เปลว สีเงิน
เมื่อพิธีพระราชทานเพลิงศพผ่านไป (๑๑ ตค.๖๕)
ทุกอย่างก็จากลา…
เหลือแต่ความเงียบเหงาห่อหุ้มความว้าเหว่-อ้างว้างในหัวอกคนเป็นพ่อแม่-พี่น้องของทูตสวรรค์ตัวน้อยๆ ที่คืนกลับสู่สวรรค์กันแล้ว
ในภาวะนี้ ถ้าไม่มี “ภาพประทับจำ”…..
“พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” และ “สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี”
เสด็จฯไปทรงเยี่ยมด้วยพระทัยห่วงใย ทันที-ทันใด ถึงหนองบัวลำภู และทรงมีพระราชดำรัสปลอบขวัญ ให้กำลังใจ เป็นหลักยึดในยามมืดมนแล้วละก็
ยากนัก….
ที่คนเป็นพ่อแม่-ญาติพี่น้อง จะก้าวผ่านด่านวิบากและหักอาลัย มีกำลังใจ ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้
ผมนำโพสต์คุณ “ยุ้ย ท่าเรือ” ที่เล่าถึงบรรยากาศภายในศาลา และพ่อแม่ ญาติๆเทวดาตัวน้อยๆ นอนเฝ้าท่ามกลางพวงมาลาพระราชทาน
เมื่อวาน (๑๑ ตค.) คุณยุ้ย โพสต์อีกครั้ง โพสต์ด้วยเหตุใด อ่านดูนะครับ
……………………….
ยุ้ย ท่าเรือ
ด้วยความเคารพ..
ยุ้ยขอพิมพ์เพิ่มเติมจากโพสต์เดิมนะคะ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid= 6351298371552003&id=100000157103360
ด้วยมีบางท่านไม่เข้าใจชาวบ้านที่นี่ ไปอ่าน มีบางท่านตำหนิว่า..ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง
ถ้ามีความผิด คือยุ้ยผิดค่ะ ที่เล่าถ่ายทอดได้ไม่ครบถ้วน ทำให้บางท่าน เข้าใจชาวบ้านที่นี่ผิดไป ..
เจตนาที่ชาวบ้านนอนคืออยากใกล้ลูกหลานแก้วตาดวงใจมากที่สุด กลัวจิตลูกหลานมองไม่เห็นใคร เพราะตอนแก้วตาดวงใจเขาเจ็บปวด ไม่มีพ่อแม่ปู่ย่าตายายคนไหน ได้อยู่ใกล้ ปลอบประโลมเขา
ตอนรู้ว่าเขาถูกทำร้าย ก็เข้าไปดูในทันทีไม่ได้ ไม่มีโอกาสหาวิธีฉุดยื้อให้รอดปลอดภัย
รออย่างทุกข์ทรมานกันข้ามวัน จนผ่าพิสูจน์เสร็จ แล้วส่งคืน ได้ดูลูกหลานเพื่อยืนยันว่าใช่ไหม ตอนที่เขานำกลับมา
บางคนยังไม่มีโอกาสได้กอดลูก พ่อต้องไปทำงานต่างประเทศ ไปตอนภรรยาตั้งครรภ์ พอลูกเกิด พูดคุยทักทายกันแค่ในวิดีโอคอล ยังไม่มีโอกาสได้กอดได้สัมผัสเค้าเลยสักครั้ง
บางคนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ไม่เคยให้ลูกห่างกาย ห่างแต่ตอนไปโรงเรียน นมก็ยังดื่มจากอกแม่
พอได้เห็น…
ลูกหลานบางคนมีแผลที่หน้าหลายแผล บางคนที่หัว บางคนที่แขน ที่ขา ที่หลัง แก้วตาดวงใจคงเจ็บมาก
เจ็บแบบไม่ได้มีโอกาสปลอบประโลม ปกป้อง หัวอกเราพ่อแม่ หัวอกปู่ย่าตายาย ที่ฟูมฟักเขามา รู้สึกผิดไหมคะ
เสียลูกหลานในสายเลือดครั้งนี้ บางบ้านมากกว่า 1 ชีวิต บางบ้านรวมแล้วเสียไปถึง 6 ชีวิต
ต้องสลับเปลี่ยนที่นอน ให้ใกล้ลูกหลานแต่ละคนมากที่สุด บางคนต้องสลับจุดนอนไปเรื่อยๆ ให้ครบลูกหลานทุกคน
ยุ้ยเล่าและอธิบาย ว่า….
“พวงมาลาประจำพระองค์” คือ เสมือนสิ่งแทนพระองค์
สีของพวงมาลา คือ สีประจำวันเกิดของพระองค์ท่าน ตัวหนังสือ คือ ตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์
พอชาวบ้าน ที่ฟังอยู่ทราบ ตกใจมาก รีบหดขา
แล้วกราบ บอกว่าไม่รู้ …..
