“พระเอก-ผู้ร้าย ใต้เสื้อกาวน์”

“หมอเกรียงศักดิ์” นี่……
ถ้าจิตไม่แข็ง ประสาทไม่แข็ง ก็ต้องเส้นแข็ง
ไม่งั้น……
ตื๊อนั่งเก้าอี้ ผอ.โรงพยาบาลขอนแก่นแทน “หมอชาญชัย” ท่ามกลางการ “ไม่ยินดีต้อนรับ” จากบุคลากรที่นั่นไม่ได้หรอก
ก็แรงซะขนาดนั้น ใครที่ไหนจะไปด้านพอ!

ยิ่งกว่านั้น เมื่อวาน (๑๒ มิย.๖๓) เห็นบุคลากรทางการแพทย์ รพ.ขอนแก่น และแพทย์-พยาบาล หลายแห่งในพื้นที่ แต่งชุดดำมาที่ทำเนียบฯ
มายื่นหนังสือถึงนายกฯ ประยุทธ์
แต่รองนายกฯ อนุทิน ในฐานะเจ้ากระทรวงหมอออกไปรับแทน

เขาไม่ได้มาคัดค้านการย้ายหมอชาญชัย แต่มาขอให้ยึดหลักธรรมาภิบาลในการย้าย ,การตั้งข้อหา และการสอบสวน
ในเมื่อบอกว่า หมอชาญชัยยังเป็นผอ.รพ.ขอนแก่นอยู่ เพียงย้ายชั่วคราวระหว่างสอบสวน
ถ้างั้น ตามหลัก ควรให้ “รองผอ.รพ.ขอนแก่น” รักษาการในตำแหน่ง ผอ.แทน

ไม่ใช่เจาะจงเอา “หมอเกรียงศักดิ์” จากผอ.รพ.พระปกเกล้า จันทบุรี เหาะข้ามภาค-ข้ามเขต มานั่งเป็น “ปริศนาฟ้าแลบ” แทน

แบบนี้ส่อพิรุธ-ส่อเจตนาว่า “ต้องคนนี้” เพียงผู้เดียว ทำถึง ๒ ครั้ง ๒ ครา ชวนให้ฉงน
ต้องการเอามาให้ “กลบ” หลักฐานะไรกันในโรงพยาบาลหรือเปล่า?

เพราะมันมีบัญชีแฉ ผอ.คนก่อนหน้าหมอชาญชัย จ่ายเงินสนับสนุนชมรมแพทย์ชนบท ที่หมอเกรียงเป็นประธานผูกขาด ครั้งละหลายแสน หลายครั้ง-หลายหน

ในขณะที่ โรงพยาบาลเอง ก็ยังติดลบต่อเนื่องเป็นสิบปี กว่า ๒๐๐ ล้าน ซ้ำผอ.เบิกเข้าบัญชีตัวเองบ้าง เลขาฯ บ้าง อีรุงตุงนัง ที่รอการชำระสะสาง

แต่ดูเหมือน มีคนกลุ่มหนึ่ง ไม่ต้องการให้ชำระสะสาง และพยายาม “เตะลูกออก”
นี่แหละ มันเป็นปริศนาธรรมภิบาล ชวนคันหัวใจ ในวงราชการหมอยิ่งนัก!

เรื่องนี้ ดูไม่จืด-ไม่จบแน่ เมื่อหมอบีบตูดเข็มฉีดยา ยังไงๆ ก็ต้องปล่อยยาหมดเข็ม ก็พลอยไฟสุมอกแทนรัฐมนตรีอนุทินคนเก่ง

นายกฯ ใช่ว่าไม่สนเรื่องนี้ ที่สังเกต ท่านอยู่ในกริยาการ “ตาหรี่ดู-หูฟัง” คนระดับพลเอกประยุทธ์ ถ้าซื่อบื้อถึงขนาดมองไม่ออกถึงการย้ายที่โรงพยาบาลขอนแก่น
ท่านอยู่เป็นนายกฯ ถึงวันนี้ไม่ได้หรอก!

ฉะนั้น อยากเตือนท่านรัฐมนตรีอนุทินด้วยหวงดี ที่นายกฯ ไม่ลงมาแตะ ให้ท่านรัฐมนตรีดูแลให้เรียบร้อย นั้น
การที่ “นายกฯ วางมือ” ไม่ได้หมายความว่า” นายกฯวางใจ”

แบบนี้แหละที่เรียก “ไม่ล้วงลูก” ของจริง
เป็นทั้งการบริหารองค์กร, บริหารอำนาจ, บริหารคน และบริหารปัญหา พร้อมด้วยศาสตร์ ด้วยศิลป์ ด้วยคำนวณหนักเบา, ด่วนไม่ด่วน ของเรื่องราว บนการให้เกียรติกันและกัน

แต่ที่ควรตระหนัก ยังไม่ต้องตระหนก คือ นายกฯ “ปลายเปิด” ในคำสั่งไว้มิใช่หรือ?
ระดับกระทรวง “รัฐมนตรี-ปลัดฯ” จะต้มยำทำแกงหมอชาญชัยด้วยข้อหาฉ้อราษฏร์บังหลวง ยักเยื้องอย่างไรก็ทำไป
แต่ท้ายของเรื่องทั้งหมด

นายกฯบอก………
“จะตั้งคณะกรรมการที่มีความอิสระอีกชุดหนึ่ง เพื่อสรุปสาระสำคัญของเรื่อง และหาข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย”

หมายความว่าไง?
ก็หมายความว่า ในขั้นตอนอำนาจปลัดสุขุมฯ จะตั้งพวกไหนเป็นคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับหมอชาญชัย จากเหตุ “บัตรสนเท่ห์” ใบเดียว ก็ว่ากันไป
และที่นายอนุทินบอกว่า ตัวท่านจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น อีกชุดหนึ่ง รวมถึงเรื่อง

-การกล่าวหาเรียกรับผลประโยชน์
-การออกคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายผอ.๒ โรงพยาบาล
-การดำเนินการที่เกี่ยวเนื่อง

ประเด็นหลังนี้ “ครอบจักรวาล” จนเดาไม่ออกว่า “การดำเนินการที่เกี่ยวเนื่อง” หมายถึงเรื่องอะไร-ตรงไหนบ้าง

หมายถึงเงื่อนงำในยุคหมอวีระพันธ์เป็นผอ.ขนาดมีเงินทอน ๕% บริษัทยา ยังขาดทุนสะสมกว่า ๒๐๐ ล้าน ต่อเนื่องเป็นสิบปี ว่าเพราะเหตุใด?

การซื้อที่ดินข้างโรงพยาบาลทำไมคาราคาซังโอนไม่ได้ และที่โอนเงินเข้าบัญชีตัวเองบ้าง ให้ชมรมแพทย์ชนบทบ้าง มีที่มา-ที่ไปอย่างไร?

เนี่ย…..
ที่รัฐมนตรีตั้งกรรมการสอบผลสอบของคณะกรรมการชุดปลัดฯ อีกทอดนั้น มีหัวข้อเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้หรือไม่ ไม่แน่ใจ!
สรุปเป็นว่า ถ้าผลสอบหมอชาญชัยออกมาตอบโจทย์เฉพาะปลัดฯ และรัฐมนตรี
แต่ไม่ตอบโจทย์ธรรมาภิบาล ไม่ตอบโจทย์ตามกระบวนการสอบสวนที่ครบถ้วน โปร่งใส ตรวจสอบได้

คราวนี้แหละ…..
ถึงขั้นตอน “คณะกรรมการอิสระ” ของนายกฯ จะเข้ามาตรวจสอบ ทั้งชุดปลัดฯ และชุดของรัฐมนตรี!

นี่…โลกที่ “เป็นจริง” ด้านความ “ยุติธรรม”
อะไรที่เรียกว่า “ยุติธรรม”
“มาช้า” เสมอ!

ลิเก-หนัง-ละคร ถึงเป็นแบบนั้น ไม่สังเกตกันหรือ คนที่ได้ปล้ำนางเอกก่อนเพื่อน ตั้งครึ่ง-ค่อนเรื่อง ไม่ใช่พระเอก
หากแต่เป็น “ตัวโกง”!
กว่าพระเอกจะได้แฮปปี้ เอนดิ้ง กับนางเอก ส่วนตัวโกงตายแหงแก๋
จบเรื่อง-ลาโรงพอดี!

พระเอก-ผู้ร้ายในหนัง-ละครกับในชีวิตจริง ก็ไม่ต่างกันซักเท่าไหร่ หมอชาญชัยกับหมอเกรียง ตอนนี้ เหมือนดาราร่วมฉากละคร “คนเสื้อกาวน์”
ใครเป็นพระเอก-ผู้ร้าย ดูเอาจากคนเขียนและกำกับบทนี่แล้วกัน

ขอสั่งการเป็นนโยบาย ………
“ห้ามออกคำสั่งย้ายขาด นายชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.โรงพยาบาลขอนแก่น ออกจากตำแหน่ง และ
ห้ามย้าย นายเกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี
จนกว่าการสอบสวนวินัยร้ายแรงจะแล้วเสร็จ”

