ที่มา..สมาคมชาวปักษ์ใต้ – สันต์ สะตอแมน

www.plewseengern.com

สันต์ สะตอแมน

ขอแสดงความยินดีกับนายกฯ ด้วยครับ!
ผมหมายถึง “นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้รับตำแหน่งไปเมื่อกี่วันที่ผ่านมาน่ะ

และหลังนั่งเก้าอี้ปุ๊บ นายกสมาคมฯ คนใหม่ก็ได้ลงมือทำงานตามเจตนารมณ์ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานทันทีทันใด โดยหนึ่งในนั้นก็คืองาน “สารทเดือนสิบ”

ซึ่งปีนี้ สมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ จะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 17-25 กันยายน 2565 ที่สมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ กทม.

ผม..แม้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสมาคม แต่ในฐานะคนใต้ ก็ใคร่ขอเชิญชวนทั้งคนภาคใต้และคนภาคอื่น ได้ไปร่วมทำบุญเดือนสิบด้วยกันนะ!

ได้บุญแล้วก็กิน-หรอยกันต่อกับอาหารหลากหลายถิ่นที่ พร้อมๆ ไปกับการเลือกซื้อสินค้าระดับโอทอป-ใต้แท้ๆ ตกค่ำมีมหรสพ หนังตะลุง มโนราห์ให้ดูฟรีตลอดงาน!

เนี่ย..ผมเขียนถึงกิจกรรมของสมาคมชาวปักษ์ใต้มาโดยตลอด แต่บอกตามตรงผมไม่เคยทราบประวัติความเป็นมาของสมาคมฯ สักเท่าไร

เพิ่งจะได้อ่านจากที่ คุณสหสัก กัญจนปกรณ์ เลขาธิการสมาคมฯ โพสต์นี่แหละ..

โห..สมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ ไม่เบาเชียวนะ ลองอ่านที่ผมคัดลอกมาบางช่วงบางตอนดูหน่อยก็ได้ โดยเฉพาะคนปักษ์ใต้รู้ไว้บ้างก็ดีนะ..ขออนุญาต

“เมื่อเกือบๆ 90 ปีก่อนโน้น ชาวปักษ์ใต้ อยู่ห่างไกลความเจริญกับเมืองหลวง (บางกอก) มาก การคมนาคมแสนจะลำบาก

การเดินทางไปมาส่วนใหญ่ คือ ทางรถไฟ เรือสินค้าทางทะเล และจักรยานหรือเท้าเปล่า สมัยนั้นชาวปักษ์ใต้ถ้าใครได้เดินทางมาเรียนหนังสือในบางกอกได้ นับว่าโชคดีที่สุด

เสมือนคนไทยในปัจจุบันที่ได้เดินทางไปเรียนหนังสือที่ยุโรปหรือเมริกาโน่น

ดังนั้น พวกภาคใต้เราที่มาเรียนหนังสือหรือประกอบอาชีพอยู่ที่บางกอกนั้นมีความว้าเหว่มาก จะพบพรรคพวกเพื่อนฝูงแต่ละครั้งหาที่นัดพบกันลำบาก

เพราะส่วนใหญ่อาศัยอยู่วัดกันทั้งนั้น การติดต่อนัดพบก็ลำบาก รถเมล์มีน้อย โทรศัพท์ก็ไม่มี ต้องอาศัยรถรางในการเดินทาง

ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี่เอง จึงทำให้ “สมาคมชาวปักษ์ใต้” เกิดขึ้นตราบทุกวันนี้

คือมีชาวภาคใต้กลุ่มหนึ่งได้นัดหมายให้พบปะกันที่ร้านกาแฟ หน้าวัดประยูรวงศ์ เชิงสะพานพุทธฯ ธนบุรี เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2475 เพื่อปรึกษาหารือกันเรื่องต่างๆ

ในที่สุดสรุปว่าเราจะก่อตั้งสมาคมพวกเราขึ้นมา โดยให้ชื่อว่า “สมาคมชาวปักษ์ใต้” เพื่อให้เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ มีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้นประมาณ 85 คน

