“ตลาดน้ำ” มนต์เสน่ห์แห่งเอกลักษณ์ไทยที่สร้างความประทับใจให้กับชาวอาหรับและนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ได้ลิ้มลองรสชาติอาหารไทยในบรรยากาศสบายๆ ของสวนอาหารสองฝั่งคลอง ทำให้ประเทศไทยมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และนานาชาติทั่วโลก ชูศักยภาพสินค้าและอาหารไทย ขยายฐานการตลาดต่างประเทศสู่ตะวันออกกลาง
นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ – นายอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ ประธานกรรมการบริหารเวก้า กรุ๊ปส์ เปิดเผยว่า โครงการ“ตลาดน้ำดูไบ” ยุคNew normal ที่เริ่มจัดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึงปลายเดือนเมษายน 2564 เป็นการจัดปีที่ 3 ได้รับความสำเร็จเกินคาด มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมโครงการอย่างคับคั่งรวม 39 ร้าน แบ่งเป็นร้านอาหาร 29ร้าน ร้านจำหน่ายสินค้าสมุนไพรและสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต 10 ร้าน ตกแต่งร้านเป็นเรือริมคลอง รถตุ๊กตุ๊ก และศาลาไทย ตลอดระยะเวลา176 วัน มีชาวอาหรับและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เข้าชมและชิมลิ้มรสชาติอาหารไทยอย่างล้นหลามมากกว่า4ล้านคน
การได้สัมผัสตลาดน้ำแบบไทยแท้บนแผ่นดินตะวันออกกลาง เป็นหนึ่งในไฮไลท์เด็ดของงานมหกรรมงานแสดงสินค้าและศิลปะวัฒนธรรมนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก Global Village ,Dubai ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่จัดเป็นประจำทุกปีบนพื้นที่กว่า 1.6 ล้านตารางเมตร รวมหมู่บ้านนานาชาติ กว่า 30 ประเทศทั่วโลก ที่ผ่านมาก่อนยุคNew normalจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 6 ล้านคนจากทั่วโลก ที่นี่จึงเป็นศูนย์รวมโอกาสการค้า และจุดนัดพบของคนทั้งโลก
ผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมตลาดน้ำในครั้งนี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การค้าช่วงNew normalที่ดูไบนี้ ได้ผลตอบรับดีเหนือความคาดหมาย มีลูกค้าชาวอาหรับท้องถิ่นมากันเป็นครอบครัว นักธุรกิจ ชาวต่างชาติในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ทัวร์พามาลงมีจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศของงานคึกคักเต็มไปด้วยความสุข ซึ่งการจัดงานคำนึงถึงความสะอาดและปลอดภัยตามมาตรการสากล สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง มีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้างาน และจากการมุ่งเน้นการฉีดวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดให้กับประชากรในประเทศอย่างรวดเร็วและครอบคลุม ทำให้สถานการณ์โดยรวมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีความผ่อนคลาย ก้าวสู่ภาวะปกติสุข ” นายอัครวุฒิกล่าว
“สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ดีเยี่ยมประเทศหนึ่งในโลก มีการปูพรมเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง เพื่อให้อยู่ในจุดที่ควบคุมการแพร่ระบาด สามารถเปิดประเทศอย่างรวดเร็ว การบริโภคจับจ่ายใช้สอย การค้าขายและการดำเนินธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศจึงยังไปได้ดี” นายอัครวุฒิกล่าวเพิ่มเติม
นายอัครวุฒิ กล่าวถึงความเป็นมาของโครงการว่า ตนต้องการจัดสร้างตลาดน้ำของประเทศไทยแห่งแรกในตะวันออกกลางและในโลก ต่อยอดจากการที่บริษัท เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่นส์ (ดูไบ) ได้รับความไว้วางใจให้จัดสร้างหมู่บ้านนานาประเทศภายในงานโกลบอลวิลเลจ ดูไบ อาทิ ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม สาธารณรัฐประชาชนจีน ฯลฯต่อเนื่องทุกปี กระทั่งเมื่อสามปีก่อน ได้เห็นโอกาสที่จะเปิดตลาดการค้าให้กับอาหารไทย และเผยแพร่วัฒนธรรมตลาดน้ำของไทยให้เป็นที่รู้จัก
จึงคิดดัดแปลงเส้นทางโดยสารทางเรือรับส่งผู้เข้าชมงานจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง ให้เป็นลำคลองตลาดน้ำแบบไทยๆ โดยวางแนวคิด และดำเนินการก่อสร้างอย่างเป็นระบบทั้งหมด ทั้งระบบวิศวกรรม ระบบน้ำประปาทั้งน้ำดีน้ำทิ้ง ระบบระบายน้ำที่ถูกต้อง การจัดการด้านอาหารตามสุขลักษณะของภาครัฐนครดูไบ และระบบการจัดการอย่างมืออาชีพ จัดสร้างเรือจำลองที่สามารถขายอาหารได้จริงและมีความสวยงามแบบไทยๆอย่างลงตัว
“เปรียบเทียบวิธีการเดิมๆของการเริ่มทำธุรกิจในตะวันออกกลางโดยทั่วไปที่ต้องใช้เงินทุนมหาศาล มีขั้นตอนการเตรียมการต่างๆไม่ว่าจะเป็นการทำแบบ การยื่นเรื่อง การประสานหน่วยงานต่างๆและดำเนินการต่างๆ กว่าจะเปิดร้านอาหารได้ร้านหนึ่งใช้เวลาประมาณ6-8 เดือน ทำแล้ว ลงทุนแล้ว เปิดแล้วต้องคอยลุ้นผลประกอบการอีก แต่ผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมโครงการตลาดน้ำจะประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดด ลัดขั้นตอน ตลาดน้ำในปีแรกและปีที่สอง ผู้ประกอบการประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก บางรายเริ่มธุรกิจเปิดร้านอาหารอย่างถาวรในดูไบ เราภูมิใจที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี เพราะเรามองเห็นโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น”
“ผมเชื่อว่าทุกวิกฤติต้องมีโอกาส อยากเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการไทยที่กำลังมองหาโอกาสใหม่ในการทำธุรกิจ ตลาดน้ำเป็นโครงการที่มองเห็นอนาคตในการเปิดร้านอาหารไทยในดูไบและตะวันออกกลาง ซึ่งผมเชื่อว่าทุกคนทำได้” นายอัครวุฒิกล่าวในท้ายสุด