เมื่อวันที่ 9 ต.ค.63 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้ เวลา 09.30น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. พร้อมด้วย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.รง. และคณะฯ ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการ เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการ แก้ปัญหาความยากจนแบบบูรณาการ จ.สมุทรสงคราม ณ ห้องประชุมแม่กลอง ศาลากลาง จ.สมุทรสงคราม โดยมีนายชรัส บุญณสะ ผวจ.สมุทรสงคราม ให้การต้อนรับ
พล.อ.ประวิตร พร้อมคณะ ได้รับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน และความสำเร็จของโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบบูรณาการ จ.สมุทรสงคราม จ.ขอนแก่น จ.เชียงราย จ.นครพนม จ.นครศรีธรรมราช และ จ.อุทัยธานี
รวมทั้งได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้นำชุมชน และครัวเรือนเป้าหมาย ที่ได้รับการช่วยเหลือจาก จ.สมุทรสงคราม โดยมีอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนได้กล่าวสรุปผลการแก้ไขปัญหาความยากจนในภาพรวม
ทั้งนี้ จ.สมุทรสงคราม ได้เป็นจังหวัดนำร่องจังหวัดหนึ่ง ที่มีการใช้ระบบบริหารจัดการข้อมูล จากระบบการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytics Platform : TPMAP ) ทำให้การแก้ปัญหาความยากจนตรงกับกลุ่มเป้าหมายในระดับพื้นที่
ซึ่งในปี 2562 จ.สมุทรสงคราม ได้ผ่านการสำรวจพบว่า มีคนจนจำนวน 601 ครอบครัว (903คน) ภายหลังได้รับการแก้ไขปัญหาความยากจนแล้ว ในปี2563 มีคนจนจำนวน 465 ครัวเรือน (750 คน) ลดลงจากปี2562 จำนวน 136 ครัวเรือน นับเป็นความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ TPMAP จึงถือเป็นเครื่องมือเชิงนโยบายชิ้นแรกของประเทศไทย ที่สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายของการพัฒนาได้ทั้งครัวเรือน และบุคคล
พร้อมทั้งยังสามารถให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร และคณะ ได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการ และพบปะประชาชน ที่ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผ่านข้อมูลในระบบ TPMAP
พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวมอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่ของ มท. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สศช. และ NECTEC โดยรัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญ ของการขจัดความยากจน การลดความเหลื่อมล้ำและพัฒนาคนทุกช่วงวัยเพื่อให้คนยากจน มีความอยู่ดีมีสุข โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง พร้อมกล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ช่วยปฏิบัติงาน ด้วยดี และเป็นกำลังใจให้เดินหน้าต่อเนื่อง ที่จะช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากความยากจน อย่างยั่งยืน ต่อไป
พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึง แนวทางการแก้ปัญหาความยากจนต่อกลุ่มคนจนเป้าหมาย จะต้อง น้อมนำศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ ของรัชกาลที่ 9 มาดำเนินการให้เป็นรูปธรรม และจริงจัง เพื่อให้คนยากจนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีความสุข ก่อให้เกิด ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตลอดไป