นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (5มิ.ย.) เวลา 15:30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ครอบครัวแห่งชาติ ที่ประชุมเห็นชอบแผนปฏิบัติการพัฒนาสถาบันครอบครัว พ.ศ. 2563-2565 มีเป้าหมายเพื่อสร้างครอบครัวให้มีความเข้มแข็ง โดยมี 4 เป้าประสงค์ ประกอบด้วย
1.สมาชิกของครอบครัวมีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มีสุขภาวะที่ดี มีคุณธรรมและจริยธรรม และสถาบันครอบครัวสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้
2.ครอบครัวมีหลักประกันความมั่นคงและสวัสดิการขั้นพื้นฐานทุกด้าน เช่น สุขภาพ การศึกษา รายได้ การคมนาคม เป็นต้น
3.กลไกและเครือข่ายการทำงานด้านครอบครัวทุกระดับ สามารถเชื่อมโยงและบูรณาการนโยบายการพัฒนาสถาบันครอบครัวไปสู่การปฏิบัติอย่างมีทิศทางและเป็นรูปธรรม และ
4.ครอบครัวสามารถรู้เท่าทันสื่อ และใช้สื่อเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ครอบครัวไทยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 และได้ทราบว่า จากการสำรวจโดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงพัฒนาสังคมฯ จำนวน 2,069 ตัวอย่าง พบว่า ประชาชน 47% ไม่มีการวางแผนชีวิต การเรียน การทำงาน และอนาคตของครอบครัว
ซึ่งเรื่องนี้ ภายใต้แผนปฏิบัติการพัฒนาสถาบันครอบครัวที่ได้รับการเห็นชอบไปนั้น ได้บรรจุหลักสูตรโรงเรียนครอบครัว สาระครอบคลุมการเพิ่มทักษะการสร้างสัมพันธภาพในครอบครัว การอบรมสร้างอาชีพ/เพิ่มรายได้ และการวางแผนการเงินไว้ด้วย เพราะความรู้และทักษะในเรื่องดังกล่าวเป็นการสร้างความเข้มแข็งแก่ครอบครัวต่อการเผชิญสถานการณ์ยากลำบากที่อาจเกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึง
นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มว่า แผนปฏิบัติการฯจะถูกเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบต่อไป และจะมีการประเมินผลการปฏิบัติการตามแผนทุกปี เพื่อติดตามความก้าวหน้าและปรับปรุงการทำงานอย่างต่อเนื่องเพราะเป็นเรื่องที่ทุกกระทรวงและภาคประชาชนมีบทบาทในการขับเคลื่อนร่วมกัน
มากไปกว่านั้น นายจุรินทร์ได้ให้ความสำคัญกับบทบาทของศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค.) ซึ่งต้องได้รับการสนับสนุนในทุกๆด้านเพื่อให้เป็นกลไกขับเคลื่อนภารกิจสร้างครอบครัวเข้มแข็งในระดับชุมชน ปัจจุบันนี้ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีทิศทางพัฒนาศูนย์ฯภายใต้แนวคิด “บริการครบ จบในศูนย์เดียว” ซึ่งจะเริ่มต้นในจังหวัด พิษณุโลก อุบลราชธานี ปัตตานี และสมุทรปราการ