สันต์ สะตอแมน
หนังเจ๊งยับ!
นี่..มีคนพูดให้ได้ยิน ถ้าไม่จริงอย่างไรผู้สร้าง-ผู้กำกับฯหนังเรื่อง “ปะ ฉะ ดะ” จะชี้แจงก็ได้นะ เผื่อบางทีจะทำให้ผมเปลี่ยนใจ นึกอยากดูหนังขึ้นมาก็ได้
ซึ่งต้องสารภาพตามตรง ก่อนหนังเรื่องนี้จะฉายก็ตั้งใจอยู่ อยากดูคุณก้อง ห้วยไร่ คุณเบิ้ล ปทุมราช สองนักร้อง (ไม่แน่ใจลูกทุ่งรึเปล่า) คนดังเล่นหนังบู๊อยู่เหมือนกัน
ดูว่าจะเล่นได้ถึงบท-ถึงอารมณ์มากน้อยแค่ไหน จะถอดแบบคุณจา-พนม ยีรัมย์มาหรือไม่ อยากรู้-อยากเห็น!
แต่..หลังจากที่ได้อ่านข้อความที่คุณก้อง ห้วยไร่โพสต์.. “ปะ ฉะ ดะ 4.9/10 ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน
– บทของหนังเข้าใจง่าย ว่ากำลังเล่าเรื่องอะไร – นักแสดงสมทบที่เป็นรุ่นใหญ่ มีแต่มืออาชีพ ทำให้ความลื่นไหลของภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นไปในทิศทางที่ดี
แต่ก็กลายเป็นว่ารุ่นใหญ่ต้องแบกนักแสดงนำ
– เป็นหนังดราม่า แอ็คชั่น มีคอมเมดี้นิดหน่อย ซึ่งแตกต่างไปจากหนังทุกเรื่องของนักแสดงนำกลุ่มนี้
– นักแสดงนำเข้าใจในบท และตัวละครที่ตัวเองได้รับหน้าที่ได้ดี แต่ด้วยประสบการณ์ และความสามารถที่ต้องมีการพัฒนาไปอีกทำให้มีบางจุดที่ต้องหรี่ตาดูบ้าง
แต่ความน่ารัก มีให้เต็ม 100 สำหรับ แฟนๆ ที่รักและติดตาม น้องนุ๊ก น้องปาย
– เนื้อเรื่องค่อนข้างจะรุนแรง ทางด้านเนื้อหาและภาษา ไม่เหมาะกับเด็ก แต่เยาวชนที่มาพร้อมกับผู้ปกครองก็สามารถดูได้ไม่ได้รุนแรงหรือโหดร้ายถึงขนาดดูไม่ได้เลย
– ถ้าเป็นแฟนหนังแนวนี้ เป็นแฟนนักแสดงกลุ่มนี้ เป็นคนที่ที่ต้องการอยากเห็นความแตกต่างของผู้กำกับ อรุณ ธีรเดช ที่เปลี่ยนแนวหนังไปแบบไม่เหลือเค้าโครงเดิม
แนะนำให้เข้ามาดู หนังไม่ได้ดีมากมาย แต่ก็ไม่ได้แย่จนดูไม่ได้
สุดท้ายความชอบ ความรัก ความเมตตา อาจจะนำพานำเรื่องนี้ เป็นที่กล่าวถึงในความพยายาม ของผู้จัด เบิ้ล ปทุมราช และทีมของพวกเขาก็เป็นได้” แล้ว
ผมก็ให้รู้สึกลังเล และพอลังเลงไป-ลังเลมา ก็เลยทอดเวลาเสียจนมารู้ตอนนี้หลังจากที่หนังเข้าฉายจะร่วม 2-3 สัปดาห์ว่า “ปะฉะดะเจ๊งยับ”!
จึงเลยตัดใจ.. “ไม่ดูดีกว่า” พร้อมกันนั้นก็ให้รู้สึกเสียดาย ว่าขณะที่หนังไทยกำลังโงหัวเก็บเงินรายได้เกิน 50 ล้านบาท คึกคักกันอยู่ดีๆ นั้น..
หนัง..“ปะฉะดะ” ไม่น่าจะมาฉุดดึงให้ตกต่ำกลับไปอีก!
ก็..ไม่ได้หมายจะโทษผู้สร้าง-ผู้กำกับฯ กลับเห็นใจเสียด้วยซ้ำที่ต้องมาเสียทั้งเงิน ทั้งกำลังกายและกำลังใจ เพียงแต่เสียดายตรงว่า..
ตลาดหนังไทยที่กำลังเริ่มสดใส น่าจะได้คึกคักมีชีวิตชีวากับรายได้กับทุกเรื่อง-ทุกโปรแกรมต่อๆ ไปเท่านั้นแหละ!
และนี่..ก็หวังว่าจะมีแค่ “ปะฉะดะ” เรื่องนี้เรื่องเดียวที่มาคั่นให้หนังไทยเสียจังหวะ โปรแกรม (หนัง) ใหม่ ก็ขอให้เก็บเงินรายได้เกิน 50 ล้านบาทอีกก็แล้วกัน!
พูดถึงหนังไทย ผมก็ลืมไม่ได้แสดงความยินดีกับหนังไทยที่ได้รับรางวัลของ “สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย” ครั้งที่ 13 ที่ได้ประกาศไปเมื่อต้นเดือนเมษาผ่านมา
ซึ่งหนังยอดเยี่ยมแห่งปี คือเรื่อง “สัปเหร่อ” ส่วนบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เรื่อง “เพื่อน(ไม่)สนิท” เขียนโดยคุณอัตตา เหมวดี คว้ารางวัลไป
บางท่านอาจแปลกใจ-สงสัย หนังที่บทดีทำไมถึงไม่ใช่หนังดีหรือหนังยอดเยี่ยม..นั่นนะสิ ผมเคยถามผู้รู้-ผู้เชี่ยวชาญแล้ว เขาอธิบายความเสียยืดยาว..
ก่อนสรุป..เป็นเรื่องธรรมดาไม่มีอะไรแปลก!
เมื่อผู้รู้ว่าไม่แปลก ผมก็เชื่อ และไม่ได้ติดใจ-สงสัยกับประเด็นนี้อีกเลย แต่อย่างไรก็ตามผมก็ยังคงมีความสงสัยตามประสาคนขี้สงสัยอยู่แทบทุกครั้งของการแจกรางวัล
อย่างคราวนี้ แม้จะให้ยินดีกับหนังเรื่อง “มนต์รักนักพากย์” ของผู้กำกับคุณนนทรีย์ นิมิบุตรเป็นพิเศษกับรางวัลถ่ายภาพหรือผู้กำกับภาพยอดเยี่ยม ที่คุณธีระวัฒน์ รุจินธรรม ได้
และรางวัลดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ที่ “คุณชาติชาย พงษ์ประภาพันธ์” ได้ แต่ทำไมนะ คุณสามารถ พยัคฆ์อรุณ” จึงไม่ได้รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม..
หรือ..สงสัยตัวเองสายตาไม่ดีกระมัง?