เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 63 เวลา 12.30 น. พลตรีศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา ร่วมกับ หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 ลงพื้นที่บริเวณหลักเขตที่ 31/22 ตรวจเยี่ยมกำลังป้องกันชายแดน เพื่อติดตามแผนการสกัดกั้นตามแนวชายแดนและช่องทางท่าข้ามธรรมชาติแนวชายแดนไทย – มาเลเซีย ป้องกันการลักลอบการกระทำผิดกฏหมาย โดยเฉพาะการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย การขนสิ่งของผิดกฏหมายตามแนวชายแดน รวมถึง การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดและเพิ่มกำลังในการลาดตระเวนตามแนวชายแดนและพื้นที่รอยต่อ
พลตรีศานติ ศกุลตนาค ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา กล่าวว่า ทุกวันนี้ยังมีพี่น้องประชาชนเดินทางเข้าประเทศนั้น ส่วนใหญ่จะเดินทางเข้าประเทศตามช่องทางธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ดังนั้นจึงขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนที่เดินทางผ่านช่องทางธรรมชาตินั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเข้มงวดและเพิ่มมาตรการในการป้องกัน เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ผู้ที่เดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติผ่านไปได้ โดยเน้นย้ำให้ประชาชนที่มีความประสงค์จะเดินทาง เข้าสู่ราชอาณาจักรขอความร่วมมือให้เดินทางผ่านช่องทางที่ทางภาครัฐกำหนด
ทั้งนี้ จึงขอความร่วมมือไปยังผู้นำชุมชนในพื้นที่ ให้ความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชนที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้าราชอาณาจักร ให้ผ่านช่องทางที่ถูกต้อง หากตรวจพบหรือสามารถจับคุณได้ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะต้องกักตัว 14 วัน ตามกระบวนการที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนด เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้
นอกจากนี้ ยังเป็นการป้องกัน และการลักลอบเข้าเมืองของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อาจจะแทรกแซงผ่าน เข้ามา และฉวยโอกาส เข้าประเทศ ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่จำเป็นจะต้องสกรีนทุกช่องทาง เพื่อเป็นการป้องกันและสกัดกั้น เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านเดินทางและอาศัยเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ได้
จากนั้น ได้เดินทางต่อไปยัง องค์การบริหารส่วนตำบลประกอบ หมู่ 1 อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เพื่อมอบสิ่งของบำรุงขวัญและอุปกรณ์ในการป้องกัน โควอด-19 ให้กับเจ้าหน้าที่และหน่วยงานในพื้นที่