บอร์ดการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ติดตามความก้าวหน้าการปรับแก้ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมระบบสวัสดิการของชุมชน พ.ศ. … ตั้งเป้ายกระดับกองทุนฯ เป็นนิติบุคคล พร้อมเห็นชอบร่างแผนพัฒนางานสวัสดิการสังคมไทย ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) ร่วมสร้างหลักประกันทางสังคมโดยเสมอภาคแก่คนไทยตลอดช่วงชีวิต พร้อมเสนอครม.เพื่อพิจารณาต่อไป
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (19 กันยายน 2565) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมกิตติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ถนนนนทบุรี อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ (ก.ส.ค.) ครั้งที่ 1/2565 (ผ่านระบบ Video Conference) โดยที่ประชุมรับทราบและพิจารณาเรื่องสำคัญ ๆ ดังนี้
ที่ประชุม ติดตามความก้าวหน้าการปรับแก้ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมระบบสวัสดิการของชุมชน พ.ศ. … ตามข้อเสนอของภาคประชาสังคม ซึ่งร่าง พรบ.ฯ ฉบับนี้จะเป็นการสร้างหลักประกันความมั่นคงของคนในชุมชน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม และนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก โดยปัจจุบันกองทุนสวัสดิการชุมชน มีการจัดตั้งแล้วในระดับตำบลและเทศบาล จำนวน 6,033 กองทุน แต่ยังไม่มีกฎหมายรองรับและไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคล
ร่าง พรบ.ฯ ฉบับนี้ ให้ความสำคัญการกระจายอำนาจแก่ชุมชนในการจัดสวัสดิการชุมชน เมื่อสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลได้ จะเปิดโอกาสให้กองทุนฯ สามารถขอรับงบประมาณสนับสนุนจากหน่วยงานอื่นเพื่อนำมาใช้ในการดำเนินงาน จัดสวัสดิการที่เหมาะสมให้แก่ประชาชนในชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ก่อให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืน ทั้งในระดับครอบครัวและชุมชนต่อไป
ทั้งนี้ ร่างพรบ.ฯ ฉบับนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณายกร่างฉบับของรัฐบาล เพื่อให้มีกฎหมายรับรองสถานะของกองทุนฯ โดยคณะทำงานฯ จะดำเนินการรับฟังความคิดเห็น ปรับแก้ไขและเปิดเผยร่างฯ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2565 ก่อนจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบร่างแผนพัฒนางานสวัสดิการสังคมไทย ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) เพื่อสร้างหลักประกันทางสังคมโดยเสมอภาคแก่คนไทยตลอดช่วงชีวิต พัฒนาระบบสวัสดิการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มผลิตภาพ รวมทั้งการส่งเสริมพลังเครือข่ายสู่สังคมสวัสดิการ และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสวัสดิการสังคม โดยร่างแผนฯ ฉบับนี้มีวิสัยทัศน์ “มุ่งสู่สวัสดิการคุณภาพเพื่อชีวิตที่มั่นคงของคนในสังคมไทย”
มีโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ 4 แผนงานหลัก ประกอบด้วย 7 ด้าน คือ 1) การศึกษา 2) สุขภาพ 3) การมีงานทำและรายได้ 4) ที่อยู่อาศัย 5) นันทนาการ 6) กระบวนการยุติธรรม และ7) การฝึกอาชีพ รวม 82 โครงการ เบื้องต้น คาดว่าจะใช้งบประมาณ 1.89 แสนล้านบาท โดยคณะกรรมการฯ จะเสนอต่อสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป
นางสาวรัชดาฯ กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรี นายจุรินทร์ฯ เน้นย้ำว่าการจัดระบบบริการทางสังคมของประเทศ ต้องมีความครอบคลุมทั้งในด้านการป้องกันและการแก้ปัญหา รวมถึงการพัฒนาและส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงทางสังคม เพื่อตอบโจทย์ความจำเป็นพื้นฐานของประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยต้องคำนึงถึงความทั่วถึง เป็นธรรม และครอบคลุม