อดกรี๊ดคนเดียวไม่ไหว ขอลัดคิวมาให้ช่วยกันกรี๊ดหน่อยเหอะ
เมื่อหัวค่ำวันเสาร์ รายการ “วอลเลย์หญิงชิงแชมป์โลก” ในกลุ่มบี สาวทีมไทย “เล็กพริกขี้หนู” ลงแลกตบกับสาวทีมตุรกี “ไก่งวงยักษ์” อันดับ ๖ ของโลก
ผมนึกในใจ …..
ขอชนะซัก “เซตเดียว” ก็พอรักษาหน้าศักดิ์ศรีทีมไทย อันดับ ๑๔ ของโลกได้แล้ว อย่าต้องให้แพ้ถึงขึ้น ๓-๐ เลย
เพราะตั้งแต่แข่งกันมา ๖ ครั้ง เราไม่เคยชนะตุรกีเลย อย่างเก่งก็แพ้ ๑-๓ เซต
เมื่อวาน แลกตบกันเซตแรก ก็อย่างว่า ไก่งวงจิกแม่เล็กพริกขี้หนูของเรากระเจิงถึง ๒๕-๑๗
ผม…คนดู…ถอดใจไปเลย นึกล่วงหน้า แบบนี้ เจอ ๓-๐ แหง!
แต่ที่ไหนได้ พริกขี้หนูสำแดงเดช แม่ฮึดสู้สุดใจขาดดิ้น มึงตบมา กูตบกลับ ชนิดบ่ยั่น ความสูงเหนือกว่าหัวใจสู้ก็ให้มันรู้ไป
เซต ๒ เรียกว่า ไทยพลิกแพลงกระบวนท่า ใช้ความหยุ่นเหนียวเข้าต้านรับพลังฝ่ามืออันร้อนแรงและความสูง ๒ เท่าตัวของสาวไก่งวงได้ อย่างชาญฉลาด
การโรมรันชนิดตายกันไปข้างของเซตนี้ ตื่นเต้น-เร้าใจ จนตูดคนดูไม่ติดพื้น ทั้งแฟนๆ ในสนามที่เนเธอแลนด์ และท่านผู้ชมทางบ้าน ผ่านการถ่ายทอดในระบบต่างๆ
เบียดกัน ๒๔-๒๔ เอาละทีนี้ คู่คี่จนปวดท้องขี้กันทั้งคู่ คนดูก็ไม่ต่างกัน เรียกว่า หวาดเสียว วี๊ด..ว้าย..จนต้องเอามือปิดหน้าแล้วถ่างนิ้วแอบดู เพราะกลัวหัวใจจะวาย
แต่แม่คุณแม่ทูนหัวเอ๊ย ผัดกันตายคนละแต้มสลับกันไป จาก ๒๔-๒๔ ไปจนถึง ๒๙-๒๙ ใน ๒ ลูกสุดท้าย แม่พริกขี้หนูไดนาไมซ์ ระเบิดเปรี้ยง..เปรี้ยง
ชนะเซตนี้ไป ๓๑-๒๙ ตีเสมอเป็น ๑-๑ เซต!
ไก่งวง ชักแสบทวาร เริ่มรู้รสพริกขี้หนู จากที่เคยมองทีมไทยแค่ทางผ่าน ชักงุ่นง่าน ทั้งนักตบทั้งโค้ช “กุยเด็ตติ”
ขึ้นเซต ๓ มีเท่าไหร่ แม่ใส่หมด สูงขนาดยืนปกติ หัวเลยตาข่าย แม่ยังต้องโดดขึ้นไปเลยเสาโทรเลข เพื่อซัดเปรี้ยง กะทีเดียว เอาให้ไทยเดี้ยงไปเลย
แต่หารู้ไม่ ขึ้นชื่อว่าเลือดไทย ไม่ว่าหญิงหรือชาย “เรื่องขนาดไม่เคยเกี่ยง” เปรี้ยงมา-ก็เปรี้ยงไป
เมื่อเห็นไทยก็ระดับฝ่ามืออรหันต์ ไก่งวงเลยหันไปสลับใช้วิชา “ทองหยอด”
ก็สูสี-คี่คู่ แต่สาวตุรกีชาร์ตแบตมาเต็มกว่า ขณะที่สาวไทยแบตชักอ่อน จึงชนะไปแบบงวงห้อย ๒๕-๒๒ ในเซตที่ ๓
ตุรกีนำไทยอยู่ ๒-๑ เซต
ถึงตอนนี้ ผมนึกปลอบใจตัวเอง เอาละวะ ยังไงก็ไม่เสียหน้า ถ้าเราแพ้ ๑-๓ เซต คือผมเห็นใจสาวไทยที่ชักล้า เพราะต้องใช้พลัง ๒ เท่าในการเล่นแต่ละลูก ในขณะที่สาวไก่งวงใช้ซักครึ่งเท่า!
เขาได้เปรียบทุกรูปแบบ ทั้งชั้น ทั้งรูปร่าง ทั้งความสูง ทั้งความชินสภาพภูมิอากาศ ส่วนฝีมือ สูสี
มี ๒ อย่างเท่านั้น ที่ทีมสาวไทยเหนือกว่าตุรกีและ “ทุกทีม” ในโลก คือ
“หัวใจ” กับ “รอยยิ้ม”!
เพราะเหตุนั้น ด้วยหัวใจนักตบและกลยุทธ์พลิกแพลงเกมของโค้ชด่วน ในเซตที่ ๔ ทีมสาวไทย จึงทำให้ชาวโลกตะลึง
ไทยซึ่งไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว…….
ความสูงรึจะมาสู้หัวใจแกร่ง ทีมไทยตบแข่งตายให้โลกมันระบือไปเลย ว่าพวกหนูนี่แหละคือ “สาวไทย…ตายเป็นตาย” แต่เรื่อง “ถอดใจ” ไม่มีในพจนานุกรม”!
ชนะตุรกีไปด้วยสกอร์ ๒๕-๑๙!
๒-๒ ต้องตัดสินกันเชตที่ ๕ เป็นเซตตัดสิน ใครได้ ๑๕ แต้มก่อน ชนะไปเลย
ถึงตอนนี้ ผมไม่ต้องปิดตาลอดรูนิ้วดูแล้ว เพราะมั่นใจ ร้อยบาท เอาขี้หมาก้อนเดียวให้โทนี่อม ทีมไทยต้องชนะตุรกีแหงๆ
เพราะอะไรน่ะหรือ?
เพราะในทางจิตวิทยา ทั้งโลกมองไทยแพ้ตุรกีแน่ และคนตุรกี รวมทั้งโค้ช ทั้งสาวนักตบ ไม่เคยเห็นทีมไทยอยู่ในสายตา
แต่เมื่อไทยตีเสมอ ๒-๒
สำหรับไทย เท่ากับ “ไทยชนะตุรกี” แล้ว
ความฮึกเหิม พลังใจ และความมั่นใจ…ย่อมมาล้น
ถ้าแพ้ในเซต ๕ ก็เท่ากับแพ้ในเกม แต่ชนะในศักดิ์ศรี ชื่อ-ชั้นแล้ว
ดังนั้น เซตที่ ๕ ไทยจึงเล่นแบบ ไม่มีความกดดัน ทุกคนปลดล็อกตัวเองได้สำเร็จ ทุกคนจึงระเบิดฟอร์มได้เต็มที่
เมื่อเล่นแบบไม่กลัวแพ้….
ไทยจึงชนะในเซต ๕ ด้วยสกอร์ ๑๕-๑๓!
ตรงข้ามกับทีมตุรกี เมื่อถูกไทยที่ปรามาสมาตลอดตีเสมอ ๒-๒ ในระดับโลก เท่ากับ “แพ้แล้ว”
จึงสูญเสียความมั่นใจ หมดความผยองหยิ่งในความยิ่งใหญ่อันดับ ๖ โลกของตัวเอง
เมื่อสูญเสียความมั่นใจ คือขวัญเสีย การเล่นจึงเกร็ง ด้วยกลัวแพ้ เมื่อกลัวแพ้ จึงถูกชนะ
ตายง่ายๆ ด้วยเสิร์ฟลูกสุดท้าย “ติดเน็ต” จากแต้มที่บี้กันมา
๑๓-๑๔ จึงแพ้ไป ๑๓-๑๕ เรียกว่า ถอดใจแล้วคุกเข่า นำชัยใส่พานถวายไทยไปเอง!
จากโลกตะลึง ตอนไทยเสมอ ๒-๒ กับตุรกี
พอไทยชนะตุรกีไป ๓-๒ เซต
ทั้งโลกช็อก….และแฟนๆ ตุรกี ชักแหง็กๆๆๆๆๆ!