ดูเหมือนดี มีธรรมาภิบาล
แต่เมื่อถอดรหัสคำสั่งออกมาเพื่อปฏิบัติ หมายความว่า

-ห้ามถอนชนัก “ฉ้อราษฏร์บังหลวง” ที่ปักหลังหมอชาญชัยออก
-หมอชาญชัยต้องอยู่ใน “กรงกระทรวง” ต่อไป ยังกลับไปนั่งเก้าอี้ผอ.รพ.ขอนแก่นไม่ได้
-ให้หมอเกรียงศักดิ์นั่งเก้าอี้ “รักษาการ” ผอ.รพ.ข่อนแก่นต่อไป ห้ามใครย้ายไปไหน
-ให้เก็บเก้าอี้ผอ.รพ.พระปกเกล้า จันทบุรี ไว้รอหมอเกรียงศักดิ์ก่อน ยังตั้งใครไปเป็นเต็มก้นไม่ได้

ตกลง คำสั่งนี้ “เป็นคุณ-เป็นโทษ” กับฝ่ายไหน เป็นธรรมาภิบาลทางบริหารและปกครองในวงราชการหรือไม่?
คุณหมอ คุณพยาบาล พินิจ แล้วช่วยตอบที!

บัตรสนเท่ห์กล่าวหาหมอชาญชัยใบเดียว ปลัดฯ สุขุมใช้เวลากว่า ๘ เดือน เพียงเพื่อจะชี้ว่า มีมูลหรือไม่มีมูล
ก่อนชี้มีมูล ตั้งข้อหาฉ้อราษฏร์บังหลวง เพื่อเอาให้ตายสนิท เพิ่มไปอีกว่า มีพฤติกรรมขมขู่ คุกคามพยาน ซึ่งป่านนี้ ไม่รู้ว่าใคร ไม่ปรากฏตัว-ปรากฏนาม!
ก็เอาหละ กว่าจะถึงขั้นได้ย้ายหมอชาญชัยเข้ากรุ ก็ใช้เวลาร่วมปี

คำถามต่อมีว่า…….
จะต้องสอบอย่างน้อยอีก ๓ ขั้น คือขั้นปลัดฯ ต่อด้วยขั้นรัฐมนตรี และอาจตามมาอีกในขั้นนายกฯ
แบบนี้ ต้องรอไม่ต่ำกว่า ๒ ปีรึนี่ กับคำสั่งสอบที่ไม่มีกำหนดเวลา?
หมอชาญชัยตอนนี้ อายุ ๕๕ -๕๖
เผลอๆ “เลือดตกใน” จากชนักฉ้อราษฏร์บังหลวงที่ปักหลังไปก่อน เป็นละครเสื้อกาวน์ที่ แซด เอนดิ้ง แทนแฮปปี้ เอนดิ้ง ซึ่งมันเศร้านัก

ที่สำคัญ รัฐมนตรีจะอยู่ถึงเรื่องนี้มีคำตอบเป็นที่สุดหรือไม่ นี่แหละประเด็น และเมื่อกาลเวลาผ่านไป ใครจะมาอินังขังขอบกับหมอชาญชัย


๓-๔ เดือน ปลัดฯ สุขุมก็ไป รัฐมนตรี (อาจ) ยังอยู่ คนในกระทรวงจะใจจด-ใจจ่อ กับการแต่งตั้ง-โยกย้ายใหม่ ทั้งแต่ละวิถีชีวิตคน มีเรื่องของแต่ละคนต้องหมุนวนไป
แล้วจะเหลือใครอินัง-ขังขอบกับหมอคนหนึ่ง ที่เชื่อว่า โลกนี้มีธรรมาภิบาลอยู่จริงในทางยึดถือ?

สรุปคือ ในแนวทางที่รัฐมนตรีบัญชา สมมุติ อีก ๒ ปีเรื่องจะเป็นที่สุด ก็หมายความว่า
หมอชาญชัย จะเฝ้ากระทรวงอีก ๒ ปี ห้ามย้ายไปไหน
หมอเกรียงศักดิ์ จะเป็น “ผอ.รพ.ขอนแก่น” อีก ๒ ปี ห้ามย้ายออกไปไหน

จากคำสั่งหมอหนูนี้
ระหว่างหมอเกรียงกับหมอชาญชัย ใครเป็นฝ่ายได้รับธรรมาภิบาล และใครเป็นฝ่าย “พระเอก-ผู้ร้าย”
เขียนใส่ใบเสร็จทายมาได้เลย!


Written By
More from plew
กรรมซัดวิบัติเป็น – เปลว สีเงิน
พูดถึงแต่ละพรรค ต้องชมว่า พรรคเพื่อไทยของครอบครัวอุ๊งอิ๊ง แม้ใจรู้ “หมดหวังแลนด์สไลด์” แต่ทุกคนเก็บอาการระท้อใจได้ดี อย่างไปเปิดเวที “เกทับ” รวมไทยสร้างชาติของนายกฯ ที่โคราช วานซืน
Read More
0 replies on ““พระเอก-ผู้ร้าย ใต้เสื้อกาวน์””