กา X ก้าวไกล เพื่อสร้างรัฐบาลที่ไม่เอามรดกบาปคณะรัฐประหาร พิธา ประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่ปิดสวิตช์ 3ป. เพื่อสร้างประเทศไทยที่ไม่เหมือนเดิม สร้างประเทศไทยที่การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงวิสัยทัศน์ปิดคนสุดท้ายในการประชุมใหญ่สามัญพรรคก้าวไกล โดยพิธากล่าวว่าประเทศไทยไม่ได้ต้องการผู้บริหารที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าซ้ำซากไปวันๆ แต่ต้องเป็นคนที่สามารถเปลี่ยนปัญหาของประเทศเป็นโอกาสของอนาคต ซึ่งทั้งหมดจะเกิดขึ้นได้ต้องปิดสวิตช์ 3ป. เอามรดกของระบอบเผด็จการอำนาจนิยมออกไป เพื่อเปิดไฟแห่งความหวังให้ประเทศไทย
โดยพิธา เริ่มต้นจากการแสดงของปัญหาพร้อมทั้งตั้งคำถามว่า มองเห็นอะไรในภาพ? เห็นรถเมล์ควันดำ นาแล้งซ้ำซาก และน้ำประปาที่ขุ่น หรือมองเห็นอนาคตของอุตสาหกรรมรถเมล์ไฟฟ้า ประเทศไทยที่ไปถึง net-zero carbon การผลิตโดรนการเกษตรผลิตโดยคนไทย เห็นสมาร์ทมิเตอร์ควบคุมคุณภาพน้ำ 24 ชั่วโมง เห็นการทำระบบประปาใหม่ทั้งประเทศ เห็นการจ้างงานในอุตสาหกรรมใหม่นับหมื่นงานที่เกิดจากซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมใหม่
“ประเทศไทยวันนี้ ไม่ได้ต้องการแค่ผู้บริหารที่แก้ปัญหาซ้ำซาก วนลูป ปะผุ แต่ต้องการคนที่สามารถเปลี่ยนปัญหาของอดีตเป็นโอกาสของอนาคต เปลี่ยนความเจ็บป่วยเรื้อรังของประเทศ เป็นรายได้และอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่จะพาธงไทยไปปักอย่างมียุทธศาสตร์ในเวทีโลก” พิธากล่าว
ในช่วงหนึ่งของการแสดงวิสัยทัศน์ พิธาหยิบสมาร์ทมิเตอร์น้ำประปา ที่เป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคก้าวไกลในการผลักดัน พ.ร.บ. ประปาดื่มได้ เพื่อชี้ให้เห็นว่าในการแก้ปัญหาน้ำประปา จะกลายเป็นโอกาสในการสร้างอุตสาหรรมต่างๆ ในอนาคตได้
“สมาร์ทมิเตอร์นี้ มีส่วนประกอบหลักๆ 80% ที่ผลิตในไทย ใช้วัสดุที่หาได้ในประเทศอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น กล่องมิเตอร์ที่ทำจากทองแดง ยางพาราและพลาสติกในการทำเสาส่งสัญญาณและที่ครอบ พลาสติกเรซินในการทำใบพัดมิเตอร์ ส่วนชิ้นส่วนอีก 20% ที่ไทยยังนำเข้าจากจีน คือชิป แผงวงจร และแบตเตอรี่ลิเธียม จะเป็นโอกาสในการสร้างดีมานด์เพื่อก่อเกิดซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมสมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ เราจะทำให้ให้อุปกรณ์เหล่านี้” พิธากล่าว
พิธากล่าวเพิ่มเติมว่า แต่สร้างงานอย่างเดียวไม่พอ งานที่ดีจะมีคนทำได้อย่างไรถ้าไม่มีคนที่มีศักยภาพตรงกับโลกยุคใหม่มารองรับประเทศไทยที่มีอนาคตก็เกิดขึ้นไม่ได้ ประเทศไทยจึงต้องปฏิวัติการศึกษาสร้างหลักสูตรใหม่ที่ทันโลก ลดเวลาเรียน ลดการบ้าน ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก ลดภาระงานที่ไม่จำเป็นของครู ส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียน เพื่อเตรียมความพร้อมเด็กไทยให้มีทักษะที่เติมเต็มทั้งความฝันของเด็ก และความฝันของประเทศได้
“องค์ประกอบสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ คือการรับมือกับความท้าทายใหญ่ที่สุดของโลก ภาวะโลกร้อนจะเป็นความท้าทายมากที่สุดของทุกประเทศ ประเทศไทยตั้งเป้าเป็นประเทศที่เป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 เป้าหมายนี้จะไม่เป็นจริงเลย หากรัฐบาลไม่กล้าชนกับกลุ่มทุน รัฐบาลก้าวไกลจะกำหนด cap and trade ให้มีเพดานปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ ไม่เช่นนั้นประเทศไทยก็คงลดก๊าซเรือนกระจกในเป้าหมายที่ให้ไว้ที่ COP26 ไม่ได้” พิธากล่าว
แต่สุดท้าย พิธาตั้งคำถามกับสังคมว่าประเทศไทยจะไปไกลกว่าเดิมได้อย่างไร ถ้ายังตกลงกันไม่ได้ว่าประชาชนต้องเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการกำหนดอนาคตของประเทศ หากประเทศยังอยู่ภายใต้มรดกของระบอบเผด็จการอำนาจนิยม 3ป.
“ถ้าประเทศไทยยังอยู่ภายใต้ 3ป. การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต จะกลายเป็น การเมืองเดิม ปากท้องเดิม อนาคตเดิม ประเทศไทยจะไปไกลกว่านี้อได้อย่างไร ถ้าการบริหารประเทศยังอยู่ในมือลุงแก่ๆ ไม่กี่คน อำนาจยังคงรวมศูนย์อยู่ที่กรุงเทพ ทรัพยากรยังกระจุกอยู่ที่คนกลุ่มเดียว นี่คืออดีตที่เราต้องแก้ไขให้ได้เพื่อที่จะไปสู่อนาคต ดังนั้น เป้าของสังคมไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้ คือ ปิดสวิตช์ 3ป. เพื่อเอาการเมืองกลับสู่สภาวะปกติของระบอบประชาธิปไตยให้เร็วที่สุด” พิธากล่าว
พิธาขยายความต่อว่าถ้าคุณเห็นแบบเดียวกันนี้ สิ่งที่เราต้องทำมีอย่างน้อย 2 อย่าง คือ หนึ่ง เอาพรรคการเมืองของ คสช. ทุกพรรค ซากมรดก คสช. ออกจากอำนาจรัฐ เอาทหารออกจากการเมือง สอง เอา รธน ฉบับ คสช. ออกไป แล้วจัดทำ รธน ฉบับใหม่โดยประชาชน เริ่มต้นด้วยการทำประชามติใน 100 วันแรก เพื่อเขียนกติกากันใหม่ ไม่ยอมรับมรดกจากการรัฐประหารอีกต่อไป
“ผมพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่ปิดสวิตช์ 3ป. เพื่อสร้างประเทศไทยที่ไม่เหมือนเดิม สร้างประเทศไทยที่การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องเดินไปกับพรรคก้าวไกล ทำประเทศไทยให้ไม่เหมือนเดิม” พิธากล่าวทิ้งท้าย
15 นโยบายเรือธงพรรคก้าวไกล
1. ปิดสวิตช์ 3 ป. เอาทหารออกจากการเมือง
2. ยกเลิกเกณฑ์ทหาร กองทัพห้ามยุ่งการเมือง
3. หยุดส่วย รีดไถ เลิกตั๋ว เส้นสาย ตำรวจอยู่ข้างประชาชน
4. รัฐโปร่งใส AI จับโกง คนแฉปลอดภัย ได้เงิน
5. เลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด
6. คืนที่ดินประชาชน 10 ล้านไร่ เปลี่ยน สปก. นายทุน เป็นโฉนดให้เกษตรกร
7. ขึ้นค่าแรงทุกปี เริ่มทันที 450 บาท
8. หวยใบเสร็จ ซื้อของรายย่อย ลุ้นเงินล้าน
9. สวัสดิการลดเหลื่อมล้ำ เด็กเล็ก 1,200 บาท/เดือน ผู้สูงวัย 3,000 บาท/เดือน
10. หยุดเอื้อทุนใหญ่ ลดค่าไฟทันที 70 สตางค์/หน่วย
11. รถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด น้ำประปาดื่มได้
12. สร้างงาน ซ่อมประเทศ 1 ล้านตำแหน่ง
13. หลักสูตรใหม่ โรงเรียนปลอดภัย คืนเวลาสอนให้ครู
14. เอาจริงกับโลกร้อน กำหนดเพดานปล่อยก๊าซเรือนกระจก
15. ปักธงไทยในอุตสาหกรรมชิป สร้างเทคโนโลยีของตัวเอง