๘ เดือน “ไปแล้ว-ไปเลย” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

“ลานีญา”
พาฝนชะฝุ่นกรุงคลุ้ง “อะฟลาท็อกซิน” จากข้าวเน่า เย็นวันวาน ตอนบ่ายแก่
แต่แป๊บเดียวเหือดเม็ด

แดด “ผีตากผ้าอ้อม” สาดแทน “แสงเหนือ” แยงกระจกทะลุเข้าแทงตา เพราะผมดันนั่งจิ้มคอมพ์หันไปทางทิศนั้นพอดี

“ลานีญ่า-เอลนีโญ”
เป็นปรากฎการณ์สยบ “อหังการมนุษย์” ที่ทะนงตนได้น่าประทับใจ

หลายประเทศ “ซีกโลกใต้” อย่างบราซิล ตอนนี้ น้ำท่วม จมหายและตายเกลื่อน
ทีมวอลเลย์บอลสาวไทย เดินทางไปแข่ง “เนชั่นลีกส์” ที่ ริโอ เด จาเนโร อยู่ตอนนี้ แต่คนละเมืองกัน

ยังไงก็ สาวๆ อย่าเผลอไปเดินเดี่ยวชายหาดที่นั่นเป็นอันขาด กระทั่ง “ตามถนน” ก็เหอะ
กฎที่ “ริโอ เด จาเนโร” มีว่า….
ระหว่าง “กระเป๋า” กับ “ชีวิต” ต้องเลือกเอาอย่างหนึ่ง!

ขณะเดียวกัน ทางเขตร้อนตะวันตก อินโดฯ ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และอีกหลายประเทศ ไม่ต้องแห่นางแมว ฝนเทเป็นฟ้ารั่ว

บ้านเรา “พระโค” บอกแล้ว น้ำท่าพอดี
ช่วงนี้ มีฝนสลับ “ดับร้อน” แต่ปลายปี พระโคไม่ได้บอก แต่ผมบอกเอง “มวลน้ำก่อนใหญ่” มาแน่!

คนไทยต้องเสี่ยงทาย ว่าฝนจะตก “เหนือเขื่อน” หรือ “หลังเขื่อน” ถ้าหน้าเขื่อนก็ “บุญไทย”
แต่ถ้า “ท้ายเขื่อน” ก็ซวยไป ก็ไม่ต้องเตรียมอะไร
“เตรียมใจ” อย่างเดียวพอ!

“ฟ้าถล่ม-ดินทะลาย” จะเห็นเป็น”ซอฟต์ พาวเวอร์” ตั้งแต่ปลายกันยา.ซึ่งน่าจะฤกษ์ดี ทั้ง “ฤกษ์ล่าง-ฤกษ์บน”
เศรษฐี “ดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท” ที่แหงนเถิ่ง รอแจก
ทำใจสบายๆ “วัดใจ” รัฐมนตรีคลังที่ชื่อ “พิชัย ชุณหวชิร”

ถ้าพร้อม “ติดคุกเพื่อนาย”
ก็จะเอา ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาทไทย เปลี่ยนเป็น “กระเบื้องดิจิทัล” ไปแจกแบบมีเลศนัย ตามสินบนหาเสียง

ถ้าไม่พร้อม…
และไม่ต้องกา ร”รวยแล้วไม่ได้ใช้เงิน” เพราะต้องไปอยู่ในคุก

ก็อาจแจกตามคำแนะนำผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ”
คือแจก “เฉพาะกลุ่ม” เปราะบาง

เช่น กลุ่ม “ผู้มีรายได้น้อย” หรือผู้ถือ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ซึ่งมีอยู่แล้ว ๑๕ ล้านคน
ใช้งบแค่ ๑๕๐,๐๐๐ ล้านบาทเท่านั้นและ “ทำได้” ทันที!
ไม่ต้องไปทำแอปใหม่ให้เปลืองเงินและสูญเปล่า

เอา ๑ หมื่นบาท เข้าแอปที่มีอยู่แล้ว แบ่งเป็นเฟสไป เงินถึงมือคนกลุ่มนี้ปั๊บ
เขาก็จะใช้จ่ายซื้อสินค้า “ผลิตในประเทศ” เพื่อกิน-เพื่ออยู่ ผ่านปัจจัยดำรงชีวิตประจำวันปั๊บ
ตรงตามประสงค์ “กระตุ้นเศรษฐกิจ” ของรัฐบาลเป๊ะ

เพราะ “สถิติ” ชี้ชัด
คนกลุ่มนี้ มีการใช้จ่าย “เพื่อบริโภค” สูงกว่ากลุ่มรายได้อื่น

