1 ตุลาคม 2565-“พีระพันธุ์” เล็งรื้อระบบการคิดอัตราดอกเบี้ย ผ่านนโยบาย “รวมไทยสร้างชาติ” เฟสแรก ตั้งกองทุนประชาชน เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายเล็ก-ประชาชนรายย่อย เข้าถึงแหล่งเงินกู้ต้นทุนถูกตามความเป็นจริงได้ง่ายขึ้น หลังพบปมปัญหา ส่วนต่างดอกเบี้ยเงินฝากกับเงินกู้ห่างกันมาก และแบงก์ชอบใช้เป็นข้ออ้างมีต้นทุนในการดำเนินการกดดันให้ต้องชาร์จดอกเบี้ยเงินกู้สูง แต่กลับไร้การแจงรายละเอียดค่าดำเนินการให้ลูกค้ารับรู้ ขณะเดียวกัน เตรียมนโยบายผลกระทบค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลแพงเกินจริง
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติในเฟสแรกที่พร้อมนำเสนอในตอนนี้ จะเป็นประเด็นที่มีผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องดอกเบี้ยว่า ดอกเบี้ยเงินฝาก-เงินกู้เป็นเรื่องที่ซับซ้อนของระบบการเงินการคลัง
เข้าใจได้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยหรือแบงก์ชาติ คือหน่วยงานที่ชำนาญที่สุด ที่จะดูว่าสถานการณ์ดอกเบี้ยควรจะดำเนินการอย่างไร จะปรับขึ้นหรือลง แต่ก็จะเป็นเพียงการกำหนดเพดานไว้เท่านั้น
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า แต่สิ่งที่ควรจะมีความชัดเจน คือเรื่องของส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยเงินฝากกับดอกเบี้ยเงินกู้ของสถาบันการเงินที่แตกต่างกันมาก ที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์ต่างพยายามชี้แจงว่าเกิดจากค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการดำเนินการ และถ้าหากเป็นแบบนั้นก็ต้องเข้าใจ เพราะถ้าธนาคารขาดทุนก็อยู่ไม่ได้ แต่สิ่งที่ต้องชัดเจน คือเรื่องของรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่บอกมานั้นคืออะไรบ้าง
เพราะที่ผ่านมาทุกคนได้รับฟังมาตลอดว่า ส่วนต่างดังกล่าวมีสาเหตุจากค่าใช้จ่ายต่างๆ ของธนาคาร แต่ไม่เคยมีหน่วยงานไหนมาชี้แจงว่าค่าใช้จ่ายเหล่านั้นคืออะไร ที่ทำให้กลายเป็นส่วนต่างที่ต่างกันมากจริงๆ และถ้าหากเป็นเช่นนั้น จะมีค่าใช้จ่ายใดบ้างหรือไม่ที่ทางธนาคารจะสามารถลดลงได้ เพื่อจะได้ไม่มาทำให้เกิดส่วนต่างของดอกเบี้ยที่สูงแบบนี้
ตนคิดว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่หน่วยงานภาครัฐ กระทรวงการคลัง หรือแบงก์ชาติ ควรจะเข้ามากำกับดูแลให้ชัดเจนขึ้น เพราะส่วนใหญ่คนที่ได้รับผลกระทบก็คือ บรรดาผู้ประกอบการในแขนงต่างๆ สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่แขนยาวมือยาว สามารถมีช่องทางเยอะ แต่ผู้ประกอบการรายเล็ก รายย่อย ไม่ได้มีโอกาสแบบนั้น ผลกระทบสุดท้ายก็ต้องมาถึงประชาชนทั่วไปอยู่ดี
“แนวทางที่ผมคิดไว้คือถ้าระบบเป็นแบบนี้ อัตราดอกเบี้ยมันเป็นแบบนี้ มันน่าจะมีกองทุนที่เข้ามาดูแลประชาชนในการช่วยดูแลเรื่องภาวะเศรษฐกิจ หรือทุนที่จะต้องใช้ในการประกอบอาชีพ หากจะไปใช้บริการผ่านธนาคารอาจจะมีภาระดอกเบี้ย หรือค่าใช้จ่ายในการให้บริการแพงเกินไปสำหรับคนธรรมดา ผู้ประกอบการธรรมดา
ปัญหาเหล่านี้รัฐควรจะต้องเข้ามาดูแล ดีกว่าเอาเงินไปปู้ยี่ปู้ยำกับอะไรก็ไม่รู้ แล้วก็เอาไปทุจริตคอรัปชั่นกัน อันนี้ผมคิดว่าต้องแก้ไข สำหรับผมไม่ได้คิดแค่ว่าจะต้องปฏิรูป แต่ต้องรื้อระบบพวกนี้ทั้งหมดเลย” นายพีระพันธุ์กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า อีกประเด็นหนึ่งที่ตนได้รับร้องเรียนมามาก คือเรื่องการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล ที่ปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายสูงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน เพราะตอนนี้หลายคนที่มีกำลัง ก็พยายามที่จะไปพึ่งพาโรงพยาบาลเอกชน แต่ค่าใช้จ่ายกลับสูงมาก สิ่งที่ต้องมีความชัดเจนคือค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลมาคิดกับประชาชนนั้น มีปัจจัยจากอะไร
มีหลายคนมาร้องเรียนว่า ไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนได้รับยาแบบเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกัน แต่ราคาของแต่ละโรงพยาบาลกลับแตกต่างกัน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ดังนั้นในนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงจะเข้าไปดูแลตรงนี้ด้วย เพื่อหาแนวทางลดผลกระทบเกี่ยวกับราคาค่ารักษาพยาบาลที่แพงเกินความเป็นจริงดังกล่าว