อย่ารังแก ‘ชัชชาติ’ – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ชักจะสงสาร “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ครับ!

เหมือนคนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ ๑ จู่ๆ ญาติโกโหติกาโผล่แสดงตัวเพียบ

อยากจะกอบโกยความสำเร็จของ “ชัชชาติ” ด้วย

ก็ไม่แปลกใจอะไรครับที่ “ทักษิณ” โผล่มาพูด เรื่องคนกรุงแลนด์สไลด์ให้ “ชัชชาติ”

หรือแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทย แถลงความสำเร็จของ “ชัชชาติ” ราวกับเป็นความสำเร็จของพรรค

ถ้ารัก “ชัชชาติ” จริง ควรปล่อยให้เจ้าตัวได้อิสรเสรีเหนืออื่นใด เหมือนที่ได้เดินหาเสียงมาตลอดปีสองปีว่า เป็นผู้สมัครอิสระ ไม่สังกัดพรรคการเมือง

เท่าที่พูดกันเรื่องที่มาของ คะแนนแลนด์สไลด์ คนที่พูดได้ไพเราะเสนาะหูสุด ณ ขณะนี้ คงจะเป็น “สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีต กกต.

ใช้เวลาดีดลูกคิดได้ตัวเลขออกมาแล้วไปโพสต์เอาไว้ในเฟซบุ๊กน่าสนใจทีเดียว

“…คะแนน ๑,๓๘๖,๒๑๕ คะแนนของชัชชาติมาจากไหน

ในเมื่อ คะแนน สก. เพื่อไทยทั้งหมดมีเพียง ๖๒๐,๐๐๙  คะแนน แปลว่า มีคะแนนไหลมาจากที่อื่นถึง ๗๖๖,๒๐๖  คะแนน

คำตอบคือ ได้จากคนที่เลือก สก.พรรคอื่น แต่มาเลือกผู้ว่า เป็นชัชชาติ

คะแนน สก. ก้าวไกล มี ๔๘๒,๘๓๒ คะแนน แต่คะแนนวิโรจน์มี ๒๕๓,๘๕๑ คะแนน แปลว่า มีคนรักก้าวไกล รักวิโรจน์ แต่ลงให้ชัชชาติ ๒๒๘,๙๘๑ คน

คะแนน สก. ปชป. มี ๓๔๘,๘๕๓ คะแนน แต่คะแนนสุชัชวีร์ มี ๒๕๔,๖๔๗ คะแนน แปลว่า FC ปชป. ยังไปเทใจให้ชัชชาติถึง ๙๔,๒๐๖ คะแนน

คะแนน สก. ไทยสร้างไทย มี ๒๔๑,๙๔๕ คะแนน แต่คะแนนศิธา มีแค่ ๗๓,๗๒๐ คะแนน แปลว่า รักสุดารัตน์ แต่ลงชัชชาติ ๑๖๘,๒๒๕ คะแนน

และสนุกสุด เมื่อเอาคะแนนของ พปชร.+กลุ่มรักษ์กรุงเทพ ซึ่งชูอัศวินทั้งสองกลุ่ม ได้คะแนน สก.รวมกัน  ๔๖๔,๔๕๐ คะแนน แต่คะแนนบิ๊กวิน มาแค่ ๒๑๔,๖๙๒  คะแนน เป็นพวกปันใจแอบไปให้ชัชชาติ ถึง ๒๔๙,๗๕๘  คะแนน

คะแนนปันใจเหล่านี้ รวมกันได้ ๗๔๑,๑๗๐ คะแนน  พร่องไปจากตัวเลขที่ว่าเป็นคะแนนไหลมาจากที่อื่นแค่  ๒๕,๐๓๖ คะแนน ซึ่งหากบวกคะแนนจากส่วนอื่นย่อยๆ ก็จะได้เป็นจำนวนใกล้เคียงคะแนน ๑.๓๘ ล้านที่ชัชชาติได้รับครับ…”

ก็หายคาใจกันนะครับ ญาติ “ชัชชาติ” เยอะไม่ได้มาจาก เพื่อไทยสายเดียว

ประชาธิปัตย์ ก้าวไกล พลังประชารัฐ ไทยสร้างไทย ช่วยกันลงแขก อุ้ม “ชัชชาติ” เป็นผู้ว่าฯ กทม.