ถ้าให้ผมฟันธง ถ้าจะแจก “รัฐมนตรีคลังพิชัย” จะเลือกแจกวิธีนี้มากกว่า
ไม่ผิดกฎหมาย ไม่กระทบการคลัง แต่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ตรงเป้า”
และ “ได้ผล”

“เงินกระตุ้น” นั้น จะไหลเวียน “กระตุกระบบ” ให้การผลิตเดิน เมื่อการผลิตเดิน ทั้งธุรกิจอุตสาหกรรม ทั้งการจ้างงาน
จะเป็น “ฟันเฟืองจักร” ฉุดเศรษฐกิจประเทศให้ GDPกระดิกไปข้างหน้า

แม้ไม่ถึง ๓ แต่อย่างน้อย จะช่วยไม่ให้กระดิกถอยหลังลงไปต่ำกว่า ร้อยละ ๒.๕ แน่

“นายพิชัย” นั้น ไม่ต้องไปสนว่า “คนของใคร”
สนด้านว่า นายพิชัย นั้น “เสือซ่อนเล็บ” ทางการเงิน-ทางบัญชี เบอร์ต้นๆ ระดับประเทศ

ด้วยความเป็น “มืออาชีพ” อยู่ในฐานะ “ผมเลือกได้” ไม่ใช่คนในฐานะ “ขอให้คนอื่นเลือก”

ฉะนั้น นายพิชัยจะไม่ยอมเป็น “ขุนคลังรับจ้างติดคุก” ด้วยการทำโง่ๆ อย่างพวกงั่ง ที่ล้อมกระถางล้างตีนนายแน่

วิธี “หาเงินเข้าคลัง” โดยไม่ต้องอ้างแบบพวกงั่ง ที่ว่า “เงินยืมธกส.ไม่ใช่เงินกู้”

นักการเงิน-การบัญชีเขี้ยวโง้งอย่างนายพิชัย มองปร๊าดเดียว เขาก็เห็น “ร้อยช่อง” และรู้วิธีที่จะได้เงินแบบสมูทๆ

“ไข่ทองคำ” คนทั่วไปมองหาไม่เห็น
แต่คนระดับขุนคลังเขาเก่ง รู้ที่จะบีบตูดเอาไข่ทองคำได้ง่ายๆ อย่างน่าทึ่ง

อย่าง “เช็คธนาคาร” สมัยก่อน มีเงินฝาก ก็ซื้อมา ตกใบละถึงบาทหรือเปล่า ก็ลืมไปแล้ว

มีอยู่ยุคหนึ่ง คลังไม่มีเงิน บีบตูดเอาใบละ ๓ บาท บ่นกันตามประสาอยู่พัก ก็เงียบไป ต่อมา ขึ้นเป็นใบละ ๕ บาท

เดี๋ยวนี้เห็นว่าใบละ ๒๐ บาท หรือเท่าไหร่แล้วก็ไม่ทราบ เพราะตั้งแต่สู่ระบบไอที โดยส่วนตัว ผมเลิกใช้เช็คมาหลายสิบปีแล้ว

“โทรศัพท์บ้าน” เหมือนกัน สมัยก่อน โทรศัพท์เป็นเครื่องบ่งบอกฐานะอย่างหนึ่ง บ้านใครไม่มีโทรศัพท์ แสดงว่าบ่มิไก๊

จำได้ สมัยท่านบุญชู โรจนเสถียร เป็นรัฐมนตรีคลัง หาเงินมาทำนโยบาย “เงินผัน-เงินผลาญ” แบบง่ายๆ

วิธีหนึ่ง คือ ใครขอโทรศัพท์…ได้เลย
แต่ต้องซื้อพันธบัตร ๑๐ ปี จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท!

หรืออย่าง “กองทุนสินภิญโญ” เป็นกองทุนแรกของประเทศมั้ง ระดมทุน ๑๐๐ ล้าน ขายหน่วยละ ๑๐ บาท เป็นเวลา ๑๐ ปี

ขุนคลังสมัยก่อน เขามีวิธี “ตอดเล็ก-ตอดน้อย” ในรูปค่าธรรมเนียมหลากหลายวิธี เจาะจงเอาเฉพาะจากคนใช้

แต่ระยะหลังๆไม่ค่อยเห็นขุนคลังคนไหนทำ ปล่อยให้พวกนักธุรกิจ-พ่อค้าเอาไปซิกแซกหารวยกับชาวบ้านแทน

ไม่ต้องดูอะไรมาก
ตามร้านอาหารส่วนใหญ่ ดูบิลได้เลย รัฐเก็บ VAT แค่ ๗%
แต่ร้านบวกภาษีเถื่อนที่เรียก “เซอร์วิสชาร์จ” อีกกว่า ๑๐%!?

