางและ สนง.งบต้องการ “เอกสาร” ประกอบจำนวนมากและหลาย item ชมรมฯ ไม่มีคนที่จะจัดทำให้ทันตามกำหนด เนื่องจากทุกคนมี “งานประจำ”
และเกือบทั้งหมดของสมาชิกชมรมฯ ไม่ใช่คนที่ถนัดสายบริหารจัดการ-admin และสายการเงิน-account-ae
เพื่อไม่ให้เป็นปัญหากับคณะอื่นๆ ในสายภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับอนุฯ ชุดละมุนอำนาจ ชมรมฯ จึงขอสละสิทธิ์ดังกล่าว จึงประกาศมาให้ทราบทั่วกัน
เนื่องจากงบ 2 ล้านบาท เป็นเงิน “หลวง” คณะอนุฯ ละมุนอำนาจ ยื่นขอผ่าน “กระทรวงวัฒนธรรม” ให้กับชมรมฯ กรมบัญชีกลาง+สำนักงบประมาณ
เขามี frame of work มาให้ คนขอ “เงิน” ซึ่งก็คือ ชมรมฯ ต้อง “ทำตาม” กรอบ “ของเขา” (2 หน่วยงาน) ที่กระทรวง วธ.ต้อง tranfer เอกสารทั้งหมดของชมรม
ถ้าอยากได้ 2 ล้าน ไปให้เขา (กรมบัญชีกลาง สน.งบ) ตรวจสอบว่าเอามาใช้ทำอะไร? แค่ไหน? ใช้อย่างไร?
เงินนะ ชมรมฯ ก็อยากได้ ตั้ง 2 ล้าน แต่เราไม่มีผู้ชำนาญการ เรื่อง ของบ “หลวง” เลยแม้แต่คนเดียว มันเกินกำลังความสามารถ เลยขอสละสิทธิ์ ดีที่สุด
เอาสำนวนกวนตรีน ประสา สนจ. ก็คือ แม่งเวียนหัวยุ่งตายห่า 555 เลยขอบายดีกั้ว
สมาชิกชมรมฯ ทุกคนตั้งแต่ พี่นคร วีระประวัติ เจ้าของไอเดีย ตั้งชมรมฯ กับผม หลังจากเรากลับจากเดิน red carpet Oscar 60th เมื่อ 1988 ที่ LA USA
กับเพื่อนสายสื่อมืออาชีพจากทุก plat from เกือบ 100 คน บิ๊กเนมทุกคน พี่แดง กิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิน-ทิวลิป, มาโนช พุฒตาล, สมพล สังขะเวส, ทิวา สาระจูฑะ,
สีลม-อัมพร ตัณฑุวณิช จักรพาก, 3 สมาชิก sat&sun, มาลี อุดมณรงค์, วิทวัส สุนทรวิเนตร, วรพจน์ โอลด์เล้ง, จิราพร ลิ่มไท, เดือนเพ็ญ ศรีหรัตน์, รัชพร เหล่าวานิช, พรชัย วีระณรงค์
เราทำงาน ชมรมฯ กันแบบ มีแต่ควัก ไม่แสวงผลกำไร มองหน้ารู้ใจ 36 ปีชมรมฯ เราพิสูจน์ตัวเองกับสังคม และวงการหนังไทย เราไม่เคย ปฏิเสธ ความช่วยเหลือจากภาครัฐ
แต่ เงินหลวง (ภาษีที่เก็บจากประชาชน ที่มาอยู่ในหมวดงบประมาณรายจ่ายประจำปีของรัฐบาล ที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภา) รายละเอียดมันเยอะ
ไม่ว่าคนลงนามจ่ายเงิน หรือคนลงนามรับเงิน มี “ราคา” ที่ต้องจ่าย พอกัน (ภาษา สนจ.คือตีนข้าง 1 อยู่ในคุก) นั่นคือเหตุและผล
ที่ผมในฐานะประธานชมรมฯ ขอสละสิทธิ์ไม่รับเงิน “อุดหนุน” 2 ล้าน จากอนุฯ ละมุนอำนาจ และภาครัฐ ผ่านกระทรวงวัฒนธรรม
ส่วนเรื่อง บทบาท หน้าที่ ความเกี่ยวข้องของ soft power กับกระทรวงทุกกระทรวงเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยแกนนำจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วม
ชมรมวิจารณ์บันเทิง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารจัดการหรือการตัดสินใจใดๆ ของ soft power
ขอบคุณในปรารถนาดีของอนุฯ ละมุนอำนาจสายหนังไทย แต่ชมรมฯ ภายใต้การนำของผมไม่มีศักยภาพพอ ที่จะทำตามกรอบวิธีปฏิบัติในการขอเงินหลวง มาทำงานก็แค่นี้แหละ”
ครับ..เพียงแค่นี้คณะอนุกรรมการ Soft power ก็คงจะช็อตฟีลไปตามๆ กัน ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมพลอยช็อตไปด้วย แต่เมื่อมันเวียนหัว ยุ่งตายห่า
ก็..ถูกต้อง-ดีแล้วที่ประธานชมรมวิจารณ์บันเทิงปฏิเสธไป เงินหลวงน่ะเขาว่าตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ แต่มันจะทำให้วอดวาย-เรือหาย..
ถ้าเอามาใช้แบบไม่ถูกต้อง!
