“ตรีชฎา” ฟันธง “กัญชาเสรี” ล้ม เย้ย ‘พูดแล้วทำ’ (ได้จริง) ไม่สำคัญเท่าประโยชน์ประชาชน

‘ตรีชฎา’ คาด ‘กัญชาเสรี’ ล้ม เหตุภาคประชาสังคมไม่ยอมรับ เย้ย ‘พูดแล้วทำ’ (ได้จริง) ไม่สำคัญเท่าประโยชน์ประชาชน ยันกัญชาต้องใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น
นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ปัญหานโยบายกัญชาเสรีที่เกิดความขัดแย้งอย่างหนัก โดยไม่มีวี่แววว่าจะยุติได้ง่าย เพราะยังมีพรรคการเมืองอีกหลายพรรคและภาคส่วนอื่นๆที่ไม่เห็นด้วยเพราะห่วงใยผลกระทบต่อสังคม ในส่วนของคณะรัฐมนตรีก็ไม่ได้แสดงท่าทีที่รับผิดชอบร่วมกัน ตรงกันข้ามกลับขัดแย้งกันเอง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องฝ่า 3 ด่านที่หากตัดสินใจผิดพลาดจะเกิดผลเสียหายร้ายแรงและสร้างปัญหาไม่รู้จักจบสิ้น

ด่านแรก คือ ในวันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2565 นี้ ตอนเช้ามีประชุมครม. พิจารณาเรื่องสมุนไพรควบคุมเฉพาะช่อดอกกัญชา ที่ปรับปรุงประกาศฯลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 อีกครั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะต้องอธิบายให้ครม.ฟังอีกครั้ง

ซึ่งตนได้ข่าวมาจากว่า กองประกาศิต สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตีกลับประกาศ ไม่นำไปลงในราชกิจจานุเบกษา จึงทำให้ยังไม่มีผลบังคับ นี่คือ สิ่งที่ผิดปกติของรัฐบาลที่ควรจะชี้แจงให้สังคมได้รับทราบว่าจริงหรือไม่ รวมทั้งในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 จะมีการประชุมคณะกรรมการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมตรี จะมีมติอย่างไรต่อกรณีประกาศกระทรวงสาธารณสุขสสมุนไพรควบคุม (กัญชา)

ด่านที่ 2 คือ ล่าสุดศาลปกครองกลางมีคำสั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีหมายดำที่ 2417/65 และอธิบดีศาลปกครองกลางได้มีการจ่ายสำนวนให้องค์คณะและแต่งตั้งตุลาการผู้แถลงคดีแล้ว ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในกระบวนการพิจารณากรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านและน.พ.สมิทธิ์ ศรีสนธ์ กรรมการแพทยสภาและนายกสมาคมนิติเวชแห่งประเทศไทยยื่นฟ้องยื่นฟ้องนายอนุทิน

เพื่อขอให้ศาลมีคําพิพากษาเพิกถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ 8 ก.พ.2565 เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 ขอให้เพิกถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษหลังปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด

ด่านที่ 3 คือร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญไปพิจารณาแปรญัตติที่จากเดิมมีเพียง 45 มาตรากลับเพิ่มขึ้นมาเป็น 95 มาตราจะเข้าสภาวาระ 2 ได้เมื่อไร จะเข้าพิจารณาในสภาช้าหรือเร็ว และกระบวนการพิจารณาทีละมาตราที่จะมีส.ส.อภิปรายกันเต็มที่แล้วลงมติกันทีละมาตรา นอกจากจะใช้เวลานานมากกว่าจะครบ 95 มาตรา

“สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นสภาวะอลเวง การที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุนร่างพ.ร.บ.นี้ เท่ากับรัฐบาลแตกกันเอง โอกาสร่างพ.ร.บ.จะถูกคว่ำเป็นไปได้สูง หรือถ้ารอดผ่านพ้นไปได้ก็ทุลักทุเล พรรคเพื่อไทยพร้อมจับตารัฐบาลผสมเรือแป๊ะที่ตกอยู่ในสภาพเหมือนเมากัญชา จะถูลู่ถูกังไปได้สักกี่น้ำ กัญชาที่ควรเป็นยาเสพติด เรายังยืนยันเหมือนเดิมว่าต้องใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น” นางสาวตรีชฎากล่าว