วันที่ 22 ก.ย.64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการกระจายชุดตรวจเร็ว ATK 8.5 ชุดของ สปสช. สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงเพื่อเร่งการตรวจหาเชื้อโควิด-19 รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยมีแนวทางการกระจายชุดตรวจในกรุงเทพ 2.4 ล้านชุด และ ปริมณฑลและต่างจังหวัด 5.6 ล้านชุด อีก 5 แสนชุด จะจัดสำรองไว้ที่ สปสช. และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
เพื่อแจกจ่ายในการลงพื้นที่และร้านขายยาในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ยังตกหล่น ซึ่งขณะนี้ องค์การเภสัชได้ทยอยส่งมอบให้กับ สปสช. แล้ว 7,068,600 ชุด กระจายทั่วประเทศกว่า 6.7 ล้านชุด และผ่าน “เป๋าตัง” แล้ว 95,727 ชุด
สำหรับกลุ่มเสี่ยงประกอบด้วย 1. กลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง 7 โรค (ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน) 2. กลุ่มผู้ที่สงสัยว่ามีอาการติดเชื้อ (มีไข้ ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจหอบลำบาก) 3. ผู้ที่อยู่ร่วมบ้านกับผู้ติดเชื้อโควิด และ 4. ผู้ที่ทำงานประสานงานในชุมชน
โดยประชาชนสามารถขอรับชุดตรวจได้ที่ อสม./อสส. หรือหน่วยบริการในพื้นที่ใกล้บ้าน ที่มีป้ายสีเหลืองว่าจุดแจกชุดตรวจโควิด ATK ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 2. แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ตอบคำถามเพื่อประเมินความเสี่ยง และ 3. พื้นที่ชุมชนแออัด ตลาด จะมี อสส. และ อสม. ไปประสานและแจกชุดตรวจ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในส่วนกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับชุดตรวจเร็ว ATK แล้ว แนะนำว่าต้องทดสอบทันทีหรือไม่เกิน 24 ชั่วโมงและขอให้แจ้งผลตรวจเข้าระบบทุกครั้ง หากพบผลบวกหรือติดเชื้อจะสามารถเข้าระบบการรักษาได้ทันทีทั้งการดูแลที่บ้าน (Home Isolation) การดูแลโดยชุมชน (Community Isolation) และสถานพยาบาล เพื่อความปลอดภัยของตนเองและคนรอบข้าง