มาเลเซีย มาแล้ว

www.plewseengern.com

ไม่ใช่เพียงสหรัฐฯ และยุโรป ที่เอาจริง เอาจัง กับการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ เพราะในเอเชียเอง ประเทศไทย ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำของภูมิภาค แต่ที่ต้องจับตาคือประเทศมาเลเซีย ที่แม้จะเป็นประเทศที่มีกฎหมายด้านยาเสพติดที่รุนแรง ถึงขั้นประหารชีวิต แต่ดินแดนเสือเหลือง กลับมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ

“คาดการณ์ว่า ตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์ทั่วโลก มีมูลค่าสูงถึง 1.9-2.1 ล้านล้านบาท ภายในปี 2025 กรณีรัฐแคลิฟอร์เนียอนุญาตเสพกัญชาเพื่อความบันเทิงหรือสันทนาการ ส่งผลให้มีเงินสะพัดในอุตสาหกรรมกัญชาในสหรัฐฯ มากถึง 5,100 ล้านดอลลาร์ ในปี 2018 และอุตสาหกรรมนี้อาจเติบโตถึง 3 เท่าในช่วง 10 ปีข้างหน้า”

เป็นข้อมูลจาก รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ นักวิชาการ กรรมการวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาวิจัยแห่งชาติ สาขาเศรษฐศาสตร์ ที่สะท้อนตัวเลขอันน่าตื่นเต้น เป็นตัวเลขที่มีเสน่ห์ดึงดูดนานาชาติ ให้ลงมาร่วมวงในตลาดนี้

กัญชา สามารถใช้ให้เป็นคุณด้านการแพทย์ ไปจนถึงการใช้เพื่อสันทนาการ เท่ากับมีความหลากหลายในการใช้ประโยชน์ เป็นอย่างมาก เช่นนี้ ทางการมาเลเซีย จึงมองเห็นช่องทางนำไปใช้ประโยชน์

ย้อนกลับไปในปี 2561 มูฮัมเหม็ด ลุกมาน ชาวมาเลเซียถูกตัดสินประหารชีวิต เนื่องจากเขาใช้น้ำในกัญชารักษาอาการเจ็บป่วย เรื่องนี้ กลายเป็นประเด็นซึ่งสังคมวิพากษ์ วิจารณ์ อย่างแพร่หลาย ถึงความไม่สอดคล้องกันกันระหว่างนวัตรกรรมทางการแพทย์ กับระบบกฎหมาย

ที่สุดแล้ว ลุกมานก็หนีโทษที่รุนแรงที่สุดนั้นไม่พ้น สิ่งที่ตามมาคือกระแสเรียกร้องทางสังคมครั้งสำคัญ เพราะมีชาวมาเลเซียจำนวนมาก โดยเฉพาะที่อาศัยในต่างประเทศ ให้ข้อมูลตรงกันว่ากัญชา สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ในประเทศ มีการเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดใจ และศึกษา การนำกัญชามาใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง

จากนั้น เป็นต้นมา รัฐบาลมาเลเซียจึงได้เริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยมีการศึกษาวิจัยอย่างต่อเนื่อง

กระทั่งประเทศไทยเดินหน้านโยบายกัญชาทางการแพทย์เป็นรูปธรรม มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ที่ต้องสานต่อนโยบายหาเสียงให้ประสบความสำเร็จ มีมาเลเซียคอยจับตามองอย่างใกล้ชิด ขณะที่ตลาดกัญชาเติบโตขึ้นทุกวัน

ที่สุดแล้ว การขึ้นมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุขคนล่าสุดของมาเลเซีย นายไครี จามาลุดดิน ส่งผลให้นโยบายกัญชาทางการแพทย์ของมาเลเซียมีความคืบหน้าอย่างยิ่ง ด้วยความเป็นคนหัวก้าวหน้า เพราะนายไครีมีอายุเพียง 46 ปี จึงทำให้นโยบายกัญชาถูกกฎหมาย ใช้เพื่อการแพทย์ สามารถเดินไปได้ โดยได้รับกาสนับสนุนจากสังคมชาวเสือเหลืองอย่างต่อเนื่อง ทางมาเลเซียวางเป้าหมายว่า ในปี 2566 จะมีการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สารสกัดจากกัญชา และเน้นใช้ในทางการแพทย์อย่างเข้มงวด

นายไครีพูดชัดเจนมาเสมอว่า “มีแนวทางในการทำนโยบายกัญชา เป็นของตัวเอง แต่รัฐบาล ก็ต้องศึกษาจากประเทศไทย” และนั่นไม่ใช่เพียงคำพูด แต่นายไครี ได้หารือเรื่องการเดินหน้านโยบายกัญชาถูกกฎหมาย กับนายอนุทิน มาตั้งแต่ที่ทั้งคู่ได้พบกันในงานประชุมสมัชชาอนามัยโลก เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

จากนั้น มีการประสานข้อมูล และความร่วมมือมาโดยตลอด กระทั่งวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่นายไครี ได้เดินทางมาถึงโรงผลิตยาขององค์การเภสัชกรรม เพื่อดูการปลูก และสกัดใช้กัญชา นี่คือความคืบหน้าล่าสุด ที่สะท้อนว่าทางการมาเลเซียมีความเอาจริงเอาจังในเรื่องของการใช้กัญชาทางการแพทย์

“ผมเชื่อมั่นในหลักวิทยาศาสตร์ ถ้าวิทยาศาสตร์บอกว่า ผลิตภัณฑ์สารสกัดจาก CBD นั้นมีประโยชน์ทางการแพทย์ ผมต้องหาทางนำมาใช้ เรื่องนี้ ผมผลักดัน โดยมีบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขเป็นแรงสนับสนุนเบื้องหลัง” นายไครีกล่าว

ทั้งนี้ มีประเด็นที่น่าขบคิดคือ มาเลเซียนั้นมีความเป็นอนุรักษ์นิยมอย่างสูง ดังนั้น มีความเป็นไปได้ว่า จะยังไม่เปิดให้มีการปลูก แต่จะหาทางนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศไทยไปใช้สกัดเป็นสารไป จนถึงนำเข้าสารสกัดจากไทย โดยที่ทางมาเลเซียไม่ต้องสกัดเอง เรื่องนี้ นายอนุทิน และนายไครี ได้หารือเบื้องต้นแล้ว และมาเลเซียมีแนวโน้มจะเป็นตลาดรับซื้อกัญชารายใหญ่ของไทยในอนาคต

นี่คือการขยับตัวของทางการมาเลเซียที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นเครื่องสะท้อนมุมมองของนานาชาติ ต่อกัญชาที่เปลี่ยนจากยาเสพติด ให้กลายเป็นยารักษาโรค และพืชเศรษฐกิจ ที่กำลังเป็น “เทรนด์โลก” ก็ขนาดที่มาเลเซีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศหนึ่ง ที่มีความเป็นอนุรักษ์นิยมในเรื่องนี้ และมีโทษเกี่ยวกับยาเสพติดที่หนักมาก ยังจำเป็นต้องเปลี่ยนมุมมอง เพื่อไม่ให้ตกขบวนรถไฟแห่งความเปลี่ยนแปลง


Written By
More from pp
สุดสัปดาห์ คนหล่อขอทำดี ปีที่ 16
สุดสัปดาห์ โดยอมรินทร์กรุ๊ป จัดงาน “สุดสัปดาห์ คนหล่อขอทำดี ปีที่ 16” โปรเจ็กต์เพื่อสังคมแห่งปี ที่รวมตัวรวมใจของนักแสดงและศิลปินชายแถวหน้าของวงการบันเทิงมาทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคมที่จัดมาอย่างต่อเนื่อง
Read More
0 replies on “มาเลเซีย มาแล้ว”