ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
14 กุมภา. วันวาเลนไทน์
ถึงวันนี้ทีไร ผมให้นึกถึงใบหน้าเพื่อนรัก คุณปิยะ ตระกูลราษฎร์ อดีตพระเอกครูบ้านนอกสุดหล่อลอยขึ้นมาเสียทุกปี พร้อมกับเนื้อเพลงท่อน..
“14 กุมภา. วันวาเลนไทน์ ของขวัญจากใจฉันมอบให้เธอ ลืมมันแล้วหรือ คนซื่อหน้าเซ่อ คนที่ตัวเธอบอกแสนเมตตา”
เพลงชื่อ “หนึ่งปีที่ทรมาน” ซึ่งคุณปิยะเคยเล่าให้ผมฟัง ว่าหลังจากที่อกหักจากอดีตนางเอกคนดัง ก็มักแวะเวียนไปได้นั่งเหงาๆเศร้าๆอยู่มุมหนึ่งที่โรงแรมนิว อัมรินทร์ เป็นประจำ
ซึ่งก็มีบรรดา ดารา-คนบันเทิง-นักข่าวขาใหญ่ไปนั่งพบปะสรวญเสเฮฮากันทั้งกลางวัน-กลางคืน!
และจะด้วยบังเอิญ หรือพระพรหมแกล้งขยี้หัวใจให้ยิ่งเจ็บ สายตาของเพื่อนรักผมดันมองทะลุกระจกเข้าไปเห็นอดีตคนที่เพิ่งบอกเลิกรักเขานั่งกระหนุงกระหนิงกระนัวกระเนี๊ยะอยู่กับแฟนใหม่
มันเหมือนโดนเข็มทิ่มที่ใจ คุณปิยะวางแก้วเบียร์ลงบนโต๊ะ คว้ากระดาษมือจับปากกา สมองกลั่นกลอง.. “หนึ่งปีให้หลัง ฉันยังจำได้..รับความปราชัย พ่ายแพ้แก่เธอ…”
ใช้เวลาไปเท่าไหร่ คุณปิยะบอกจำไม่ได้ รู้แต่ว่าหมดเบียร์ไป 2 ขวด เพลงจบบริบูรณ์ และก็ไม่คิดฝันว่าเมื่อนำไปให้ “พี่เป้า-ส.ย.ส.ญ.” บันทึกเสียงแล้ว..
เพลงนี้จะดังระเบิดเถิดเทิง เป็นอมตะมาจวบจนทุกวันนี้!
นี่..ทำให้เห็นเป็นจริงเป็นจังไปกับเพลงของ (ว่าที่ศิลปินแห่งชาติ) คุณธานินทร์ อินทรเทพ ที่ร้องว่า..
“หมดเพลงปวดใจ ร้องไปใครใครก็ชอบฟัง นิยายเรื่องเด่น จะเป็นเรื่องดัง ต้องมีผิดหวัง ทั้งเรื่องต้องโศกศัลย์”
คือ..เพลงอกหัก เพลงเศร้าบีบความรู้สึก ดูเหมือนคนฟังจะนิยม ชื่นชอบ-ชื่นชมกันว่าดี ซาบซึ้ง ประทับใจไปนู่น!
เอ้า..แต่นั่นไม่รู้ว่าคนดู-คนอ่านจะรู้สึกอย่างไร กับข่าวพาดหัวของผู้จัดการออนไลน์.. นักข่าวร่ำไห้สุดช็อก! ถูก “พระเอกฮอต” ด่าเหี้x กลางลานจอดรถ!
เนื้อข่าวที่รายงาน.. “เป็นประเด็นอยู่ไม่น้อย หลังจากที่ “บ๊ะจ่าง” นักข่าวทีวีพูล ได้ไลฟ์สดเผยถึงกรณีที่นักข่าวสาวทีวีพูล โดน “พระเอกดังเบอร์หนึ่ง” ตะโกนด่ากลางลานจอรถว่าเหี้x
โดยระหว่างไลฟ์ นักข่าวสาวก็ได้หลุดร่ำไห้ออกมา โดยเผยว่าตนเป็นแฟนคลับพระเอกคนนี้มานานแล้ว
ซึ่งตอนที่มีการสัมภาษณ์พระเอกดัง นักข่าวทุกสำนักได้สอบถามเรื่องความสัมพันธ์ของพระเอกกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีข่าวด้วยกัน แต่พระเอกดังไม่ค่อยอยากจะตอบเท่าไหร่”
ครับ..นานปีจะมีให้ได้อ่านได้ดูข่าวที่นักข่าว (บันเทิง) ร่ำไห้ฟูมฟายเพราะโดนดาราพูดจาหยาบคายใส่ และไม่บ่อยครั้งที่ดาราจะอารมณ์เสีย-ใจร้อนถึงกับพูดคำว่า “เหี้..” ใส่หน้านักข่าวสาว
ก็..ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีเคยเกิดกรณีนักข่าวกับดาราในลักษณะเช่นนี้ แต่ก่อนมีและรุนแรงกว่าถึงขั้นลงไม้ลงมือกันก็เคยเกิด-เคยเห็น แต่เมื่อได้พูดคุยปรับความเข้าใจกันทุกอย่างก็จบ..
มิตรภาพ ความเป็นสื่อเป็นดาราก็ยังต้องพึ่งพาอาศัยกันต่อไปบนฐานของคำว่า “หน้าที่”!
แต่กับน้องนักข่าวคนนี้ ผมไม่แน่ใจว่า ที่เธอร้องไห้นั้น เป็นน้ำตาความเสียใจของ “คนข่าว” หรือเป็นน้ำตาของ “แฟนคลับ” กันแน่?
ผมถึงได้ถาม “รู้สึกอย่างไร” กับข่าวนี้ เพราะถ้าเป็นน้ำตาที่มาจากความรู้สึกของคนรักคนปลื้มหลงใหลในตัวพระเอก นั่นก็ไม่อาจมีใครไปรับรู้-ร่วมความรู้สึกด้วยได้
แต่หากในฐานะนักข่าว-ในหน้าที่ น้ำตาของน้องก็ควรที่จะได้ถูกซับด้วยคำ “ขอโทษ” จากพระเอกผู้นั้น ซึ่งผมเชื่อว่าไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้เขาต้องโผล่หน้ามาแสดงความเสียใจ
นักข่าว (จริง) กับดาราก็อย่างนี้แหละ เหมือนลิ้นกับฟัน กระทบกระทั่งหนัก-เบากันบ้างในบางเวลา และถ้าไม่หลงรักหลงปลื้มเป็นการส่วนตัว..
เหี้..มา ก็เหี้..ไป สนุกสนานครื้นเครงดีออก!