ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
“ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต”
ชื่อผลงานหนังสือที่ทำให้ “นางวีรพร นิติประภา” ได้รับการคัดเลือกให้เป็น “นักเขียนรางวัลซีไรต์” ประจำปีพ.ศ.2558
และจากที่นางวีรพรได้โพสต์ข้อความ.. “ตอนคุณตูน คุณแกไม่ได้ใช้เงินตัวเองนะคะ เขาวิ่งระดมทุน เรียกร้องความสนใจให้คนบริจาค
และแน่นอนเขาก็จะมีลูกค้ามาจ้างทีละหลายๆ ล้าน เป็นพรีเซ็นเตอร์ต่างๆ ตามมาเหมือนกัน ว่ากันตามตรงกรณีนั้นยังมีความโปร่งใสน้อยกว่าคุณพิมรี่มาก
ส่วนคุณพิมรี่เธอเอาเงินหามายากลำบากของเธอเองมาจ่าย เหมือนซื้อข้าวแกงใส่บาตร บริจาคบ้านเด็กกำพร้า ให้ใครสักคนด้วยความเสน่หา
แกจะเผาเล่น จะเอาไปทิ้งขยะ จะแจก จะทำอะไรก็เรื่องของเธอปะคะ ส่วนได้หน้าขายสินค้าก็ใช่ แต่คนได้ก็ดีอะ ดีจะตายที่เลือกสร้างความนิยมผ่านการให้คนไม่มี เป็นวิธีคิดที่น่านิยม
#สวยเก๋ฉลาดจิตใจดีทนไม่ไหวกันเลยละสิ #ทำไมตูนถูกพิมรี่ผิด”
ทำให้เกิดคำถามในสังคมขึ้นว่า..เหตุใดนักเขียนซีไรต์ท่านนี้ถึงได้หยิบเอาคุณตูน บอดี้สแลม มาเทียบความ “โปร่งใส” กับคุณพิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ด้วย
ในเมื่อคุณตูนวิ่งระดมทุนให้กับโรงพยาบาล ทุกอย่างได้จบลงด้วยความสุขความอิ่มเอิบของคนไทยทั้งประเทศ ไม่มีใครตั้งข้อสงสัยในความไม่โปร่งใส มีแต่เสียงเยินยอสรรเสริญ และอนุโมทนา..
ให้คนคิดดี-ทำดีมีแต่ความสุข ความเจริญ!
เช่นกันกับคุณพิมรี่พาย ที่คิดดี-ทำดี ด้วยการควักเงินตัวเอง 5 แสนบาทไปซื้อของให้กับเด็กบนดอย ซึ่งประเด็นหลักมันก็มีอยู่แค่นี้ ถ้าไม่มีคนมาทำให้เกิดดราม่า-โยงการเมือง..
และที่ด่าทอ-ถกเถียง-ตอบโต้กันโลกออนไลน์นั้น คนที่ได้ชื่อเป็นนักคิด-นักประพันธ์ระดับ “นักเขียนซีไรต์” อย่างนางวีรพร ก็ไม่เห็นจะต้องทำตัวเป็น “ไส้เดือนตาบอดฯ” ไปกับเรื่องขี้หมูรา-ขี้หมาแห้งพรรค์นี้เลย
ยิ่งเฉพาะการหยิบเอาคุณตูนมาพูด (เขียน) ให้สังคมคลางแคลง-สงสัยทั้งๆ ที่เรื่องของเขาจบไปตั้งนมนาน-ไม่มีความเหมือนหรือเกี่ยวข้องกับแม่ค้าออนไลน์ อาจทำให้ภาพลักษณ์นักเขียนซีไรต์ ถูกมอง..
นอกจากจะโหดร้าย-โหดเหี้ยม ยังจะเป็นคนมีอคติ จิตใจคับแคบ แฝงอิจฉา ริษยา ตาร้อน..ก็เป็นได้!
หรือดี-ไม่ดีอาจมีคนติดแฮชแท็ก.. #หล่อสมาร์ทฉลาดจิตใจดีทนไม่ไหวกันเลยละสิ #ทำไมต้องให้ตูนผิด..ขึ้นมาบ้างจะรู้สึกไง?
ผม-ส่วนตัวก็ไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ เพราะมีความชื่นชอบ-ศรัทธาในนักเขียนซีไรต์อยู่ทุกตัวท่าน แถมเป็นคนที่อ่านและเก็บสะสมหนังสือซีไรต์ไว้ทุกเล่ม
ฉะนั้น จะบอกกับนางวีรพรแค่ว่า..ไส้เดือนตาบอด (ไม่มีตา) น่ะ มันอยู่กับความสุขของมันได้ แต่คน “ใจบอด” พระท่านบอก..
ไร้คนคบ พบแต่ความทุกข์ !