พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงพื้นที่ชุมชนเคหะคลองจั่น ตรวจสอบความคืบหน้าการแก้ปัญหาร้องเรียนค้านการสร้างคอนโดมิกส์ยูซของการเคหะ ฯ พร้อมระบุ เป็นการแก้ไขปัญหาที่ยอดเยี่ยม พูดคุยอย่างมีเหตุผล ไม่ขัดแย้ง อยากให้เป็นตัวอย่างกับพื้นที่อื่น พร้อมเล่าความสำเร็จของการประชุมเอเปก เชื่อจะมีการลงทุนหลักแสนล้าน อยากให้คนไทยไม่ลืมประวัติศาสตร์ พร้อมก้าวไปข้างหน้าเพื่ออนาคตของลูกหลาน
21 พฤศจิกายน 2565-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้บางกะปิ ซอยนวมินทร์ 12 แขวงบางกะปิ เขตบางกะปิ กทม. เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีพล.ต.ดร.เจียรนัย วงศ์สะอาด ประธานคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ, นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ ผู้บริหารการเคหะแห่งชาติ และน.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ-วังทองหลาง ให้การต้อนรับ ท่ามกลางความตื่นเต้นของประชาชนชาวชุมชนเคหะคลองจั่นเนื่องจากไม่ทราบล่วงหน้าว่านายกฯ จะเดินทางมาด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ เมื่อเดินทางถึงนายกรัฐมนตรีได้ร่วมพูดคุยกับประชาชน โดยมีตัวแทนชุมชนกล่าวต้อนรับระบุว่า พวกตนรู้สึกดีใจที่การร้องเรียนของตนได้ส่งต่อไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ แล้วและวันนี้นายกฯ ได้เดินทางลงมาด้วยตัวเอง ทำให้ทุกคนดีใจ และไม่คิดว่าท่านจะเดินทางมาด้วยตัวเอง จึงมั่นใจว่าปัญหาความเดือดร้อนของพวกตนจะได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง ซึ่งต้องขอบคุณนายพีระพันธุ์ ที่ได้นำเรื่องราวความเดือนร้อนของพวกตนเข้าทำเนียบฯ และรู้สึกอุ่นใจที่นายกฯ รัฐมนตรีให้ความห่วงใยกับประชาชนทุกคน
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวอย่างเป็นกันเองกับประชาชนและตัวแทนชุมชนที่มาร่วมพูดคุยว่า ที่ผ่านมาตนได้รับรู้ถึงความเดือดร้อนของทุกคนมาโดยตลอด ซึ่งไม่ได้นิ่งนอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลหาทางออกให้ และวันนี้ดีใจที่มีการหารือกัน เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม ที่จริงตนตามเรื่องนี้มาตั้งแต่เช้า เมื่อวาน วันก่อนด้วย และให้ทีมงานดูว่าจะมาลงพื้นที่ได้หรือไม่ แต่ในที่สุดก็สามารถมาได้
ทั้งนี้อยากให้การแก้ปัญหาแบบนี้เป็นตัวอย่างกับพื้นที่อื่นๆ ในการปรึกษาหารือการอย่างมีเหตุผลและหาทางออกร่วมกันจะแก้ไขได้มากน้อยอย่างไรก็มาร่วมกันพิจารณา เพื่อให้เดินไปข้างหน้า หลายอย่างอาจจะต้องปรับเปลี่ยนเพื่อลูกหลาน และดีใจที่ทุกคนหารือกันอย่างมีเหตุมีผล มาชี้แจงกันโดยไม่มีความขัดแย้ง ส่วนจะทำได้มาก ได้น้อยก็ค่อยว่ากันอีกที และพื้นที่นี้เห็นว่าเป็นชุมชนที่เป็นทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตด้วย อดีตคืออดีต ปัจจุบันคือปัจจุบัน ส่วนอนาคตจะเดินหน้าไปทางไหนอย่างไรก็ต้องช่วยกัน แต่อย่างน้อยที่สุดเรายังมีความสุขอยู่
“โครงการนี้เป็นโครงการระยะยาว ที่ต้องใช้เวลานานซึ่งหน่วยราชการก็ต้องมีแผนแม่บท หลายอย่างไม่ได้ว่าจะทำได้ทุกอัน สำเร็จก็เยอะทำไม่ได้ก็เยอะ ซึ่งการมารับฟังความคิดเห็นการมีส่วนร่วมก็คือการทำงานในระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ขอชื่นชมชาวเคหะคลองจั่น ที่ถือว่าเป็นชุมชนเข้มแข็ง และอยากให้เป็นตัวอย่างกับพื้นที่อื่นด้วย” นายกรัฐมนตรีกล่าว
หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมสนามกีฬาคลองจั่น พร้อมด้วยผู้บริหารการเคหะฯ และชาวชุมชนเคหะคลองจั่น และได้ทักทายประชาชนและเยาวชนที่มาออกกำลังกายในบริเวณดังกล่าว โดยก่อนเดินทางกลับนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับประชาชนชาวคลองจั่นว่า ขอให้ทุกคนให้ความสำคัญกับการดูแลพื้นที่และชุมชนของตัวเองอย่างเข้มแข็ง เนื่องจากทุกพื้นที่ล้วนมีประวัติศาสตร์สำคัญของตัวเอง เพื่อที่จะส่งต่อไปให้กับลูกหลานในอนาคต
นอกจากนี้นายกฯ ยังได้กล่าวถึงการประชุมเอเปกที่ผ่านมาว่า ถือว่าเป็นการประชุมที่ได้ประโยชน์มากมายที่จะทำให้เกิดการพัฒนา และการลงทุนในอนาคต เป็นการทำวันนี้เพื่อลูกหลานในวันข้างหน้า เพราะจะทำให้เกิดการลงทุนในประเทศ เนื่องจากเอเปคเป็นเวทีการพูดคุยในระดับโลกที่จะมีการมาลงทุนอีกหลายแสนบาท และในการลงทุนแต่ละประเทศจะต้องมีการตกลงซึ่งกันและกัน ถ้าไม่มีข้อตกลงก็จะเดินหน้าไม่ได้ เพราะนโยบายของแต่ละประเทศที่จะต้องสอดคล้องกัน
ดังนั้น การประชุมในครั้งนี้จึงถือว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ที่ทุกคนร่วมกันทำจนสำเร็จ ในอนาคตแม้เราจะไม่อยู่แล้วแต่ลูกหลานก็จะยังอยู่ อดีต ปัจจุบัน อนาคต และปัจจุบันถ้าทำสำเร็จก็จะก้าวไปสู่อนาคต และทั้งหมดคือประวัติศาสตร์อีกช่วงหนึ่ง อดีตปัจจุบันและอนาคต จะต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน วันนี้เราอยู่ตรงกลางคือปัจจุบัน อดีตคือประวัตศาสตร์ ทำต่อทำใหม่ให้มันดีขึ้น ตอนนี้ทำปัจจุบันให้ทุกคนมีความสุข อนาคตคือเราต้องลงทุนต่างๆ ให้เพิ่มไปสู่อนาคตรองรับการเจริญเติบโตของประเทศของบ้านเมือง
“ที่สำคัญคืออย่าลืมประวัติศาสตร์ของเรา เพราะหากไม่รู้ประวัติศาสตร์ของตัวเอง จะไม่รู้ว่าเราจะรักประเทศไทยของเราได้อย่างไร เราจะรักชุมชนพื้นที่ของเราได้อย่างไร” นายกรัฐมนตรีกล่าวก่อนเดินทางกลับ