เมื่อคนกรุงเสียงส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า “ชัชชาติ” คือตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะอยู่ตรงกลาง ที่สำคัญเป็น “ความหวัง” ที่จะพากรุงเทพมหานครไปพบกับสิ่งใหม่ๆ ก็ต้องลองของใหม่ที่ว่านี้ ๔ ปี

ทำดีก็ให้ต่ออีก ๔ ปี

ไม่ได้เรื่องก็จบแค่ ๔ ปีแรก

นี่คือกติกาง่ายๆ ของระบอบประชาธิปไตย

แต่ระหว่างนี้ การรังแก “ชัชชาติ” ด้วยการเอาเป็นพวก  อาจเป็นการฆ่า “ชัชชาติ” ทางอ้อม โดยเฉพาะ “ทักษิณ” กับพวก

อย่าพรากความเป็นกลางไปจาก “ชัชชาติ” เด็ดขาด

ครับ…การได้เห็นปรากฏการณ์ชัชชาติในวันนี้ อดนึกถึงการเลือกตั้ง ส.ส.ปี ๒๕๔๔ ไม่ได้

ครั้งนี้ “ชัชชาติ” ได้เป็นผู้ว่าฯ เพราะขายความหวัง

แต่ครั้งโน้น “ทักษิณ” ขายความเป็น “อัศวินคลื่นลูกที่สาม”

ความสำเร็จของนักธุรกิจหนุ่ม ผู้มั่งคั่งในทรัพย์สิน อาสากอบกู้ประเทศที่ล้มลุกคลุกคลานจากพิษวิกฤตต้มยำกุ้ง

ขณะที่ประชาชนเบื่อของเก่า

ผลการเลือกตั้ง ส.ส.ในกรุงเทพมหานคร วันที่ ๖  มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๔ พรรคไทยรักไทยชนะแบบแลนด์สไลด์

กวาด ส.ส.ไป ๒๙ ที่นั่ง

ได้คะแนนเสียงมากถึง ๑,๑๓๑,๕๑๐ คะแนน

คิดเป็น ๔๕.๖๔%

กลับกัน เจ้าของพื้นที่เดิมอย่างประชาธิปัตย์ ได้คะแนนโหวตรวมทั้ง กทม. ๗๑๘,๑๖๘ คะแนน หรือ ๒๘.๙๗% ก็ถือว่าไม่น้อย

แต่ได้ ส.ส.กลับมาเพียง ๘ ที่นั่ง จากเดิมที่มีอยู่ ๒๙ คน

วันนั้นคนไทยส่วนใหญ่เห็นตรงกัน อยากให้โอกาสคนใหม่ เข้ามาบริหารประเทศดูบ้าง เพราะคนเก่าสร้างปัญหาไว้เยอะ

แม้กระทั่งคนที่นิยมชมชอบในพรรคประชาธิปัตย์ ก็เปลี่ยนใจอยากลองของใหม่ หันไปเลือก “ทักษิณ” บริหารประเทศแทน

แต่ก็อาจหลงลืมไปว่า “ทักษิณ” ไม่ใช่ของใหม่

เคยเป็นคนคนหนึ่งที่นั่งในห้องประชุมคณะรัฐมนตรี ก่อนจะเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี

ในวันที่ประเทศไทยแทบจะไปต่อไม่ไหวต้องลดค่าเงินบาท โดยรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันหนักหน่วงจากพรรคการเมืองฝ่ายค้านในขณะนั้นว่า “ทักษิณ” ได้ประโยชน์

จาก “อัศวินคลื่นลูกที่สาม” เป็น “อัศวินควายดำ” สร้างตำนานผลประโยชน์ทับซ้อน ทุจริตเชิงนโยบาย

มาถึงวันนี้จากคนที่เคยเป็นความหวัง กลายเป็นนักโทษหนีคุกหนีคดี สร้างปรากฏการณ์โกงทั้งโคตรจนยากที่รัฐบาลไหนจะทาบสถิติได้

ที่สำคัญสร้างความขัดแย้งทางการเมืองต่อเนื่องยาวนานมาถึงปัจจุบัน

ยากที่จะจบ เพราะส่งลูกสาว มาสืบสานตำนานต่อ

วันนี้ “ชัชชาติ” มาพร้อมกับความคาดหวัง

แต่ “ชัชชาติ” อาจไม่เหมือนกับ “ทักษิณ” ก็ได้

ไม่ต้องหนีไปต่างแดนเพราะคอร์รัปชัน

นั่นก็ขึ้นกับ “ชัชชาติ” ว่าจะยืนหยัดความเป็นอิสระ ไม่ตกเป็นเบี้ยล่าง หรือการแทรกแซงจากพรรคเพื่อไทยได้นานแค่ไหน

ในวันที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมให้คนโกง วันนั้น “ชัชชาติ” ก็นั่งอยู่ในคณะรัฐมนตรี

แม้ร่างกฎหมายจะไม่ได้เสนอโดยคณะรัฐมนตรี แต่ผ่านมติของที่ประชุมพรรคเพื่อไทย และคณะรัฐมนตรีให้การสนับสนุนทั้งๆ ที่รู้ว่า เป็นการล้างความผิดให้ “ทักษิณ”

การเมืองที่มีอารยะไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบร่วมกันได้

วันนี้เมื่อ “ชัชชาติ” ยืนยันว่าพ้นชายคาเพื่อไทยแล้ว  และคนกรุงส่วนใหญ่ก็เชื่อตามนั้น เพื่อไทยก็ไม่ควรแสดงความเป็นเจ้าของอีก

ครับ…วานนี้ (๒๔ พฤษภาคม) เป็นวันเกิด “ชัชชาติ”

เจ้าตัวบอกว่า

“อยากเห็นคนกรุงเทพฯ ร่วมมือร่วมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และร่วมกันสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน ไม่สามารถทำคนเดียวได้ จึงอยากให้คนกรุงเทพฯ ส่งกำลังใจและร่วมมือกัน มีความเห็นแตกต่างกันได้ แต่อย่าทะเลาะกัน รักกันเข้าไว้”

คนทะเลาะกันมันต้องมีต้นเหตุ

“ชัชชาติ” รู้หรือเปล่าว่าคืออะไร และต้องแก้ปัญหาตรงไหน

ขออวยพร เอาตัวให้รอดจากการครอบงำของ “ทักษิณ”  ครับ



Written By
More from pp
วัยรุ่นยุคใหม่ มีรักปลอดภัย รู้ทันภัยแอลกอฮอล์
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ ภาคีเครือข่าย รณรงค์ “วัยรุ่นยุคใหม่ มีรักปลอดภัย รู้ทันภัยแอลกอฮอล์” ภายใต้แนวคิด “Stop Drinking Start...
Read More
0 replies on “อย่ารังแก ‘ชัชชาติ’ – ผักกาดหอม”

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
'); }); var ratingTotalIndicator = function() { var indicator = document.querySelectorAll('.rating-total-indicator'); if (typeof indicator === 'undefined' || indicator === null) { return; } for ( var i = 0, len = indicator.length; i < len; i++ ) { var circle = indicator[i].querySelector('.progress-ring__circle'); var radius = circle.r.baseVal.value; var circumference = radius * 2 * Math.PI; circle.style.strokeDasharray = `${circumference} ${circumference}`; circle.style.strokeDashoffset = `${circumference}`; function setProgress(percent) { const offset = circumference - percent / 100 * circumference; circle.style.strokeDashoffset = offset; } var dataCircle = indicator[i].getAttribute('data-circle'); setProgress(dataCircle); } }; ratingTotalIndicator(); var slideDock = function() { var slide_dock = document.querySelector('.slide-dock'); if (typeof slide_dock === 'undefined' || slide_dock === null) { return; } function isVisible (elem) { var { top, bottom } = elem.getBoundingClientRect(); var vHeight = (window.innerHeight || document.documentElement.clientHeight); return ( (top > 0 || bottom > 0) && top < vHeight ); } viewport = document.querySelector('#footer'); window.addEventListener('scroll', function() { if ( isVisible(viewport) ) { slide_dock.classList.add('slide-dock-on'); } else { slide_dock.classList.remove('slide-dock-on'); } }, false); var close = document.querySelector('.close-dock'); close.addEventListener('click', function(e) { e.preventDefault(); slide_dock.classList.add('slide-dock-off'); }); }; slideDock();