22 ตุลาคม 2565 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชื่นชมผู้เข้าประกวดเวทีการแข่งขันทำอาหาร ในโครงการ Future Food for Sustainability ที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ มีความคิดสร้างสรรค์นำเสนออาหารได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งรสชาติ และการจัดจานได้อย่างสวยงามบ่งบอกถึงความเป็นไทย แต่รสชาติระดับนานาชาติ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าปัจจุบันการแข่งขันดำเนินมาถึงรอบแข่งขันทำอาหาร หรือ Plate to Planet ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 22-23 ตุลาคม 2565 ณ วิทยาลัยดุสิตธานี
โดยจะเฟ้นหาทีมที่มีศักยภาพ สามารถต่อยอดการทำอาหารเพื่อพัฒนาเชิงธุรกิจได้ จำนวน 21 ทีม จาก 60 ทีม เพื่อเข้าสู่รอบของการแข่งขันขายทดสอบตลาด โดยการตัดสินของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟมิชลินและทูตอาหารเพื่อความยั่งยืนคนแรกของโลกจาก Feed Up @UN คุณวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ประธานคณะกรรมการธุรกิจอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต ดร.ศิริกุล เลากัยกุล Country Director, SB Thailand คุณสันติ อาภากาศ CEO & Co-Founder TASTEBUD LAB คุณศิระ ศรีสุกใส ผู้จัดการฝ่ายบริหารธุรกิจไลฟ์สไตล์ บริษัท ปตท. นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)
คุณปริญญา กิตติการุญจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจค้าปลีก บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อาจารย์วรัญญา เตชะสุขถาวร นักกำหนดอาหารวิชาชีพ/อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนาการและ การกำหนดอาหาร คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ คุณวิพิทธิจักษ์ พิทยานนท์ Food Stylist ชื่อดัง และ คุณทัศนีย์ ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
“ประเทศไทยได้รับชื่อเสียงระดับนานาชาติว่าเป็น “ครัวของโลก” และอาหารไทยก็จัดเป็น Soft Power สำคัญของประเทศ ประชากรในประเทศกว่า 38.9 ล้านคน อยู่ในกลุ่มสินค้าอาหารและเกษตร เราเป็นประเทศที่มีการส่งออกอาหารอันดับ 12 ของโลก และเพิ่งได้รับการยกย่องจาก UN ว่าเป็น “Role Model” ต้นแบบการบริหารจัดการเรื่องสาธารณสุขและการเกษตร ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและเศรษฐกิจหมุนเวียน
ซึ่งโครงการ Future Food for Sustainability กิจกรรมแข่งขันเมนูอาหารแห่งอนาคตนี้ จัดขึ้นภายใต้เเนวคิด BCG เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้แสดง Soft Power ด้านอาหารไทย ที่นำมาพัฒนาต่อยอดด้วยนวัตกรรมหรือภูมิปัญญา ที่สอดคล้องกับแนวโน้มความต้องการในอนาคตทั้งในมิติ สังคม เศรษฐกิจ และ สิ่งแวดล้อม เพื่อประกาศให้ทั่วโลกเห็นถึงความสามารถในการเป็น “ครัวแห่งอนาคตของโลก” ซึ่งอาหารที่ทำออกมาต้อง “ดีต่อใจ ดีต่อสุขภาพ ดีต่อสิ่งแวดล้อม” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว