วันที่ 12 มิ.ย. 63 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ครั้งที่ 4/2563
โดยมี นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในคราวประชุม ครั้งที่ 3/2563 เห็นชอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดรับข้อเสนอโครงการสำหรับการจัดหาเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ด้านดิจิทัลที่สนับสนุน ช่วยเหลืองานด้านสาธารณสุขและการรักษาสุขภาพของประชาชน เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุน ให้ความช่วยเหลือส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ โรงพยาบาลรัฐ สถานพยาบาลภาครัฐ โรงพยาบาลในมหาวิทยาลัยและโรงเรียนแพทย์ สภากาชาดไทย ที่ได้รับผลกระทบหรือต้องการช่วยเหลือสนับสนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการบริหารกองทุนฯ กล่าวว่า จากการที่กองทุนฯ ได้เปิดรับข้อเสนอโครงการ ระหว่างวันที่ 21 – 30 เมษายน 2563 พบว่า มีหน่วยงานที่ยื่นข้อเสนอโครงการมามากกว่า 200 โครงการ จาก 159 หน่วยงาน ซึ่งจากการที่ที่ประชุมพิจารณาข้อเสนอโครงการดังกล่าว ที่ประชุมจึงมีมติอนุมัติโครงการ จำนวน 42 โครงการ
โดยในภาพรวมคาดว่างบประมาณที่จัดสรรไปนั้น จะก่อให้เกิดประโยชน์และสามารถช่วยเหลือประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การสนับสนุนหุ่นยนต์ช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ ชุดปฏิบัติการแสดงผลและควบคุมติดตามสัญญาณชีพ Telemedicine เครื่องช่วยหายใจดิจิทัล ห้องแยกความดันลบ ระบบคัดกรองผู้ป่วย เป็นต้น
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขอให้สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เร่งดำเนินโครงการที่ได้รับการอนุมัติ ให้เป็นไปตามแผน และดำเนินโครงการให้สอดคล้องกับภารกิจของหน่วยงาน การบริหารกองทุน ต้องพิจารณาดำเนินการ ให้เป็นไปตามระเบียบ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงมีการประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด และขอฝากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ช่วยผลักดันและกำกับ ให้การส่งเสริมและสนับสนุนเงินจากกองทุนเกิดประโยชน์สูงสุดในวงกว้าง เป็นไปตามเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ของกองทุนต่อไป