ผักกาดหอม
อย่างกับหนังขายยา
“ทักษิณ” โผล่มานำเสนอลูกสาวตัวเอง เป็นนายกฯ อีกรอบ
ฟังดูเหมือนยังเขินๆ
แต่การพูดซ้ำๆ สนับสนุน “อุ๊งอิ๊ง” เป็นนายกฯ มันก็คือการประกาศจองเก้าอี้ไว้ให้ลูกสาว เพื่อไทยหน้าไหนใครจะค้านล่ะครับ
นี่คือวงจรการเมืองของตระกูลชินวัตร
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา “ทักษิณ” ไปพูดกับก๊วน CARE คิด เคลื่อน ไทย เรื่องลูกสาว
มีชาวบ้านถึงขนาดเอาพวงมาลัยดาวเรืองมาคล้องคออุ๊งอิ๊ง เขาเดินสำรวจลงพื้นที่กับผมตั้งแต่เด็ก เห็นผมอยู่กับชาวบ้าน เห็นผมมีความสุขกับชาวบ้าน
เขาเห็นและเรียนรู้มาตลอด ผมว่า ลูกไม้คงหล่นไม่ไกลต้นหรอก แต่ผมคงยังไม่ฝันไปไกลขนาดนั้น….”
ครับ…คำพูดทักษิณ จะแปลความเป็นอย่างอื่นได้ไง นอกจากบอกกับคนในพรรคเพื่อไทยว่า ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ต้องแย่งกัน มีไว้เพื่อ อุ๊งอิ๊ง เท่านั้น
มันก็ชัดเจนครับ เพื่อไทยเป็นของ “ทักษิณ” ฉะนั้น จะสั่ง จะจูงจมูกอย่างไรก็ได้
ในแง่พรรคการเมืองการคัดบุคคลขึ้นมาดำรงตำแหน่งสำคัญๆ อย่างน้อยๆ ต้องผ่านการพิจารณาของกรรมการบริหารพรรค
แต่ เพื่อไทย ไม่ต้อง
นายใหญ่สั่ง ต้องทำตาม
เมื่อออกตัวซะขนาดนี้ ใครจะเสนอชื่อแข่ง
หมอชลน่าน กล้าหรือ
ก็ไม่ต้องไปเดาอะไรกันอีก เลือกตั้งคราวหน้า แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยคือ แพทองธาร ชินวัตร แค่ชื่อเดียวเท่านั้น
แต่กว่าจะถึงเวลานั้นต้องหาวิธีเก็บ ไม่ให้ “อุ๊งอิ๊ง” ช้ำเกินไป
ฉะนั้น หากไม่มีอะไรผิดพลาด ก็มีความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีหญิง เป็นคนที่สอง ถัดจาก “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”
แถมนามสกุลเดียวกันเสียด้วย
และเป็นไปได้เช่นกัน นายกฯ จากตระกูลชินวัตร ต้องหนีคดีไปต่างประเทศ ตามสองคนที่หนีไปก่อนหน้านี้แล้ว
แต่ “อุ๊งอิ๊ง” มีเวลาเตรียมตัวนานกว่า “ยิ่งลักษณ์”
เพราะ “ยิ่งลักษณ์” สร้างปรากฏการณ์หาเสียง ๔๙ วัน ได้เป็นนายกฯ แต่ข้อเสียคือ หลังจากเป็นนายกฯ แล้ว “กลวง”
ถึงจะกลวง “ยิ่งลักษณ์” ยังเป็นนายกฯ ได้ถึง ๒ ปีกับอีก ๒๗๕ วัน
แน่นอนครับ “ทักษิณ” ถอดบทเรียนจาก “ยิ่งลักษณ์” เพื่อมาขับเคลื่อน “อุ๊งอิ๊ง”
การเปิดตัวลูกสาวเป็นระยะๆ คือการสร้างความมั่นใจว่า เที่ยวนี้น่าจะอยู่ยาวกว่าเก่า
แต่ก็มีคำถามคือ “ทักษิณ” มีแรงจูงใจอะไร ถึงยังบงการอยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทย ซึ่งเงื่อนไขต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
อยากกลับบ้านแบบเท่ๆ อย่างนั้นหรือ?
“ทักษิณ” ไม่มีทางกลับมาติดคุก เพราะไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องไปอยู่ในคุกแม้วินาทีเดียว และหากคิดว่าคุกเป็นทางรอดก็กลับมานานแล้ว
แต่ไม่ใช่!
วันนี้ “ทักษิณ” เริ่มเล่นไพ่หลายหน้ามากขึ้น
อีกประเด็นที่พูดใน ก๊วน CARE คิด เคลื่อน ไทย เป็นเรื่องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์
“…เศรษฐกิจล้มเหลว ประเทศล้มเหลว เทคโนโลยีมาแรง แต่ไม่มีอะไรเลย แล้วเด็กไม่รู้ ไม่เข้าใจ คิดว่าต้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
ซึ่งจริงๆ แล้วผมอยากแนะนำว่าปฏิรูประบอบประชาธิปไตยโดยการแก้รัฐธรรมนูญ ให้เป็นประชาธิปไตย
ยกตัวอย่างรัฐธรรมนูญ ๒๕๔๐ เป็นรัฐธรรมนูญที่ดีมาก ซึ่งผมไม่ได้ร่าง แต่ผมใช้ ผมรู้ว่ามันเป็นประโยชน์ ต่อบ้านเมือง ต่อการบริหารประเทศ จะได้รัฐบาลที่ดี
วันนี้เราได้รัฐบาลที่รูปแบบการมามันไม่ดี แล้วยังไม่เก่ง แล้วยังคอร์รัป ตามโลกไม่ทัน ไม่สนใจจะตามโลก ทำให้เด็กไม่มีอนาคต เด็กก็ไปโทษว่าเกี่ยวกับสถาบัน
ความจริงไม่เกี่ยว ไม่เกี่ยว เพราะผมอยู่ตั้งแต่เป็นนักธุรกิจ จนร่ำรวยมา เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ เป็นรองนายกฯ เป็นนายกฯ
ผมเป็นนายกฯ เมื่ออายุ ๕๑ เพราะฉะนั้นผมจะเห็นหมด และผ่านมาทุกอย่าง
ผมทำงาน ๖ ปี ใกล้เจ้านายที่สุด ผมถวายงานให้พระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน ตั้งแต่ผมยังเป็นนักธุรกิจ ฉะนั้นผมรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น
ฉะนั้นวันนี้อยากมีอนาคตที่ดี ต้องได้รัฐบาลที่มีความสามารถในการบริหาร และมีวิสัยทัศน์ มีผู้นำกล้าตัดสินใจ…”
คิดว่าไงครับ?
“ทักษิณ” วางหมากต่างจากก่อนส่ง “ยิ่งลักษณ์” เป็นนายกฯ อย่างสิ้นเชิง
การต่อสู้เพื่อกลับเข้าสู่อำนาจครั้งนั้น “ทักษิณ” ใช้มวลชนเสื้อแดงเป็นหัวหมู่ทะทวงฟัน เปิดปฏิบัติการเผาบ้านเผาเมือง
มีเรื่องจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงออกมาเป็นระยะ ทั้งจาก “ทักษิณ” เอง และมวลชนเสื้อแดง
แต่ครั้งนี้หลายเรื่อง “ทักษิณ” ไม่อาจแก้ไขอะไรได้
นั่นคือการคอร์รัปชันในช่วงที่ระบอบทักษิณครองอำนาจ
มีคนในเครือข่ายทักษิณติดคุก และหนีคดีจำนวนมาก
ที่เพิ่งจะเปลี่ยนสถานะเป็นนักโทษชายล่าสุดคือ “วัฒนา เมืองสุข” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยุครัฐบาลทักษิณ ศาลพิพากษาจำคุก ๙๙ ปี คดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร
บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุก ๔๗ ปี
ภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุก ๓๖ ปี
จากคดีทุจริตจำนำข้าวทั้งคู่
สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คุก ๒ ปี คดีคืนพาสปอร์ตให้ “ทักษิณ”
ยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คุก ๒ ปี คดีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่ธรณีสงฆ์
สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที คุก ๑ ปี คดีแก้สัญญาสัมปทานโทรคมนาคมเอื้อประโยชน์ ชินคอร์ป
ชูชีพ หาญสวัสดิ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
วิทยา เทียนทอง อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ
คุกคนละ ๖ ปี คดีทุจริตจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ของกระทรวงเกษตรฯ
วิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย และพวก คุก ๑๘ ปี คดีปล่อยกู้ให้บริษัทในเครือกฤษดามหานคร
วราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง คุก ๒ ปี คดีทุจริตหวยบนดิน ศาลรอลงอาญา
ประชา มาลีนนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คุก ๑๒ ปี คดีทุจริตจัดซื้อเรือ-รถดับเพลิง กรุงเทพมหานคร แต่หนีไปต่างประเทศ
เบญจา หลุยเจริญ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง คุก ๒ ปี คดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ช่วยเหลือคนในตระกูลชินวัตรเลี่ยงภาษี สมัยรับราชการกรมสรรพากร
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ “ทักษิณ” แก้ไม่ได้
และ “อุ๊งอิ๊ง” จะต้องถูกจับตามองว่า จะเปิดศักราชใหม่แห่งการคอร์รัปชันเพิ่มหรือไม่
ลูกไม้คงหล่นไม่ไกลต้น