เปลว สีเงิน
เห็นคนนำภาพขบวนมหาชน “คนไม่เอากาสิโน”โพสต์ลงโซเชียล แล้วขียนใต้ภาพว่า
“คนคัดค้านออกมาเยอะ
แต่สื่อหลักไม่นำเสนอเลย …”!
ก็อยากบอกว่า “อย่าน้อยใจ” ไปเลย เราไม่ได้ออกมาเพื่อได้เป็นข่าวออกโทรทัศน์และลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์
แต่ออกมาคัดค้านมิให้รัฐบาลใต้อำนาจทักษิณ “บ่อนทำลายประเทศ-วางยาพิษฆ่าคนไทย” ด้วยการออกกฎหมายให้ประเทศมีบ่อนกาสิโน!
อยากให้ท่านตรอง แล้วตอบซิว่า….
ระหว่างสื่อโทรทัศน์-สื่อหนังสือพิมพ์บางสำนักที่ “เงินซื้อได้”
แต่กับ คปท.,อศปปส.,อกองทัพธรรม ที่เป็นตัวนำ ประกอบด้วยคุณพิชิต คุณจตุพร ทนายนกเขา หมอวรงค์ หมอตุลย์ คุณวิรังรอง คุณแก้วสรร และอฯลฯอที่ “เงินซื้อไม่ได้”
อย่างไหน “ไม่เสียชาติเกิด” มากกว่ากัน!?
แผ่นดินไหว ๗.๗ ริกเตอร์ เมื่อ ๒๘ มีนา.ไม่มีใครมองเห็นแรงเขย่า มันมาทางใต้ดิน ลึกลงไป ๑๐ กิโลเมตร
แต่พลัง “มหาศาล”
เขย่าพม่าพังราบไปทั้งเมือง เขย่าถึงไทย จนสะท้าน-สั่นไหวระเนน-ระนาด ไปทั้งประเทศ!
ฉันใด ก็ฉันนั้น แรงมุ่งมั่นพิทักษ์ชาติเพื่อมิให้ “รัฐบาลอสัตย์ธรรม” แปลง “แผ่นดินธรรม-แผนดินทอง” ไปเป็นกาสิโนสถาน พลานุภาพก็ไม่ต่าง ๗.๗ ริกเตอร์ นั้น
การอุทิศสุขตน ยอมทน-ยอมลำบาก ยืนหยัดชูธงต้าน “อสัตย์ชาติ” โดดเดี่ยวกลางแดดยาวนานของพวกท่าน
แรงยิ่งกว่า ๗.๗ ริกเตอร์ ซะอีก….
มันเขย่าจิตสำนึกคน “รักธรรม-รักแผ่นดิน” ทุกหมู่เหล่าให้ตื่น โดยไม่ต้องพึ่งโทรทัศน์-หนังสือพิมพ์ ที่อิ่มเหยื่อจาก “อสัตย์ป้อน”
บัดนี้ โดยไม่มีการนัดหมาย
นอกจากเหล่าท่านที่ตรากตรำในถนน ซึ่งไม่ใช้ม็อบ เพราะไม่มีใครจ้าง ไม่มีใครเกณฑ์ ต่าง “กัดก้อนเกลือ” เป็นเหงื่อชโลมชาติมารวมตัวกันเอง จากร้อยเป็นพันๆ ขณะนี้แล้ว
“องค์กรสังคม-ปัญญาชน” ทั้งแผ่นดิน ไม่ต่างแรงเขย่าทางใต้ดิน ก่อเกิดประสานเป็นพลังหาศาล “เขย่ารัฐบาลใต้ตีนทักษิณ” สั่นสะท้าน
ยากพ้น “พังโครม-ล้มครืน!”
ราชบัณฑิตยสถาน, พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย, สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิก, สภาคริสตจักรในประเทศไทย
๑๙๑ อดีต สว., มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน, รศ. ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล ในฐานะตัวแทนนิสิต นักศึกษาและนักวิชาการส่วนหนึ่ง
กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม, กลุ่มแพทย์จุฬา อาวุโส (รุ่น ๒๗) ลงนามโดย ๓๗ นายแพทย์ใหญ่,
กลุ่มอาจารย์และนักวิชาการคณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์รวมทั้งภาคประชาชน ทั้งในกรุงเทพฯและจังหวัด ไม่ว่าเหนือ-ใต้-กลาง ที่ประกาศตัว
“ไม่เอากาสิโน”!