ถ้าได้ฟังคอมเมนท์จากแฟนๆ ทั่วโลกที่ชมแมตช์นี้ ต้องบอกว่า “ปานโลกแตก” ถึงขนาดนั้นเลย
มีแต่คนชื่นชมทีมไทย ไทยถือเป็นตัวแทนอาเซียนไปแข่งชิงแชมป์โลก จึงมีแฟนๆ ในอาเซียนมาชื่นชม ให้กำลังใจกันตรึม
และเป็นธรรมดา สำหรับคนแพ้ คือสาวตุรกี ถูกแฟนๆ สวดยับ ถึงขั้นบอกว่า เมื่อแพ้ไทยก็อย่าหวังว่าจะไปชนะใครในโลกนี้
อื้อหือ…พูดแบบนี้ มันไม่หยามทีมไทยมากไปหน่อยหรือ…พวก?
โค้ชตุรกี “กุยเด็ตติ” เขาให้สัมภาษณ์ว่า ทีมสาวไทยเราเป็น “มอนสเตอร์” ทีม ทำนองพวกเล่นของ หรือพวกภูติผีปีศาจประมาณนั้น
เขาว่า “พวกเธอมีวิธีการเล่นที่ร้ายกาจ เฉียบคม”
“วันนี้เราเจอผู้เล่นที่ฉลาดคนใหม่ของทีมไทย ที่สามารถปิดจุดบอดของทีมได้ และเกมส์วันนี้สนุกสุดๆ ไทยและตุรเกีย คือบัดดี้ทีม”
โค้ชกุยเด็ตติคงหมายถึง “ออมสิน-ศศิภาพร จันทวิสูตร” ตัวหัวเสา ที่ต้องยอมรับว่า เธอลงไปเป็นตัว “ตัวเปลี่ยนเกม” ทำให้ไทยชนะตุรกี
ในเซตตีเสมอที่ ๔ และเซ็ตที่ ๕ อันเป็นเซต “เชือดไก่งวง” ศศิภาพร เธอ “ผีเข้า-เจ้าสิง” จริงๆ
ต้องชม “โค้ชด่วน” เป็นพิเศษ ในนาทีตุรกีเปลี่ยนแผน ทำไทยรวน หวุดหวิดเพลี่ยงพล้ำในเซตที่ ๔ โค้ชด่วนส่งศศิมาพร กับ อัจฉราพร ลงไปพลิกเกม
จึงเป็นอย่างที่โค้ชกุยเด็ตติบอกว่า “ปิดจุดบอดของทีมได้” นั่นแหละ
ผู้บรรยายภาษาอังกฤษบอกว่า
“หากจะต้องซื้อบัตรดูวอลเลย์บอลสักคู่ แน่นอนว่าคือทีมไทย พวกเธอมหัศจรรย์มาก”
และ “แฟนวอลเลย์บอลไทย อยู่ทุกมุมโลก ต่างมีรอยยิ้ม เหมือนผู้เล่นของเขาเป็นผู้วิเศษ”
ครับ…..
ผมกลัวอกแตกตาย ก็เลยขอนำมาคุยตอนนี้ก่อน และที่น่าปลาบปลื้มแทนทีมไทย ทั้งโค้ชและสาวนักตบของไทยทุกคน คือ
หลังจบเกม………
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” และ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
ให้ “พลอากาศเอกสถิตย์พงษ์ สุขวิมล” ราชเลขานุการในพระองค์ โทรศัพท์ทางไกลไปถึง
“นายดนัย วัชรเมธากุล” หัวหน้าผู้ฝึกสอน ทีมงาน และนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย
เพื่ออัญเชิญ “พระราชกระแสชื่นชมและชมเชยนักกีฬาทุกคน” ที่สามารถเอาชนะทีมตุรกีได้ ในการวอลเลย์บอลหญิงแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งนี้
พร้อมกับอวยพรให้ทีมไทยประสบความสำเร็จ ทำชื่อเสียงกลับสู่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทยในโอกาสนี้ด้วย
ก็รอชมนัดต่อไป ที่ทีมไทยจะไปแข่งที่โปแลนด์
นัดนี้ พบกับโปแลนด์ “เจ้าภาพ” ที่เราแพ้ในเนชั่นลีก ๒-๓ ไปอย่างน่าเสียดาย เพราะ “ทัดดาว” เจ็บหนัก ต้องออกลางคัน เกมเลยพลิก
เราแพ้โปแลนด์ไปชนิดต้องพูดว่า “พระเจ้าไม่เข้าข้างเรา”
คราวนี้แหละ ได้ล้างทั้งตา-ทั้งแค้น
วันที่ ๒๘ กันยา.แต่คงต้องถ่างรอกันหน่อย เพราะถ่ายทดสดมาไทย ตอน ตี ๑ ครึ่ง
เก็บมาเมาธ์ก่อนเท่านี้ ก่อนโลกแตกจริงๆ ที่ไทยชนะจนได้ไปโอลิมปิก
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Thailand Volleyball Association สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย
