นโยบาย-ขายฝัน – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

มีสถิติที่น่าสนใจ!

ถึงวาระการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา ทำให้นึกถึงสถิติทางการเมืองที่หลายคนคงมองข้ามไป

การเมืองในรอบ ๑๒ ปีที่ผ่านมา นับแต่ปี ๒๕๕๔ ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีใหม่เอี่ยม

ใหม่ถอดด้าม!

คือนายกรัฐมนตรีที่ไม่เคยเล่นการเมืองมาก่อน

ไม่เคยอยู่ในแวดวงด้วยซ้ำ

แต่เมื่อเข้ามา ก็นั่งเก้าอี้นายกรัฐนตรีทันที

แถมยังเป็น ๓ คนติดต่อกัน

เริ่มจาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ระหว่างปี ๒๕๕๔ ถึง ๒๕๕๗

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่ปี ๒๕๕๗ ถึง ๒๕๖๖

และ เศรษฐา ทวีสิน เริ่มต้นปี ๒๕๖๖

ทั้ง ๓ คน ไม่เคยเป็นส.ส.

ไม่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่ว่ากระทรวงใดๆ

ถือเป็นสถิติที่น่าทึ่งของการเมืองไทย ซึ่งยากจะเห็นได้จากการเมืองประเทศใดในโลก

การแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหน้าใหม่ทางการเมือง จึงน่าจะไม่ง่ายเพราะสภาเต็มไปด้วยเสือ สิงห์ กระทิง แรด

แม้สมัยแรกของพล.อ.ประยุทธ์ จะแถลงนโยบายต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ไม่มีฝ่ายค้าน แต่นอกสภาเต็มไปด้วยระเบิดเวลา

ฉะนั้นบุคลิกของแต่ละคนจึงมีความสำคัญ

เมื่อโดนยำแล้ว สามารถฝ่าดงตีนด้วยตัวเองได้หรือไม่

หรือต้องอาศัยองครักษ์

ใช่ครับ…ทุกครั้งที่มีการอภิปรายสำคัญในสภา ไม่ว่าจะเป็นการแถลงนโยบาย การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งแบบลงคะแนนและไม่ลงคะแนน เรามักได้ยินคำว่า องครักษ์พิทักษ์นายกฯ อยู่เสมอ

ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง อยู่ที่เนื้อหาสาระ หากลงลึกในเรื่องส่วนตัวมาก ก็ตัวใครตัวมัน

แต่ในภาพรวมส่วนใหญ่ผ่าน

จะผ่านแบบฉลุย

หรือผ่านแบบโชกเลือก ก็ถือว่าผ่าน

การแถลงนโยบายของ “เศรษฐา ทวีสิน” ถูกจับตามองเป็นพิเศษตรงที่ สั้น ห้วน เกินไป ไร้รายละเอียด ไม่มีหลายนโยบายที่เคยหาเสียงไว้

สรุปคร่าวๆที่ “เศรษฐา ทวีสิน” จะแถลงต่อสภาในวันนี้มี นโยบายเร่งด่วน ๕ ข้อ

๑.การแจกเงินดิจิทัล ๑ หมื่นบาท เป้าหมายคือหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยปลายทางคือมีภาษีกลับคืนสู่คลัง ๒. การแก้ปัญหาหนี้สินภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ภาคประชาชน

๓. ลดค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง

๔.การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว

๕.ทำประชามติ แก้รัฐธรรมนูญ

สิ่งที่หายไป…

รถไฟฟ้า กทม. ๒๐ บาทตลอดสาย

ทุกครอบครัวมีรายได้ไม่น้อยกว่า ๒๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน

ค่าแรงขั้นต่ำ ๖๐๐ บาทต่อวันภายในปี ๒๕๗๐

เงินเดือนผู้จบปริญญาตรี ๒๕,๐๐๐ บาทต่อเดือน ภายในปี ๒๕๗๐

สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ก็ไม่มี

นี่คือสิ่งที่ “เศรษฐา ทวีสิน” จะถูกทวงถามในสภา

และแน่นอนครับ บรรดาองครักษ์ จะแย่งกันลุกขึ้นตอบอย่างขยันขันแข็ง

ณ เวลานี้ ฝ่ายค้านไม่มีเอกภาพ ก็คงจะต่างคนต่างอภิปราย

แต่เวทีนี้ อาจมีส.ส.ใหม่แจ้งเกิด หากทำการบ้านมาดี สามารถติติงในสิ่งที่รัฐบาลผิดคำสัญญา เช่นรถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสาย ตอนหาเสียงพรรคเพื่อไทยบอกว่าทำทันที แต่หลังได้เป็นรัฐบาลบอกให้รอก่อน เพราะไม่ใช่นโยบายเร่งด่วน

เอาเข้าจริงนโยบายนี้ แหกตากันมานาน มันทำไม่ได้ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่รัฐบาลทำ เมื่อนั้นต้องแบกหนี้มโหฬาร

ดูตัวอย่างจาก “ชัชชาติ สุทธิพันธุ์” ตอนหาเสียงบอกว่า รถไฟฟ้า ๒๕-๓๐ บาทตลอดสาย พอได้เป็นผู้ว่ากทม. ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา

มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด

ที่เคยหาเสียงไว้ไม่ได้หมายความว่า นั่งจากสถานีต้นทางถึงปลายทางเป็นราคานี้ แต่คิดจากราคาค่าโดยสารเฉลี่ยที่คนใช้บริการ เดิมคิดค่าเฉลี่ย ๘ สถานี

นั่นแหละครับ ทำไมไม่จำกัน!

หลอกแล้ว หลอกอยู่ หลอกต่อไป

เอางี้ครับในเว็บไซต์พรรคเพื่อไทย ยังไม่ทันลบข้อความเกี่ยวกับ รถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสาย นี่คือหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรว่า เป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยจะนำไปทำเมื่อได้เป็นรัฐบาล

ระบุไว้ตั้งนี้ครับ…

…“รถไฟฟ้า กทม.” ๒๐ บาทตลอดสาย เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้โดยสาร เราถือว่าการเดินทางเป็นปัจจัยหนึงในการดำเนินชีวิตและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ดังนั้นรัฐจึงจำเป็นต้องเข้ามาดูแลในเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อช่วยให้ประชาชนประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย และทำให้ชีวิตของประชาชนสะดวกสบายขึ้น การเดินทางด้วยระบบรางถือเป็นการเดินทางที่ประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีที่สุดอย่างหนึ่งในขณะนี้

เราจะเร่งเจรจากับภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้ลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าโดยมีเป้าหมายคือ ค่าโคยสารรถไฟฟ้าในกรุงเทพคือ ๒๐ บาทตลอดสาย…

หรูหราหมาเห่า!

ใครที่เลือกพรรคเพื่อไทยแล้วรู้สึกไม่ตรงปก ลองนำข้อความนี้ไปร้องกับกกต.ดู เผื่อจะได้นั่งรถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสาย ในไม่ช้า

ที่จริงยังมีอีกนะครับ อาทิ

นโยบายติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้รถไฟชั้นสามทุกขบวน พร้อมปรับปรุงสภาพภายในให้มีความทันสมัย เพื่อคุณภาพการเดินทางที่ดีขึ้นของผู้มีรายได้น้อย และผู้ใช้รถไฟชั้นสามทั่วประเทศ

ยกระดับรถไฟโดยสารทั่วประเทศให้สามารถเป็นการเดินทางแบบไปกลับประจำ (Commute) ได้อย่างแท้จริง พร้อมสร้างระบบ Feeder ที่สะดวกสบายเชื่อมโยงแต่ละ Hub ยกตัวอย่างเช่น เส้นทาง นครราชสีมา-กรุงเทพฯ และเพิ่มความเร็วให้ได้เป็น ๒๐๐ km/h

เชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศ เป็นการเชื่อมต่อเพื่อเพิ่มปริมาณทั้งด้านการค้าและการท่องเที่ยวกับจีนและประเทศในอาเซียน

เส้นทางรถไฟดังกล่าวยังเชื่อมต่อกับเส้นทางสายไหมใหม่ (Silk Road Economic Belt) ซึ่งเป็นประตูไปยังเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง รัสเซีย และยุโรป

เป็นไงครับไปไกลถึงยุโรป

ก็เอาใจช่วยครับ ทำให้สำเร็จ

ดีกว่า สะดวก สบายกว่าช่องทางธรรมชาติเป็นไหนๆ

Written By
More from pp
นายจ้าง-ลูกจ้างต่างด้าว ขอบคุณรัฐบาล ผ่อนผันต่างด้าว MOU 4 ปี ให้อยู่ต่อ และขยายเวลาทำเอกสารเดินทางถึง 31 ก.ค. 66
ครม. เห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ 2 ประเด็น ขยายเวลาอยู่ต่อและทำงานให้แรงงานต่างด้าวตาม MOU (ครบ 4 ปี) ถึง 31 ก.ค....
Read More
0 replies on “นโยบาย-ขายฝัน – ผักกาดหอม”