“มัดมือชก” แท้ๆ แต่ทุกคนจำยอม ทั้งที่หลายแห่ง เรียกแทบตาย กว่าจะมีพนักงานมายืนหน้าหงิก-หน้างอ

ปีๆ ระบบ “สั่งสินค้าออนไลน์” มันบวกค่าธรรมเนียมเถื่อนไปกิน รวมแล้วเป็นหมื่น-เป็นแสนล้าน

และกับพวกบริษัทใหญ่ “ตุกติกภาษี” บ้าง รัฐเปิดช่องให้เลี่ยงบ้าง ปีๆ รวมแล้วเป็นแสนๆ ล้าน

เงินส่วนนี้ แทนที่จะเป็นรายได้เข้ารัฐ-เข้าคลัง ทั้งที่รู้และเห็นตำตา
แต่กระทรวงคลังที่รัฐมนตรีสุมกันอยู่เป็นกองขยะ กลับไม่เห็นมันคิดที่จะหาวิธีเอาเงินส่วนนี้มาเข้ารัฐเลย

พวกคุมคิวรถตู้ มอไซค์ พวกรับจ้างวางรองเท้าจองคิว ว่าไปแล้ว พวกนี้ ซิกแซกเก็บ “ค่าบริการ” เก่งกว่ารัฐมนตรี “สุมกระทรวง” ซะอีก!

กับ “ขุนคลัง” พิชัย เข้ามาปุ๊บ มองเห็นช่องทางปั๊บ เห็นข่าวหลายวันก่อน ตั้งท่าจะปลุก “กองทุน LTF” ขึ้นมาใหม่!

ผมเห็นด้วย จากที่เลิกไป ใช้หักภาษีไม่ได้แล้วก็ตามขาดทุนตั้ง ๒ แสนกว่า ยังคาอยู่ด้วยซ้ำ

การใช้เรื่องลดหย่อนภาษีล่อใจ คลังได้เงินชาวบ้านไปใช้ระยะยาวสบายๆ นับแสนล้าน

ถ้ารัฐบาลนี้ยังอยูู่และนายพิชัยยังเป็นรัฐมนตรีคลัง
ผมว่าจะได้เห็นวิธีเสก “ไข่ทองคำ” เข้าคลัง ชนิดชาวบ้านไม่ว่าอะไร จากนายพิชัยหลายๆ อย่าง

แต่เกรงว่า รัฐบาลนี้ จะเป็นมะเร็งจากสาร “อะฟลาท็อกซิน” ตายไปซะก่อนเท่านั้น

“ข้าว ๑๐ ปี” นักวิชาการสาขา “เคมีอินทรีย์” เขาบอกว่าไม่ปลอดภัย อันตราย กินแล้วเป็นมะเร็งได้จากสารอะฟลาท็อกซิน
…ไม่เชื่อ!

รัฐบาล”เศรษฐา-เพื่อไทย” ดันเชื่อ “สัตวแพทย์” ที่เป็นโฆษก!

“ข้าวเน่า” พอว่า แต่รัฐบาล “เศรษฐา-เพื่อไทย” โดยนายภูมิธรรม “รัฐมนตรีพาณิชย์”
ทำลายตลาดข้าวไทย “ให้เน่า” ไปทั้งตลาดโลกนี่ซี
“เบิ้ดคำซิเว้า”!

๑๕-๒๔ พฤษภา.นี้ เห็นว่า “นายกฯเศรษฐา” ยกคณะบินไป “ฝรั่งเศส-อิตาลี-ญี่ปุ่น” ด้วยภารกิจซอฟต์ พาวเวอร์ อีกแล้ว

๘๐ วัน เขารอบโลก
นี่ ๘ เดือน ไปผลาญหรือไปนาน…ก็ไปเหอะ ไปให้มันรอบคอก!

“ไปแล้ว-ไปเลย” ได้ ยิ่งดี!

เปลว สีเงิน
๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗

Written By
More from plew
“เนติวิทย์” พระผู้พบแล้ว – เปลว สีเงิน
คลิกฟังบทความ…? เปลว สีเงิน สังเกตกันมั้ย? ว่าในรอบปี มีคนๆ หนึ่งที่ร้อนแรงทางความคิดนำสังคมคนรุ่นใหม่หายไป นั่นคือ “เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล”
Read More
0 replies on “๘ เดือน “ไปแล้ว-ไปเลย” – เปลว สีเงิน”