สันต์ สะตอแมน
แรกเห็นนึกว่าเป็น “สโมสรฟุตบอล”?
แต่เมื่อเป็น “พรรคการเมือง” ก็เห็นจะรอดตัวไป ไม่ต้องพลอยถูกนักโทษหนีคุก-คนแดนไกลกระแนะกระแหนเย้ยหยันหยาม..
“พวกพรรคเนี่ยชอบตั้งชื่อซ้ำกัน มีแต่คำว่า สร้าง สร้างนั่นสร้างนี่ ผมถามหน่อยเถอะ พวกคุณทำชาติพังแล้วใช่ไหมถึงต้องมาสร้างเนี่ย”
ครับ..ผมหมายถึง “พรรครวมไทยยูไนเต็ด” น่ะ และที่นำมาคุยวันนี้ด้วยได้อ่านข้อความ (บางตอน) ที่หัวหน้าพรรค นายวรนัยน์ วาณิชกะ โพสต์..
“ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด ขออนุญาตแชร์มุมมองและนโยบายของพรรค ซึ่งการเมือง “คนดี” ไม่มีจริง โลกนี้ไม่มีคนดีหรือคนเลว ชีวิตจริงไม่ใช่เทพนิยาย
ทุกคนมีทั้งความดีและความเลวในตน และยิ่งได้อำนาจมากขึ้นกิเลสยิ่งมีมากขึ้น เพราะโอกาสที่จะโกงมีมากขึ้น เพราะฉะนั้นผู้ที่มีโอกาสที่จะโกงมากที่สุด คือ ผู้ที่กุมอำนาจรัฐ”
อืออ..ก็เป็นมุมมอง จะเห็นด้วย-เห็นแย้งก็ว่ากันไป ส่วนผมไม่ขอโต้เถียง เพียงแต่จะถามนายวรนัยน์ว่า.. “อย่างป๋าเปรมคนดีไหม เป็นผู้กุมอำนาจรัฐที่โกงไหม”?
และที่นายวรนัยน์ว่า.. “วิธีต่อสู้ทุจริตคอร์รัปชันที่ดีที่สุด คือ การตรวจสอบ ผู้ตรวจสอบที่ดีที่สุดคือสื่อมวลชน” นั้น
เมื่อก่อน อาจจะใช่-จริง แต่ปัจจุบันนายวรนัยน์คงไม่รู้นะว่า..สื่อมีเจ้าของเป็น “เถ้าแก่” สื่ออยู่ในตลาดหลักทรัพย์ สื่ออยู่ในมือของนักการเมือง
ฉะนั้น ที่บอก “ผู้ตรวจสอบ (การทุจริต) ที่ดีที่สุดคือสื่อมวลชน ผมเห็นจะขอค้าน และคนระดับหัวหน้าพรรคการเมือง ก็ไม่น่าที่จะพูดจาแบบไร้เดียงสาเยี่ยงนี้
“สื่อไม่ใช่พีอาร์ สื่อไม่ใช่เมสเซนเจอร์ สื่อไม่ใช่ผู้น้อยที่ต้องก้มหัวให้กับผู้ใหญ่หรือนักการเมือง แต่สื่อต้องชน สื่อต้องล้วงลึก เพื่อเอาความจริงมาเปิดเผยให้ประชาชน”
นั่น..มันในตำราที่เขาสอนให้ท่อง มันเป็นโลกเทพนิยาย แต่โลกความจริง นายวรนัยน์ไปอยู่ไหนมา ไม่ประจักษ์เลยรึว่า..
สื่อเป็นทั้งพีอาร์ เมสเซนเจอร์ บางสำนักก็รับเป็น “โปรโมเตอร์” คอยจัดเวทีให้อีกฝ่ายด่าอีกฝ่าย รู้ไว้สิ!
“ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด นโยบายต่อสู้ทุจริตคอร์รัปชันของเราคือ สนับสนุนสื่อเสรี ตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส ไม่ใช้อำนาจรัฐคุกคาม”
ขอโทษเถอะครับ.. “สื่อเสรี” ที่นายวรนัยน์สนับสนุน หน้าตาเป็นอย่างไรรึ? และสื่อเสรีจะต้องตรวจสอบความโปร่งใส เฉพาะผู้กุมอำนาจรัฐเท่านั้นหรือ?
ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น ฝ่ายคิดล้มล้างชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่ต้องไปข้องแวะตรวจสอบรึไง?
นี่..ผมเข้าใจและเห็นใจในความใสซื่อบริสุทธิ์ของนายวรนัยน์ที่ได้มองสื่อด้วยสายตาเช่นนี้ และผมก็ไม่ได้จะมีปัญหาอะไร นึกขอบคุณเสียด้วยซ้ำที่คนระดับหัวหน้าพรรคการเมือง
สนับสนุน ให้เกียรติ หวังเป็นที่พึ่งตรวจสอบความโปร่งใสของผู้กุมอำนาจรัฐ เพียงแต่ที่พูดนี้ก็เพื่อไม่อยากให้นายวรนัยน์ต้องมาชอกช้ำใจ ผิดหวัง และจะได้เปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่
โดยเฉพาะการที่นายวรนัยน์ มองว่า.. “ถ้ารัฐบาลไหนใช้อำนาจกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น มาตรา 112 มาตรา 116 พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ แอนตี้เฟกนิวส์เซ็นเตอร์ หรืออะไรก็แล้วแต่
คุกคาม ข่มขู่ ปิดปาก เซนเซอร์ นั่นคือรัฐบาลที่พยายามปกปิดทุจริตของตน” .. ผมว่าสายตานายวรนัยน์ก็ไม่ต่างอะไรไปจากฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น หรือฝ่ายจ้องล้มเจ้าแต่อย่างใด
ยิ่งบอก.. “ทอดตาดูทั่วโลก ประเทศที่คอร์รัปชันน้อยสุด คือ ประเทศที่สื่อมีเสรีมากที่สุด” ด้วยแล้ว อยากถามหัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด..
ประเทศจีน..คอร์รัปชันน้อยลง เป็นเพราะสื่อมีเสรีมากที่สุดกระนั้นหรือ?