พอยุ้ยบอกว่า “นอนเถอะจ้ะ ท่านไม่ว่าหรอก ท่านต้องทรงทราบ และอนุญาตแล้ว”
ชาวบ้านบอกว่า “บ่เอาดอก สงสารเพิ่น บ่กล้าแล้ว”
ยุ้ยเลยบอกว่า ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่แบบนี้ แสดงว่า ต้องได้รับคำสั่งแล้ว ว่าให้ปล่อย ปกติเจ้าหน้าที่ผู้มีความรับผิดชอบ ไม่กล้าทิ้งจุดหรอกจ้ะ
นอนเถอะ นี่เป็นสิ่งแทนพระองค์ อบอุ่นใจเถิดจ้ะ ว่าพระองค์ท่านและครอบครัว อยู่กับทุกๆ คนที่นี่
พระองค์เป็นกำลังใจ ให้เราเข้มแข็ง อยู่เคียงข้างให้ผ่านตรงนี้ไปให้ได้ เพื่อนางฟ้าเทวดาตัวน้อยของเราจะได้ไม่ห่วงนะจ๊ะ
พอพูดเสร็จ ยุ้ยก็นอนคุยด้วย (ชาวบ้านชวนตอนแรกยุ้ยไม่กล้า) แต่ด้วยสภาพจิตใจของคนที่นี่ ต้องรีบเยียวยา ชวนคุยจนแต่ละคนหลับ
พอคนนี้หลับ ยุ้ยก็จะย้ายจุดไปคุยกับคนอื่นๆ ที่เห็นยังนอนเหม่ออยู่ค่ะ
เมตตาคนขวัญเสีย และทุกข์โศกเกินประมาน ที่ไม่รู้ไม่มีเจตนาเถิดนะคะ
ถ้าผิด คือยุ้ยผิด
ที่เล่าไม่หมด มองตัดสินจากความเป็นเขา ด้วยจิตเมตตา
อย่าใช้ความเป็นเราตัดสินใคร ..
รู้ไหมคะ พ่อแม่ปู่ย่าตายายที่นี่ เป็นลมช็อกหมดสติ หลายต่อหลายครั้ง
ช่วงที่ชาวบ้านเล่าระบายออกมา ยุ้ยสัมผัสได้ถึงความทุกข์ทรมาน เศร้าโศก สูญเสียถึงขีดสุด มากกว่าครอบครัวไหนๆ ชุมชนไหนๆ จะเคยพบเจอ
คุณยายท่านนึงเล่าไป แคะแกะเล็บไป ตาเหม่อลอย ยุ้ยต้องบีบนวด ชวนคุยไปเรื่องอื่นๆ
ไม่ถามถึงภาพเหตุการณ์ ปล่อยให้ท่านได้พูด บางคนเป็นชั่วโมง จะพูดอะไร ก็ให้พูดออกมา
เจตนา คือ มาอยู่เป็นเพื่อน
ยุ้ยถึงพยายามสื่อให้เห็นถึงน้ำพระทัย สื่อด้วยเจตนาอยากเรียกขวัญของคนที่นี่และขวัญของเราทุกๆ คนกลับมา
แต่แรกจึงข้ามรายละเอียดในความสูญเสียออกไป
เล่าไม่หมด..
ด้วยความเคารพ
ยุ้ยกราบขอโทษนะคะ
#หนองบัวลำภู
………………………..
นี่ก็เป็น “หัวจิต-หัวใจ” คุณยุ้ย วันวาน ผมนำทั้ง ๒ โพสต์เผยแพร่ เมื่อคุณยุุ้ยโพสต์เพิ่มเติม ก็เป็นหน้าที่ ที่ผมต้องนำมาเติม เพื่อเต็มความ
พูดกันตรงๆ….
ในหลวงของเราพระองค์นี้ จากใจสามัญชนถึงพระเจ้าแผ่นดิน “สงสารพระองค์ท่านมาก”
เพราะพระองค์ถูกกลุ่มบุคคลที่มุ่งล้มล้างสถาบัน ใส่ร้ายป้ายสี สร้างเหตุ สร้างเรื่อง สร้างข่าว ในแง่ร้าย อันไม่เป็นจริง เผยแพร่ทั้งในและนอกประเทศ….
