ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีรถทัวร์นักท่องเที่ยวหมายเลขทะเบียน 30-3194 นครราชสีมา นำนักท่องเที่ยวจำนวน 47 คน จากจังหวัดบุรีรัมย์ไปทัศนศึกษาในพื้นที่จังหวัดเลย เกิดเสียหลักพลิกคว่ำข้างทางบริเวณถนนสายหนองหิน-ภูป่าเปาะ ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และผู้บาดเจ็บ 43 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2562 นั้น
เบื้องต้นได้สั่งการให้กลุ่มงานสื่อสารองค์กร สายกลยุทธ์องค์กร สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกับ สำนักงาน คปภ. ภาค 3 (ขอนแก่น) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดเลย ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจสอบการทำประกันภัยพร้อมเร่งอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัย ตลอดจนติดตามรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
รวมทั้งให้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
ทั้งนี้ ได้รับรายงานจาก สำนักงาน คปภ. จังหวัดเลย ว่า รถทัวร์นำเที่ยวหมายเลขทะเบียน 30-3194 นครราชสีมา ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 02077- 62301/กธ/9775936 เริ่มคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2562 สิ้นสุดการคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2563
โดยให้ความคุ้มครองผู้ประสบภัย กรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพอย่างถาวร จำนวน 300,000 บาทต่อหนึ่งคน กรณีความเสียหายต่อร่างกายหรืออนามัย จำนวน 80,000 บาทต่อหนึ่งคน กรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน จำนวน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน
นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่ามีการทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 3 ไว้กับ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 15935-62301/กธ/050304-30 เริ่มคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2562 สิ้นสุดการคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2563
โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (ความเสียหายต่อชีวิต ร่ายกาย หรืออนามัย เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตาม พ.ร.บ. จำนวน 300,000 บาทต่อคน รวมแล้วไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง) ความเสียหายต่อทรัพย์สิน จำนวน 600,000บาทต่อครั้ง
สำหรับความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย (ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร ผู้ขับขี่ 1 คน จำนวน 100,000 บาท ผู้โดยสาร 39 คน จำนวน 100,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาล คนๆละ 100,000 บาทต่อคน การประกันตัว ผู้ขับขี่ 1,000,000 บาทต่อครั้ง
สำหรับ การติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 4 ราย และผู้บาดเจ็บ 43 ราย นั้น ในเบื้องต้นได้รับการรายงานจาก บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย จะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 700,000 บาท
โดยเป็นค่าสินไหมทดแทนจาก (พ.ร.บ.) จำนวน 300,000 บาท ค่าสินไหมทดแทนจากประกันประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 3 จำนวน 300,000 บาท และค่าสินไหมทดแทนจากประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) ตามสัญญาแนบท้ายกรมธรรม์ จำนวน 100,000 บาท
ทั้งนี้ หากพบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย มีการทำประกันชีวิตหรือประกันภัยประเภทอื่นๆ เพิ่มเติมในภายหลังก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัยที่ทำไว้อีกด้วย
ในส่วนของผู้บาดเจ็บทั้ง 43 ราย ที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเลย โรงพยาบาลหนองหิน โรงพยาบาล ภูกระดึง และโรงพยาบาลวังสะพุง นั้น สำนักงาน คปภ. จังหวัดเลย ได้แจ้งสิทธิค่ารักษาพยาบาลของผู้ประสบภัยให้กับญาติของผู้บาดเจ็บและโรงพยาบาลได้รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะได้ติดตามให้มีการจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิดังกล่าวต่อไป
“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย และผู้บาดเจ็บ 43 ราย จากอุบัติเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชน ควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวังในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้
โดยเฉพาะเส้นทางการสัญจรที่ไม่คุ้นเคยควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้ รวมทั้งเตรียมสภาพร่างกายให้มีความพร้อมในระหว่างการใช้รถใช้ถนนและตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและประกันชีวิตอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัย จะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย