เปลว สีเงิน
เห็นดาราระบัดวัยโพสต์ว่า งง…เป็นประชาชนแต่ไม่มีสิทธิ์เลือกวัคซีนฉีด
อ่านแล้ว สงสารจับใจ!
ก็อยากบอกเธอว่า มีนะ…มี ทำไมจะไม่มี
ไปที่ “กรมปศุสัตว์” แถวๆ พญาไท ไปเลือกเอาเลย จะเอาวัคซีนฉีดควายหรือฉีดแรด มีให้เลือกเยอะแยะ
รับรอง เข็มเดียวอยู่
ภูมิต้านทานเชื้อกระแดะพุ่งพรวด!
สำหรับผม ในนามประชาชนคนโรคมาก แต่ไม่มากเรื่อง เขามียี่ห้อไหนให้ฉีด ก็ฉีดยี่ห้อนั้น
ส่วนคนที่เกี่ยง มีไอ้นี่ จะเอาไอ้นั่น
ก็รอ “ไอ้นั่น” ไป
ส่วนผม ชอบไอ้นี่ ยังไม่อยากซี้แหงแก๋ ขอฉีดก่อนละกัน บ๊าย บาย ปู๊นๆ
ได้ฤกษ์ “แอสตร้า เซนเนก้า” มาแล้ว ผลิตในประเทศเราเอง โดยโรงงาน “สยามไบโอไซเอนซ์” ที่ล้นเกล้าฯ ร.๙ ทรงวางรากฐานเป็นทางอนาคตไว้ให้
เราทุกคน “มั่นใจได้” ประเทศไทย ไม่ขาดแคลนวัคซีน มีฉีดให้ทุกคนต่อเนื่้อง ไม่ขาดตอน
ตั้งแต่ ๓๑ พฤษภา.เป็นต้นไป
วัยหนุ่ม-สาว-เฒ่า-แก่ รู้ตัวว่า อายุ ๑๘ ปี ขึ้นไป ก็ไปลงทะเบียนฉีดไว้ สะดวกที่ไหน-ไปที่นั่น
ตั้งแต่ ๗ มิถุนา.ตะลุยลงเข็มทั่วหล้า รอบแรก “คนแก่ขอก่อน” ต่อด้วยหนุ่มสาว จะครบคนละ ๒ เข็ม ก็ลอยกระทงพอดี
ต้องเข้าใจกันด้วยนะ ใช่ว่าฉีด ๒ เข็ม แล้วจะมีภูมิคุ้มกันนิรันดร ซัก ๖ เดือน มันก็อ่อนฤทธ์ ต้องฉีดเติมเรื่อยๆ
เพราะอย่างนี้ ถึงบอก พวกเราคนไทยโชคดี ที่มีสยามไบโอฯ ผลิตวัคซีนฉีดได้ตลอด
ถ้าทุกอย่างราบเรียบตามแผนงานที่ว่า เข้าไตรมาส ๔ คือตั้้งแต่ตุลา.ไป โควิดน่ะ มันยังไม่ไปหรอก แต่การระบาดน่าจะคลี่คลาย หายใจถึงสะดือกันได้
ที่พูดเพราะเห็นคนหวังดีต่อบ้านเมืองชนิดไม่เลือกฤดูกาล สลับหน้าออกมาไล่ให้นายกฯ ประยุทธ์ “ออกไป” ทุกวัน
สมมติ นายกฯ บ้าจี้หรือเทน้ำข้าวประชดหมา-ปิ้งปลาประชดแมว สะบัดตูด ไงๆ
โลกไม่แตกหรอก!
แต่เหมือนรถบัสคันหนึ่ง มุ่งหน้าสู่ยอดเขาหิมาลัย ท่ามกลางผู้โดยสารที่ “เมามันอารมณ์” เต็มคันรถ ทะเลาะตบตีกันตลอดทาง
โชเฟอร์ขับไต่ขึ้นไปตามทางไหล่เขาซับซ้อนริมเหว คนโดยสารเกิดรำคาญ บอก…จอดๆๆๆ
“ขับมาตั้ง ๗ ปี ไต่มา ๗ ปากเหว ไม่ถึงสระอโนดาดซักที เปลี่ยนคนขับใหม่ดีกว่า”
จะให้จอด มันก็จอดได้
จะเปลี่ยนคนขับใหม่ มันก็เปลี่ยนได้
จะไม่ถามว่า “ริมปากเหว” อันหนาวเหน็บบนทางไหล่เขาแคบ มันควรไหม และจะเอาใครที่ไหนมาทำหน้าที่ขับแทน? แต่จะถามว่า……
ตกลงจะเอากันแบบนี้แน่หรือ?
ใครก็ได้ที่ไม่ใช่ประยุทธ์ จะเอากันอย่างนั้นใช่มั้ย?
ไม่สนวัน-เวลา นานแค่ไหนก็ได้ ในการเลือกใช่มั้ย?
กติกา-วิธีการที่จะเลือกใหม่ ตกลงกันแล้วใช่มั้ย?
มีอะไรการันตี ว่าใหม่จะทำหน้าที่ได้ดีกว่าคนเดิม?
และมีอะไรรับประกัน ว่า……
เปลี่ยนตอนนี้แล้ว ทุกอย่างจะดีกว่าเดิม ถ้าไม่ดีแถมเลวลง ใครรับผิดชอบ และรับผิดชอบแบบไหน?
นี่แค่คำถามพื้นฐาน จะเห็นว่า แค่การตกลงกัน ใช้เวลา ๑ เดือน ก็ถือว่าเร็วแล้ว
เกรงแต่ว่า จะฆ่ากันตายซะก่อนเท่านั้น!
และเข้ารัฐสภา แค่ขั้นถกกัน ผ่านอีกเดือน ก็ยังไม่เห็นแสงจากปลายอุโมงค์
ยิ่งขั้นโหวตตัวด้วยแล้ว ต่อให้ ๓ โลก ก็ยังตอบไม่ได้ว่าจะไปลงตัวเบ็ดเสร็จถึงขั้นนั้น เดือนไหน-ปีไหน?
เอาละ สมมติเลือกได้คนใหม่แทนประยุทธ์ สะใจนั้น คงสะใจกันแน่
แต่ที่จะ “ฉิบหายแน่ๆ” อันเป็นผลสืบเนื่องจากกบเลือกนาย หน้าไหนจะรับผิดชอบ?
ออกมายืนชู ๓ นิ้ว ให้สัตย์ปฏิญานซิ!
ท่ามกลางสาละวนกับการเลือกนายกฯ คนใหม่ การที่ทิ้งปัญหาบ้านเมืองเฉพาะหน้าคาไว้
ทั้งโควิด ทั้งเศรษฐกิจ ทั้งล้มเจ้า ทั้งมีคนจะเอาประเทศไปจิ้มก้องไอ้กัน
คิดหรือไม่ว่า ปัญหาและสถานการณ์นั้น มันจะหยุดรอนายใหม่ได้ อย่างที่พวกรักชาติไม่เลือกฤดูกาลกระสันคิด?
พูดกันจัง ประยุทธ์โง่ ไม่เหมาะเป็นนายกฯ
ผมว่าไม่โง่นะ……..
ลองถามดูแล้ว ว่าใครเป็นพ่อบิ๊กแดง?
นายกฯ ตอบถูกนะว่า “บิ๊กจ๊อด” ไม่ใช่ “บิ๊กสุ”
สรุปได้ว่านายกฯ ประยุทธ์ฉลาด อย่างน้อยก็ฉลาดกว่าพวกจานท่าพระจันทร์ ก็ใช้ได้แล้ว!
และพูดกันจัง ประยุทธ์เป็นนายกฯนานตั้้ง ๗ ปีแล้ว เบื่อ
๗ ปี ไม่เห็นนานเลย
“นายลี เซียน ลุง” เป็นนายกฯ สิงคโปร์ระบบเลือกตั้งมาตั้งแต่ ๒๕๔๗ จนถึงวันนี้ พศ.๒๕๖๔ ร่วม ๒๐ ปีแล้ว
แป๊บเดียวเอง ก็ไม่เห็นคนสิงคโปร์เขาบ่นเลย
ตรงกันข้าม ……
บางคนไทยด้วยซ้ำ กลับชื่นชมว่าเขาพัฒนาบ้านเมืองได้เจริญก้าวหน้ากว่าประเทศตัวเอง
งั้นก็ต้องให้นายกฯ ประยุทธ์เป็นอีกซัก ๑๐ ปี เท่านายลี เซียน ลุง แล้วดูซิว่า บ้านเมืองไทยจะเจริญก้าวหน้าแบบเขาได้มั้ย?
นี่ขนาดแค่ ๗ ปีนะ เห็นข่าวเมื่อวาน นายกฯ ประยุทธ์ทำให้ประเทศไทย ติดอัน ๗ “ประเทศที่มีศักยภาพสูงสุดของเอเชีย”!
ในเอเชีย มีตั้งร่วม ๕๐ ประเทศ นายกฯโง่ๆ สามารถใช้เวลาไม่ถึง ๗ ปี นำประเทศเข้าไปอยู่อันดับ ๗
ถ้าให้เป็นต่ออีก ๑๐ ปี เดาดูซิ โทนาฟกะนางสัมปะแหรด มันจะอกแตกตายปีไหน?
แล้วกับ “สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน” เป็นนายกฯกัมพูชามาตั้งแต่ปี ๒๕๓๒
ถึงปีนี้ กี่ปีแล้วล่ะ ผมนับไม่ถูก!?
ฮุนเซนคงโง่จริง……
เพราะถ้าฉลาด นายกฯ ฮุนเซนต้องเป็นสัมภเวสี ลอยไป-ลอยมา หาแผ่นดินอยู่ไม่ได้นานแล้ว จริงมั้ย?
ไม่เชื่อไปถามโทนาฟกะนังสัมปะแหรดดู!
เห็นแต่ละคนออกมาเสนอรัฐบาลแห่งชาติบ้าง เพื่อชาติบ้าง เลือกนายกฯ ใหม่ด้วยวิธีการอเนกนิกรสโมสรสมมติบ้าง
การพูดน่ะ มันง่าย…
อเนกนิกรอะไรนั่น ก็ต้องถามนิกร จำนง ว่าเขาโอเคมั้ย หรือจะอเนกนาวิกมูล ก็คงไม่รับแน่ แต่ถ้าคนพูดหยุด “เขยื้อนภูเขา” ซะบ้าง บางที อะไรๆ มันก็อาจจะดีขึ้น
เท่าที่ฟังแนวทางคนอยากเปลี่ยนตัวนายกฯ สังเกตดู วิธีการตามที่พูด กับที่ใจต้องการให้ทำ มันแย้งกันเองพิลึก
คือ ที่เสนอนั้น มันพูดตามตำราประชาธิปไตยกินได้ พูดได้ แต่ทำให้เป็นตามนั้นได้ยากและไม่ยวังประโยชน์
สิ่งที่ใจเขาอยากให้เป็นตามต้องการนั้น มันจะกระเดียด แนวทางเผด็จการอุดมการณ์มากกว่า จึงจะสร้างบ้าน-สร้างเมืองได้จริง
ก็นี่แหละ ประชาธิปไตย “ปากอย่าง-ใจอย่าง”
อุดมการณ์จริงๆน่ะ จะเผด็จการหรือประชาธิปไตย มันไม่ใช่สาระ
“ประชาธิปไตยอุดมกิน” นั่นแหละ จึงดัดจริตพากันไป!