“……จึงจำเป็นต้องคัดค้าน พรบ. ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร อันมีเป้าหมายหลัก คือการเปิดบ่อนกาสิโน และคัดค้าน พรบ.เกี่ยวกับการพนันออนไลน์ที่ จ่อคิวตามมา
หากรัฐบาลแพทองธาร ยังดื้อดึงผลักดันให้มีบ่อนกาสิโนพนันออนไลน์
จะถือว่ารัฐบาลนี้ มุ่งมั่นทำลายประเทศและสังคมไทย ซึ่งไม่ควรให้เป็นผู้ปกครองประเทศอีกต่อไป”
นี่คือ ข้อความแถลงการณ์ของ “กลุ่มอาจารย์และนักวิชาการคณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์!”
และเมื่องวาน(๖ เม.ย.๖๘) “นายจรัญ ภักดีธนากุล” อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ปี ๕๐
ร่วมกับอดีตสสร.ทำหนังสือเปิดผนึกถึงประธานรัฐสภาและสมาชิกรัฐสภา ความตอนหนึ่งมีว่า….
ชมรมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวนี้
ไม่สมควร บรรจุเข้าเป็นวาระเพื่อการพิจารณา ด้วยเหตุผลดังนี้
๑.ร่างกฎหมายนี้ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะเร่งรีบพิจารณา เพราะไม่ปรากฏในนโยบายการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย และนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่หาเสียงไว้กับประชาชนในการเลือกตั้งทั่วไป
แต่เป็นเรื่องที่นายทักษิณ ชินวัตรเป็นผู้แสดงวิสัยทัศน์ไว้ที่เนชั่นทีวีและรัฐบาลไปรับมาบรรจุในนโยบายของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร
๒. การกระทำทั้งหมดที่เกี่ยวกับร่างกฎหมายนี้เป็นการกระทำที่มาจากนโยบายที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๖๕
พระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ของชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ และประกาศพระบรมราชโองการ เรื่อง ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐) ลงวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
ในส่วนสำคัญคือ วิสัยทัศน์ของยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ที่ระบุว่า “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง”
ซึ่งการเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ ไม่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ดังกล่าว
ซึ่งตราบใดที่ยังไม่มีการทบทวนแผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ใน ๑ รอบทุก ๕ ปีเสียก่อน การกระทำใดของคณะรัฐมนตรี รัฐสภา และหน่วยงานของรัฐทุกหน่วย
ย่อมต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ที่ได้ประกาศไว้แล้ว
ดังนั้น การกำหนดนโยบายของรัฐบาลก็ดี การเสนอร่างกฎหมายนี้ต่อรัฐสภาก็ดี และการหยิบยกร่างกฎหมายนี้ขึ้นพิจารณาในรัฐสภาก็ดี
ล้วนแล้วแต่เป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๖๕ และมาตรา ๗๕
และพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ของชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ และมาตรา ๑๑ ตามที่อ้างถึง(๑)-(๓)
ซึ่งจะส่งผลให้บรรดาผู้กระทำ ต้องตกเป็นผู้กระทำการใช้อำนาจอธิปไตยอันไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
และอาจต้องรับผลจากการกระทำของตนด้วยบทบัญญัติอันเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ
๓. ร่างกฎหมายนี้ส่งผลกระทบต่อความคงอยู่และการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินของรัฐอย่างมากมาย
เพราะมีการนำที่ดินของรัฐที่หน่วยงานของรัฐครอบครองใช้ประโยชน์ไปให้เอกชนจัดทำสถานบันเทิงครบวงจรโดยไม่ปรากฏการตอบแทนที่คุ้มค่า
เท่ากับเป็นการแปลงและนำทรัพย์สินของรัฐไปแปลงให้กับเอกชนใช้ประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยหลักการของกฎหมายเกี่ยวกับการใช้สอยทรัพย์สินของรัฐ โดยขัดหรือแย้งกับหน้าที่ของรัฐในการดูแล
๔. การเสนอร่างกฎหมายนี้ ไม่สามารถแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจของชาติและปัญหาปากท้องของประชาชนได้ แต่กลับเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนมาเฟียการพนันต่างชาติเพียงบางกลุ่ม
โดยที่ประเทศไทยจะได้รับความสูญเสียและมีความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ อาจมีอาชญากรรม และกระทบต่อสังคมทุกระดับอย่างมากมายเป็นเวลายาวนาน