เก็บเงินค่ากาแฟลงขันได้ 116 บาท จ่ายค่าอาหารเสีย 81.60 บาท เหลือเงิน 34.30 บาท เก็บไว้เพื่อเป็นการเริ่มต้นจดทะเบียนสมาคมฯ

โดยตั้งบุคคลขึ้นคณะหนึ่งในการติดต่อกับทางราชการจดทะเบียนสมาคมชาวปักษ์ใต้ อันประกอบด้วย ร.ต.ถัด รัตนพันธ์, พ.ต.หลวงอภิบาลภูวนาถ, ร.อ.หลวงวีรวัฒน์โยธิน,หลวงคเชนทรมาตย์

ขุนวรศาสตร์ดรุณกิจ, นายมงคล รัตนวิจิตร, นายกิมผ่อง โกศลสถิตย์, นายเที่ยง จินดาวัฒน์, นายห้วน ประชาบาล, นายปิ๋ว เปรมะดิษฐะ,

นายพัน โกมลกุญชร, นายถัด พรหมาณพ., นายจูกี้ ถิระวัฒน์, นายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล

คณะบุคคลดังกล่าวได้ดำเนินการตามมติที่ประชุมเสร็จเรียบร้อย โดยทางราชการออกหนังสือรับรองว่า “สมาคมชาวปักษ์ใต้” จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม2475

นับว่าเป็นสมาคมที่ 2 ของประเทศไทยที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีสโมสรคณะราษฎร์ จดทะเบียนเป็นสมาคมที่ 1 ของประเทศไทย..

การจดทะเบียนก่อตั้งสมาคมฯครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1.ส่งเสริมบำรุงรักษาความสามัคคี และอุปการะซึ่งกันและกันระหว่างชาวปักษ์ใต้

2.อุดหนุนการศึกษาของชาวปักษ์ใต้ 3. ช่วยในการกุศลเมื่อสมาชิกถึงแก่มรณภาพ 4.บำรุงทางอนามัย คือ การเล่นกีฬาต่างๆ

เมื่อได้หนังสือรับรองเป็นทางการแล้ว ทางคณะบุคคลผู้ก่อตั้งได้เรียกประชุมเพื่อเลือกตั้งนายกสมาคมฯ และคณะกรรมการขึ้นมาตามข้อบังคับที่ได้จดทะเบียนไว้

โดยมติส่วนใหญ่ได้เลือก พ.ต.หลวงภิบาลภูวนาถ เป็นนายกสมาคมคนแรกของสมาคมชาวปักษ์ใต้..

ต่อมาในปี พ.ศ. 2529-2536 สมัย พล.ต.อ.มนัส ครุฑไชยันต์ เป็นนายกสมาคมฯ ได้ซื้อที่ดินฝั่งธนบุรีย่านพุทธมณฑลวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างอาคารสมาคมฯหลังใหม่เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2530

โดยมี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษเป็นประธานในพิธี และในปี พ.ศ.2535 การก่อสร้างได้แล้วเสร็จ

ค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 34 ล้านบาท บนเนื้อที่ 6 ไร่ 9 ตารางวา เป็นที่ตั้งสมาคมฯ อันสมเกียรติและสง่างาม

ในวันที่ 25 ตุลาคม 2537 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมาคมฯอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในสมัย พล.ต.อ.ดรุณ โสตถิพันธุ์ เป็นนายกสมาคมฯ”

ครับ..ก็เอาคร่าวๆ รู้ไว้พอสังเขป!


Written By
More from pp
อนุชา ห่วงพระ จ.แพร่ ติดโควิดจากการเดินทาง เชื่อทุกวัดมีมาตรการเข้มงวด ขอความร่วมมือประชาชนป้องกันตามที่รัฐแนะนำ
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2564 ผ่านทางโซเชียลมีเดียและกลุ่มไลน์ต่างๆ ของ จ.แพร่ ว่าวัดเมธังปิดประตูห้ามบุคคลภายนอกเข้าวัด เนื่องจากมีพระติดโควิด-19 จาก กทม.
Read More
0 replies on “ที่มา..สมาคมชาวปักษ์ใต้ – สันต์ สะตอแมน”