8 ธันวาคม 2565 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ถามทั่วไป โดย ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นครศรีธรรมราช เขต 2 เป็นผู้ถาม กรณีการเพิ่มวงเงินให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยขอทราบรายละเอียดที่รัฐบาลให้การสนับสนุนให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เพื่อขยายการลงทุนให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และขอทราบรายละเอียดนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากของรัฐบาลโดยการเพิ่มทุนหรือวงเงินการลงทุนให้กับกองทุนหมู่บ้าน ให้สามารถขยายการลงทุนประกอบกิจการในภาคการเกษตรหรือสร้างอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ให้ครัวเรือน สร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจในอนาคต
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงว่า ในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยประสบภาวะชะลอตัวอย่างต่อเนื่องประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และภัยพิบัติทางธรรมชาติ ส่งผลให้ภาคการเกษตรและสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองประสบปัญหาหลายประการ เพื่อแก้ไขปัญหาจากสถานการณ์ดังกล่าว
สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) อยู่ระหว่างการจัดทำมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง วงเงินงบประมาณรวม 80,000 ล้านบาท ดำเนินการภายใต้สินเชื่อของธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
โดยรัฐจะดำเนินการชดเชยให้กับสถาบันการเงินตามต้นทุนทางการเงินที่เกิดขึ้นจริงของสถาบันการเงิน ในช่วงระหว่างปี 2567 – 2570 ซึ่งมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองดังกล่าว ประกอบด้วย
(1) มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับหมู่บ้านในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว วงเงิน 60,000 ล้านบาท และ (2) มาตรการสร้างรายได้และการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน วงเงิน 20,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นโครงการโคล้านครอบครัว วงเงิน 7,500 ล้านบาท
และโครงการส่งเสริมระบบเศรษฐกิจและการลงทุนตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG วงเงิน 12,500 ล้านบาท เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างเป็นรูปธรรม มีแหล่งทุนหมุนเวียนสำหรับการกู้ยืมเพื่อการลงทุน สร้างงาน สร้างรายได้ บรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว และเสริมสภาพคล่องให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลได้เตรียมจัดสรรงบประมาณให้กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จำนวน 79,610 กองทุน เพื่อเสริมสภาพคล่อง บรรเทาความเดือนร้อน และเพิ่มปริมาณการลงทุนในระดับชุมชนผ่านกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อใช้ในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในชุมชน และเพื่อดำเนินกิจกรรมอื่นๆ ที่ชุมชนเห็นว่าเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมศักยภาพในการประกอบอาชีพ และความเป็นอยู่ในชุมชนให้ดีขึ้น
ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองกว่า 13 ล้านคนอย่างเป็นรูปธรรม ให้มีแหล่งทุนหมุนเวียนสำหรับการกู้ยืมเพื่อการลงทุน สร้างงาน สร้างรายได้ บรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองต่อไป