ร่างกฎหมายนี้ จึงเป็นเรื่องที่เอื้อต่อผู้ประกอบการที่เป็นกลุ่มทุนมาเฟียการพนันบางกลุ่มให้ได้รับประโยชน์โดยไม่คำนึงถึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
จึงเป็นร่างกฎหมายที่ไม่ชอบด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๗๕ วรรคหนึ่งและวรรคท้าย
๕. ร่างกฎหมายนี้ เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงอบายมุขที่จะเกิดขึ้นในสถานบันเทิงครบวงจรและการพนันออนไลน์
ที่จะมีการพยายามทำให้ถูกกฎหมายแอบแฝงอยู่กับบ่อนกาสิโนให้มีการเล่นที่แพร่หลายจนไม่อาจควบคุมได้
ทั้งอาจทำให้เยาวชนของชาติเข้าไปมัวเมาในการพนันหลากหลายรูปแบบ จนทำให้เสียผู้เสียคนอันอาจส่งผลให้ต้องก่ออาชญากรรมและการค้ามนุษย์เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย
อันจะทำให้เยาวชนเหล่านั้นกลายเป็นพลเมืองที่ด้อยคุณภาพของประเทศชาติ นำไปสู่ความวิบัติของบ้านเมืองในอนาคตอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
๖. ร่างกฎหมายนี้ ไม่มีมาตรการใดๆ ในการคุ้มครองป้องกันมิให้ประชาชนในชาติมีภูมิคุ้มกันต่ออบายมุขในรูปแบบต่างๆของสถานประกอบการธุรกิจบันเทิงครบวงจรได้ อันจะนำพาประเทศไปสู่ความวิบัติได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ชมรมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ จึงถือว่า เป็นการการกระทำที่ไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลที่ดี ตามหลักการของรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่เคยมีมาในราชอาณาจักรไทย
เป็นการดำเนินการตามนโยบายที่ขัดแย้งต่อพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ของชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐
เป็นการกระทำที่ขาดจริยธรรม ไร้ศีลธรรมและคุณธรรมที่นักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยพึงมีและต้องรับผิดชอบต่อประชาชน
บิดเบือนการใช้อำนาจอธิปไตยที่ได้รับมาจากการเลือกตั้งของประชาชน โดยมุ่งหวังเพียงเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
โดยไม่ฟังการเรียกร้องและการปฏิเสธของสังคม ที่ปฏิเสธการตรากฎหมายฉบับนี้ อันเป็นการกระทำที่ขัดแย้งกับคำถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา๑๖๑
และข้ออ้างของตนที่ให้ไว้กับประชาชนตามที่อ้างตัวเองว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ชมรมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ จึงขอเรียกร้องต่อ สมาชิกรัฐสภา ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตยทางนิติบัญญัติของปวงชนชาวไทย
ควรพิจารณาทำหน้าที่สมาชิกรัฐสภาให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม และตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
ด้วยการมีมติ “ไม่รับหลักการ” ของร่างพระราชบัญญัติการประกอบการธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …
เพื่อประโยชน์โดยรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม อันจะนำไปสู่สันติสุขของสังคมประเทศอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา…….
ขอแสดงความนับถือ
ศ.พิเศษ จรัญ ภักดีธนากุล, ศ.ไชยยศ เหมะรัชตะ, ศ.ดร.เจริญศักดิ์ โรจนฤทธิ์พิเชษฐ์, นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย, นายมานิจ สุขสมจิตร
นายเกียรติชัย พงษ์พาณิชย์, นายอัครวิทย์ สุมาวงศ์, รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง, นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล, นายโอรส วงษ์สิทธิ์
ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ, รศ.ดวงสุดา เตโชติรส, รศ.รุจิรา เตชางกูร, ผศ.พรรณราย แสงวิเชียร, ดร.กฤษฎา ให้วัฒนานุกูล
นางกรรณิการ์ บันเทิงจิตร, นางสาวพวงเพชร สารคุณ, นายคมสัน โพธิ์คง, นายสมยศ สมวิวัฒน์ชัย, ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์
ดร.อภิชาติ ดำดี, ดร.วิทธยา บริบูรณ์ทรัพย์, นายชาลี กางอิ่ม
นายสมเกียรติ รอดเจริญ, นายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล,
นายปริญญา ศิริสารการ, ดร.วีนัส ม่านมุ่งศิลป์, นาย ช.ชัยนาท ศรีเสมาเมือง, นายรัฐ ชูกลิ่น, นายอรรครัตน์ รัตนจันทร์
………………………………………….
อยากบอก”เพื่อไทย-เพื่อทักษิณ”ว่า
ม็อบน่ะ จุดไม่ติดหรอก
แต่คน “ไม่เอากาสิโน” ลุกพรึ่บทั้งเมืองแล้ว!
เปลว สีเงิน
๗ เมษายน ๒๕๖๘