หวังให้คนเข้าใจในทางที่ผิด เพื่อลบหลู่พระเกียรติ ด้วยหวังโยกคลอนศรัทธา กัดกร่อนทำลายพระองค์และสถาบัน สู่เป้าหมายล้มล้างทั้งสถาบัน “ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์” ไปคราวเดียวกัน
ดังเห็นได้ ในกรณี “โศกนาฎกรรม” ที่หนองบัวลำภู ในหลวงและพระราชินี ด้วยน้ำพระทัยห่วงใยต่อทุกข์พสก รีบเสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์
เพราะทรงรับรู้ถึงความทุกข์โศกคนเป็นพ่อแม่จากการสูญเสียได้ดี ว่ายามเคว้งคว้าง สิ่งเดียวที่จะช่วยได้
คือขวัญ กำลังใจ น้ำใจ เป็นมือ-เป็นขอนไม้ ช่วยพยุงให้ยึดเกาะ ก่อนจมมิด ด้วยจิตอนธกาล
แต่กลุ่มคนที่มุ่งล้มล้าง นอกจากไม่มีจิตใจร่วมทุกข์แล้วยังคอยจับจ้อง หาช่องกัดเซาะ กระทั่งเรื่องพรมแดง ก็นำไปปรุงแต่ง ค่อนแคะ-ป้ายสี ให้คนเข้าผิดต่อสถาบัน
น่าเวทนาในจิตต่ำทรามกลุ่มคนพวกนี้….
ซึ่งไม่ต้องบอกก็ทราบกันแล้วว่า พวกไหน-ใครบ้าง?
“พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ทรงอดทนด้วยอุเบกขาและเมตตาบารมีธรรมกล้าแข็งยิ่งมาตลอด
เรื่อง “พิธีการ” นั้น ถ้ามิใช่ “เป็นทางการ” แล้ว การ “เสด็จส่วนพระองค์” ยิ่งเฉพาะกับชาวบ้านด้วยแล้ว พระองค์ทรงเรียบง่ายที่สุด
ผมอยากให้อ่านนี่ แล้วจะรู้
……………………..
ราชสีห์ จิตอาสา
#ความซาบซึ้งต่อในหลวง เมื่อทรงเสด็จเยี่ยมผู้ป่วย #เคสกราดยิง เพื่อนพี่สุมน รักษาการ ผอ.รพ.อุดรธานี ช่วงนี้ เขียนเล่าให้ฟังว่า
วันศุกร์ที่ 7 ต.ค.2565
-ราชองครักษ์ มาดูสถานที่ เตรียมรับเสด็จ พระองค์ท่าน #ให้จัดงานรบกวนประชาชนหรือผู้ป่วยให้น้อยสุด
#ห้ามทำผ้าสีเหลืองคาดตามกำแพง รพ.
#ห้ามปูทางเสด็จเป็นพรมสีแดง ให้ใช้ทางปกติธรรมชาติ
#ห้ามปิดถนนก่อนเวลาให้การสัญจรปกติ ปิดเฉพาะช่วงท่านเสด็จเท่านั้น และเปิดการจราจรทันที ให้รบกวนคนเดินทางให้น้อยสุด
#ไม่ต้องใช้ราชาศัพท์ ถ้าพูดหรือจำไม่ได้ พูดธรรมดาภาษาไทยสุภาพ
#ห้ามเกณฑ์ประชาชนมารับเสด็จจำนวนมาก ให้มาโดยสมัครใจ
#ราชองครักษ์ กล่าวแนะนำ ดังนั้น รพ.อุดรฯ จึงเตรียมงานรับเสด็จได้อย่างสบายใจ ไม่เคร่งเครียด
พระองค์ท่าน รับสั่งตรัส กับผม ด้วยความเมตตา
ราชองครักษ์ บอกว่า ท่านมาเยี่ยม รพ. และผู้ป่วย #เป็นการส่วนพระองค์
#ดังนั้น ท่านนายกฯ รมต. สาสุข ท่านปลัด ท่านผู้ตรวจฯ ท่าน สสจ. #ให้ยืนด้านนอก
#ให้เฉพาะ ผอ[รักษาการ ผอ] #ท่านเดียวถวายรายงาน ไม่งั้น ผู้ใหญ่จะยืนแถวยาว ผอ.รพ.จะไม่ได้พูด
ผมซาบซึ้งมากครับ อยากให้ #น้องเด็กรุ่นใหม่มาเห็นกับตา
บางครั้ง ทัศนคติที่ไม่เคยเห็นกับตา ฟังแต่เล่ากันมา
ไม่ได้ปฏิบัติจริง ทำให้เกิดความคิดความเห็น bias
——————
ก็อยากบอกพวกอสัตย์ชาติ ได้สำนึก ว่า
“พระมหากษัตริย์” นั้น คือ
“พระเจ้าแผ่นดิน”
๕๑๓,๑๒๐ ตารางกิโลเมตร ในความเป็น “ราชอาณาจักรไทย” ณ ปัจจุบัน แต่ละพระองค์ทรงสืบสาน
ฉะนั้น พวงมึงอย่าให้มันมากนัก ขอเตือน!
เปลว สีเงิน
๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๕