ผักกาดหอม
อิจฉา…
เห็น “ลุงตู่” โชว์ภาพควง “อาจารย์น้อง” ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วตาร้อนครับ
เป็นการเที่ยวแบบส่วนตัวในรอบ ๑๐ ปี หลังวางมือทางการเมือง โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาง่ายๆ สำหรับคนที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรี
ก็ดูเอาสิครับ….
คนที่นอนห้องวีไอพีชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ อย่าคิดว่าสบายนะครับ แอร์เย็นฉ่ำก็จริง แต่ใจมันร้อนรุ่มยิ่งกว่ากองไฟ
ไปไหนได้ นอกจากวิ่งรอก ห้องวีไอพี กับ ห้องไอซียู
จะไปได้ก็อีกห้อง ห้องกรง
ถ้าผิดจากนี้ พังเป็นแถบ!
ส่วนบางคนยังอยู่ดูไบเลย เห็นทำท่าจะเอาอย่างพี่ชาย แต่เสียดาย อายุยังไม่ถึง ก็ต้องดูดอกดูไบต่อไป จะมีความสุขหรือเปล่าไม่รู้ ที่แน่ๆ อยู่แบบเสียวสันหลังตลอดเวลา
แล้วดู “ลุงตู่” สิครับ
ไปเที่ยวจริง ไม่ต้องแอบ ไม่ต้องมีตัวแสดงแทน
เที่ยวจริง สุขจริง
แถมถ่ายรูปโชว์ให้อิจฉาเล่น
ที่นอนอยู่ห้องวีไอพีน่ะ… กล้าถ่ายรูปโชว์ลงโซเชียลหรือเปล่า
ว่าไปแล้วมันเป็นเรื่องบุญวาสนาของคนอยู่เหมือนกัน ที่ไปด่าว่าเขาเป็นเผด็จการ ต้องเด็ดหัว ต้องจัดการให้สิ้นซาก
ตามไปสิครับ หวานแหววอยู่ญี่ปุ่นโน้น
ตอนกลับไปรอรับได้เลยที่ทางออกผู้โดยสารขาเข้า สนามบินสุวรรณภูมิ แต่วันไหนก็ไม่รู้ เพราะ “ลุงตู่” ไม่ได้บอก
ที่สำคัญไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์มารอรับ
เป็นไงครับเห็นความต่างหรือยัง
เรื่อง “นักโทษชายทักษิณ” ยังไม่ติดคุกจริง คงจะถูกเล่าขานกันไปอีกนานครับว่า มีกระบวนการทางกฎหมายอะไรผิดพลาดบกพร่องบ้าง
และใครต้องรับผิดชอบ
ย้ำอีกครั้งขีดเส้นใต้ ๒๐ เส้น “นักโทษชายทักษิณ” มีโทษจำคุกคดีคอร์รัปชันนะครับ
ถ้ามองว่า คนต้องโทษคดีคอร์รัปชัน เป็นคดีเล็กๆ ให้อภัยได้ ก็อย่าหวังว่าประเทศนี้จะปลอดจากการโกงกิน ที่เป็นมะเร็งร้ายฉุดให้ทุกสิ่งมีแต่ถอยหลัง
อย่าไปอิจฉา เกาหลี ญี่ปุ่น ตราบที่เรายังยอมรับคนโกงชาติให้มีอำนาจ
หากทัศนคติเช่นนี้ยังดำรงอยู่ เราก็จะได้รัฐบาลขี้โกงไปตลอดกาล
แล้วดูแกนนำพันธมิตร ที่ต่อสู้กับระบอบโกงกิน ระบอบทักษิณ ภาค ๑ สิครับ ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แม้เหตุผลถูกพิทักษ์ทรัพย์รับฟังได้ตามคำพิพากษาของศาล แต่ก็เกิดคำถามว่าหลังจากนี้การต่อสู้กับรัฐบาลโกงกินนั้นคงไม่ง่ายอีกต่อไป
หรืออย่างกลุ่มแกนนำ กปปส. อย่างกำนันสุเทพและคณะ ต่อสู้กับระบอบทักษิณภาค ๒ ผลคือคุกกันทั่วหน้า และติดคุกจริงกันมาแล้ว
ก็เข้าใจได้เช่นกัน เพราะการเคลื่อนไหวชุมนุมประท้วงมีการทำผิดกฎหมายบ้านเมืองจริง
แต่คนเหล่านี้ถึงจะติดคุก แต่เป็นคุกการเมือง
ขณะที่คนโกงมีโทษติดคุก แต่ไม่ยอมเข้าคุก
ฉะนั้นช่วงชีวิตที่เหลือ จะอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรี
จะเล่าให้ลูกหลานฟังอย่างภาคภูมิใจได้อย่างไรว่า คือผู้รอดคุกคดีโกง
ครับ….ช่วงนี้ “หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม” งานชุก!
วานนี้ (๒๕ ตุลาคม) เข้าร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีหน่วยงานของรัฐปล่อยปละละเลยการบังคับใช้กฎหมายกับ “นักโทษชายทักษิณ”
บังคับใช้กฎหมายไม่เท่าเทียมกับคนอื่น!
เหตุผลของ “หมอวรงค์” น่ารับฟังครับ
“…ทักษิณ ที่กลับมาประเทศไทยตั้งแต่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา ซึ่งผ่านมา ๖๐ กว่าวัน สะท้อน เจ้าหน้าที่รัฐไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำลายนิติรัฐ นิติธรรมอย่างจงใจ จึงถึงเวลาที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต้องหยุดลอยตัว แต่ต้องลงมาจัดการการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างจริงจัง
เพราะทันทีที่นายทักษิณ เดินมาถึงประเทศไทยก็เข้ารักษาโรงพยาบาลตำรวจอย่างเร่งด่วน ซึ่งตามระเบียบของราชทัณฑ์ ระบุว่า ผู้ถูกคุมขัง หรือนักโทษที่จะออกไปรักษาข้างนอกจะต้องผ่านกระบวนการรักษาของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน แต่เราไม่เชื่อว่าคืนนั้น นักโทษชายท่านนี้ไปรักษาที่ราชทัณฑ์ นี่เป็นการปฏิบัติข้ามขั้นตอนไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย
และจนถึงขณะนี้ รักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ๖๐ กว่าวัน การกระทำของคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์มีการปิดบังการรักษาโดยอ้าง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งที่สิ่งที่ต้องชี้แจงคือนักโทษชายท่านนี้ไม่ได้ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจเพราะ พ.ร.บ.ดังกล่าว แต่เป็นการส่งตัวไปโดยไม่เป็นไปตามระเบียบเงื่อนไขราชทัณฑ์
จุดตายที่เป็นอันตรายต่อกฎหมายของประเทศคือ กฎระเบียบราชทัณฑ์กำหนดชัดเจนว่า ผู้ถูกคุมขังหรือนักโทษเมื่อไปรักษาที่โรงพยาบาลนอกราชทัณฑ์ ไม่มีสิทธิ์ไปรักษาห้องพิเศษ
แต่ปรากฏว่านักโทษชายท่านนี้ได้รับเอกสิทธิ์ อภิสิทธิ์พิเศษเหนือกว่านักโทษคนอื่นๆ ที่ไปอาศัยห้องพิเศษชั้น ๑๔ ซึ่งเป็นที่รับรู้ของประชาชนทั่วไปและสื่อมวลชน
ดังนั้นจึงต้องรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อเสนอมายังประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามมาตรา ๒๒ (๓) ที่ให้ผู้ตรวจฯ รวบรวมข้อเท็จจริง เสนอต่อนายกฯ และคณะรัฐมนตรีและนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดของเจ้าหน้าที่รัฐ ตามมาตรา ๕๓ ของรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐….”
นี่แค่ยกแรกครับ!
อีกไม่นานคงจะมียก ๒ ยก ๓ ตามมา
“นักโทษชายทักษิณ” คงจะวางแผนนอนชั้น ๑๔ ยาวจนกว่าจะพ้นโทษ ซึ่งอาจเกิดขึ้นช่วง ๒ เดือนข้างหน้านี้
ถึงเวลานั้นคงจะหายเป็นปลิดทิ้งพอดี และเดินออกจากโรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ต้องออกมาในสภาพถูกเข็นบนเตียงผู้ป่วยหนัก
ก็ยังหวั่นใจอยู่ว่าอาจต้องสู้กับ ระบอบทักษิณภาค ๓ ที่เห็นๆ อยู่ในตอนนี้คือ นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่อาจนำไปสู่ความฉิบหายทางเศรษฐกิจของประเทศ
แล้วใครจะออกมานำ เพราะบทสรุปการต่อสู้ ๒ ภาคแรกมีให้เห็นแล้ว
มีต้นทุนที่ต้องจ่ายเยอะเหลือเกิน
