เปลว สีเงิน
โดนอีกแล้ว…. “ลุงตู่” ผม!
ประชุมเทเลคอนเฟอเรนซ์วันก่อน บอกบรรดาผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดไปว่า
“สถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้…….
การใช้บริการไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ ต้องให้ใช้ได้นานที่สุด ถ้าระบบมันล่มไปทั้งหมด
การสื่อสารแจ้งข้อมูล จะทำได้ลำบาก
อาจจะต้องไปใช้ “วิทยุทรานซิสเตอร์” ในการออกอากาศแจ้งเตือนประชาชนได้อีกทาง
เคยใช้กันปี ๒๕๕๔ เพราะตอนนั้น “ไฟฟ้าดับหมด” ดังนั้น เราต้องเตรียมแผนตรงนี้ไว้ด้วยในกรณีที่อาจจะเกิดปัญหา
เท่านั้นแหละ…..
ลุงตู่ “นายกฯ โง่” ถูกบรรดา “คนฉลาด” รุ่นใหม่ หยันเย้ยจนดูเป็น “ลุงเชย” หิ้วชะลอมขึ้นรถไฟหวานเย็น อย่างนั้นเลย
ถึงขั้นเพจ “Drama-addict” เบิล “นายกฯ โง่” ว่า
“……โลกปัจจุบันวิทยาการสมัยใหม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมของชาวบ้านไปแล้ว การที่เอาแนวคิดใช้วิทยุทรานซิสเตอร์มาปัดฝุ่น จึงถูกมองว่าตกยุคและถอยหลังลงคลอง”
แล้วพวกเขาก็เมนท์เบิลต่อๆ กัน สนุกสนาน บางคนว่า
“อย่าลืมนกพิราบสื่อสารด้วยนะ”!
บางนักการเมือง อย่างคุณหญิงสุดารัตน์ ทั้งทวิตข้อความทั้งอัดเสียงลงคลิป
“นายกบอกถ้าไฟดับให้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมทางวิทยุทรานซิสเตอร์ ใครยังไม่มี รีบซื้อนะคะ เดี๋ยวของขาดตลาดนะ”
นายไพศาล พืชมงคล คนปรับตัว “ฉลาด” ได้ทุกยุค โพสต์ตอนหนึ่งว่า
“……………..เมื่อครั้งผมเป็นเด็กๆ ก็นิยมชมชอบวิทยุทรานซิสเตอร์ แต่ปัจจุบันนี้ เขาใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่กันแล้ว
จึงไม่ทราบว่าจะไปหาซื้อได้ที่ไหน ท่านใดทราบว่าจะซื้อวิทยุทรานซิสเตอร์ได้ที่ไหน กรุณาบอกหลังไมค์ด้วย”
และอีกเยอะแยะ….
ทั้งข่าวออนไลน์ ทั้งข่าววิพากษ์หน้าจอ นายกฯ ถูกบรรดาคนฉลาดรุมเบิลซะเละเลย
จากที่ว่า “นายกฯ โง่” เฉยๆ ถูกยกระดับไปปถึงขั้น “โง่-ยกกำลัง ๒” ประมาณนั้นเชียว!
ผมอ่านๆ เห็นขำดี ระหว่างรอดูทีมไทย “สาวใจสิงห์-สู้ตาย-ไม่หยิ่ง-แต่สวย” ตบกับทีม “สาวแคนาดา” ชิงเข้ารอบ ๘ ทีม ตอน ๒ ทุ่มเมื่อคืน
ก็เลยนำมาคุยขัดตาทัพไปเรื่อยๆ เรียกว่า หูฟังเสียงไปด้วย ตาดูนิ้ว จิ้มคอมฯ ไปด้วย
อยู่สังคมยุค คนฉลาด “รกเมือง” นี่……..
จะว่าทุเรศ-รำคาญก็ได้ จะดูขี้เท่อเป็น “เอนเตอร์เทน” ก็ได้ ขึ้นอยู่ว่า เราจะเลือกมุมไหนเพื่อ “ชีวิตเป็นสุข”
ดู “พลเอกประยุทธ์” เป็นตัวอย่าง….
เหล่าคนฉลาดยุค “แดงส้ม ๓ นิ้ว” เขาเหยียบท่านอยู่ในตำแหน่ง “นายกฯ โง่”
ท่านก็วางจิต ว่านั่นแค่เสียงกระทบหู แล้วปล่อยวาง จิตท่านก็พลันอยู่ “เหนือเสียง”!
เลยกลายเป็นว่า “คนฉลาด” กลับดิ้นพราดๆ
เป็น “ฉลาดจมปลัก” กันไปซะเอง!
ยิ่งเห็นคนที่ว่าเขาโง่ เขากลับอยู่ได้นาน แถมบ้านเมืองเป็นสุข
คน “ฉลาด” จากดิ้นพล่าน สันดานอันธพาลเริ่มออกลายเป็น “แกมโกง” ตามประสา “ประชาติ๊บปะไต” โจร!
ท่านว่า “ขงเบ้ง” กับ “เล่าปี่” ใครฉลาดกว่ากัน?
และ “กุยแก” กับ “โจโฉ” ใครฉลาดกว่ากัน?
ทุกคนต้องบอก “ขงเบ้ง” ฉลาดกว่า “เล่าปี่” และ “กุยแก” ฉลาดกว่า “โจโฉ”!
เพราะทั้งโจโฉและเล่าปี่ ในการทำศึกแต่ละครั้ง ต้องอาศัย ๒ กุนซือนี้ เป็นคนวางแผน
แล้วคนฉลาดขนาดรู้ฟ้า-รู้ดิน เจนจบการรบ-การศึก อย่างข้งเบ้งกับกุยแก ทำไมต้องเป็นลูกน้องเล่าปี่กับโจโฉล่ะ?
ทำไม่ไม่ “เป็นใหญ่” ซะเองล่ะ?
ตกลง “ใครฉลาดกว่าใครแน่” ระหว่าง “เล่าปี่กับขงเบ้ง” และระหว่าง “โจโฉกับกุยแก”?
สูงสุด คืนสู่สามัญ ฉันใด
โง่งมเท่าไหร่ ฉลาดซ่อนคมในโง่ ก็ฉันนั้น!
จงจำไว้อย่าง ในโลกนี้ ไม่มีทฤษฎีใด ตำราใด หลักการใด เหนือไปกว่า “ประสบการณ์”
มีความรู้ แต่ไม่มีประสบการณ์ ก็ฉลาดเหมือนควายจมปลัก ที่บอกว่า “วิทยุทรานซิสเตอร์…..
ตกยุคและถอยหลังลงคลอง” นั่นแหละ!
ส่วนที่นายกฯ บอกว่า……..
“การใช้บริการไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ ต้องให้ใช้ได้นานที่สุด ถ้าระบบมันล่มไปทั้งหมด การสื่อสารแจ้งข้อมูล จะทำได้ลำบาก
อาจจะต้องไปใช้ “วิทยุทรานซิสเตอร์” ในการออกอากาศแจ้งเตือนประชาชนได้อีกทาง”
นั่น มาจากทั้งความรู้ ทั้งประสบการณ์ล้วนๆ ๑๐๐% สมภาวะ “ผู้นำโง่” ที่มากประสบการณ์
และจูงจมูก “พวกฉลาด” ขึ้นจากหล่มปลัก “เอาบุญ” ได้ด้วย!
พวก “ฉลาดรุ่นใหม่” ไม่ต่างกับพวก “ตาบอดไม่กลัวเสือ” ประมาณนั้น
เมืองไทยเราอยู่ในโซน “โชคดี”
ไม่มีภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว รบกวนมากเหมือนหลายๆ ประเทศที่ตั้งอยู่ตามแนวแผ่นเปลือกโลกแยกตัว เช่น ญี่ปุ่น อินโดฯ ทั้งวาตภัย-อุทกภัย ก็มีแนวเขากั้นรอบๆ
อีกอย่าง ระบบไฟฟ้าบ้านเรา แต่ละรัฐบาลบริหารได้เสถียร จึงไม่มีไฟตก ไฟดับ ไฟขาดแคลน
ดังนั้น “รุ่นใหม่-รุ่นเก่า”…..
จึงเหมือน “ตาบอดไม่กลัวเสือ” เพราะไม่เคยเห็นเสือมาก่อนนั่นแหละ!
จึงไม่ “ตระหนัก-สำนึก” เพราะไม่เคยผ่านประสบการณ์ ตกอยู่ในภาวะ “แผ่นดินไหว-ไฟดับ” เป็นต้น
ทำให้ไม่รู้ว่า “วิทยุทรานซิสเตอร์” นั้น…….
ไม่ว่ายุคไหน ที่ทุกคน-ทุกบ้าน ต้องเตรียม ไว้ตลอดเวลาคือ “วิทยุทรานซิสเตอร์”
พวกที่ฉลาดนั้น อยากให้ลดฉลาดลงไปโง่ซักนิด ไปศึกษาถึงเรื่อง “การเตรียมรับมือภัยพิบัติ” ที่เป็นสากลกันไว้บ้าง
จะได้ไม่เป็นคนฉลาดที่ต้องตายแบบโง่ๆ ยามเผชิญภัยพิบัติไงล่ะ ยิ่งนับวัน “โลกวิปริต” แปลกๆ ขึ้นเรื่อยๆ เรายิ่งต้องสนใจเรื่องนี้กันให้มากๆ
ผมจะนำจากเว็บญี่ปุ่นที่เขาแปลเอาไว้มาให้อ่านเป็นคติสำนึกนะครับ
…………………………
การเตรียมรับมือภัยพิบัติ/สิ่งของที่นำติดตัวกรณีฉุกเฉิน
ในกรณีฉุกเฉิน อาจต้องหลบภัยทันที
การเตรียมสิ่งของที่จะนำติดตัวไปในกรณีฉุกเฉิน ใส่ถุงที่สะพายได้ เช่น กระเป๋าเป้ ฯลฯ เอาไว้ก่อน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
กระเป๋าสำหรับนำติดตัวกรณีฉุกเฉินควรเน้นสิ่งเหล่านี้ และให้มีน้ำหนักไม่เกิน 15 กก.สำหรับผู้ชายและ 10 กก. สำหรับผู้หญิง
-วิทยุแบบพกพา(อย่าลืมถ่านสำรอง)
ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อเกิดภัยพิบัติ
-ไฟฉาย(อย่าลืมถ่านสำรอง)เทียน
จำเป็นต้องใช้เมื่อไฟดับหรือจะทำอะไรตอนกลางคืน
-หมวกนิรภัย(ที่คลุมหัวเพื่อป้องกันภัยพิบัติ)
อาจเตรียมได้ลำบาก แต่มีไว้จะปลอดภัยกว่า ช่วยปกป้องศีรษะจากสิ่งของที่ร่วงตกลงมาฯลฯเมื่อหลบภัย
-อาหารฉุกเฉิน(สำหรับ 3 วัน)
สิ่งที่สามารถรับประทานได้โดยไม่ใช้ไฟ เช่น ขนมปังแห้ง แครกเกอร์ ฯลฯ จะสะดวก
-น้ำดื่ม(สำหรับ 3 วัน)ประมาณ 3 ลิตรต่อคนต่อวัน(3 วันเป็น 9 ลิตร)
-เครื่องนุ่งห่ม(ชุดชั้นใน เสื้อผ้า ถุงเท้า ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวฯลฯ)มีชุดเครื่องนุ่งห่มแบบพกพา ฯลฯ ด้วย
-อุปกรณ์ดำรงชีพ(ไฟแช็ค ไม้ขีดไฟ ถุงมือ จานกระดาษ แก้วกระดาษ มีด ที่เปิดกระป๋อง ที่เปิดขวด กระดาษทิชชู่ กระดาษเปียก แผ่นพลาสติก ฯลฯ)
-ยาฉุกเฉิน ยาประจำตัว (พลาสเตอร์ ผ้าก๊อซ ผ้าพันแผล ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ไข้ ยาระบบทางเดินอาหาร ยาแก้หวัด หน้ากากอนามัย ยาหยอดตา ฯลฯ)ผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่าลืมยาประจำตัว
-สมุดบัญชีเงินฝาก หนังสือรับรอง ตราประทับ เงินสด
เงินสดให้เตรียมเหรียญ 10 เยน ฯลฯ เอาไว้ด้วย ไม่ใช่เตรียมแค่ธนบัตร
ใบอนุญาตขับรถ เอกสารยืนยันตัวตน บัตรนักเรียน บัตรประกันสุขภาพ ฯลฯ
……………………….
นี่คือประสบการณ์ของคนญี่ปุ่น นายกฯท่านเป็นทหาร ชำนาญและรู้ขึ้นใจว่าเวลาคับขัน “วิทยุทรานซิสเตอร์” นี่แหละคือหัวใจการสื่อสารเพื่อการช่วยเหลือที่สำคัญ
ก็เท่านี้นะ
ไม่อยากคุยมากกับคนฉลาด ยิ่งไทยตบแพ้แคนาดา ๑:๓ อยู่ด้วย เดี๋ยวพ่อด…พาลละเลยนี่!
สาวไทย “แกล้งแพ้” ลองใจแฟนๆ ชาวไทยน่ะ คืนนี้ เชียร์กันใหม่ ตบกับเยอรมัน ที่เก่า-เวลาเดิม
ไปละ…เหงาไปนิด!
เปลว สีเงิน
๕ ตุลาคม ๒๕๖๕