เส้นทางสุดท้าย “๑ หญิง ๒ ชาย”

ไม่เอานะ…ช่อ!

อยากชิงตำแหน่ง “เฟคนิวส์” ตัวแม่แห่งปีรึไง ถึงได้เที่ยวไปพูดพล่อยๆ ว่า
นายกฯคนต่อไป ที่เขาเตรียมไว้ คือ “บิ๊กแดง”

เป็นสาว-เป็นนาง ……
การทำตัวเป็นคนปากไม่มีหูรูดแบบนี้ มันจะไม่มีราคา รู้มั้ย?

และไอ้ลีลาที่แสดง แบบว่า……..
“พูดแล้วเหยียบไว้ตรงนี้นะ หมด’ลุงตู่” มีใครรออยู่รู้มั้ย “เขา” เตรียมใครไว้รู้มั้ย….

“บิ๊กแดง”…บิ๊กแดง นะจ๊ะ….ไม่ใช่พี่น้อง เสื้อแดง” นั่นน่ะ

เห่ย…เชยแหลก

ตลกยุค “ล้อต๊อก-ชูศรี” เขาเล่นกัน

ช่อเป็นคนรุ่นใหม่ “ยุคเหี้ยแลกลิ้น” ในสภา เอามุกนี้มาปั่นหัวชาวบ้าน นอกจากไม่ขำแล้ว
เผลอๆจะเจอ “หมายเรียก” ข้อหาเจตนาสร้างข่าวเท็จ มุ่งหวังทางลบต่อบ้านเมือง

แล้วจะมาร้อง “ช่อถูกทำอีกแล้ว” ไม่ได้เชียวนะ!

พูดถึงหมายเรียก กี่หมายแล้วล่ะ….

เห็นเจอทีไร เป็นต้องอ้างติดสมัยประชุม มาตรา ๑๒๕ “ระหว่างสมัยประชุม” ห้ามจับ ห้ามออกหมายเรียก ทุกทีไป

แต่กลับแต๊ดๆ ไปทั่วบ้าน-ทั่วเมือง
ไปปลุกระดมแก้รัฐธรรมนูญ เลิกระบบเกณฑ์ทหาร ที่งั้น ไม่พูดซักคำว่าอยู่ในสมัยประชุม

อย่างปล่อยข่าวบิ๊กแดงจะเป็นนายกฯคนต่อไป ก็ไปตั้งเวทีพูดที่อุตรดิตถ์

วานซืน ก็ไปปลุกระดมเรื่องเกณฑ์ทหารที่นครพนมอีก

เมื่อวาน (๒๓ ธค.) เห็นทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ออกหมายเรียกช่อกับใครอีกนะ

“หลานนายผดุง” ผู้ภักดีทักษิณ ใช่มั้ย?

ให้ไปให้ปากคำ กรณีเป็นสส.แต่ไปร่วมแฟลชม็อบกับธนาธรที่สกายวอล์ค ปทุมวัน เมื่อ ๒๔ ธค.นั่นน่ะ

ทางตำรวจส่งหนังสือขอตัวไปทางประธานรัฐสภา “นายชวน หลีกภัย” แล้ว วัน-สองวันก็คงรู้เรื่องหรอก

แต่ก็เข้าใจ ด้วยมาตรา ๑๒๕ คุ้มครอง ยังเชิดได้อยู่ ถ้าพรรคถูกยุบ หมดสภาพสส.วันไหนละก็

แม่คุณเอ้ย……..

แต่งหน้าค้างคืน เช้าก็เดินสายไปตามหมายเรียก “เรียงโรงพัก” เช้าจรดเย็นไปเลย!

แฟลชม็อบ เมื่อ ๑๔ ธันวา.น่าศึกษานะ
ศึกษาในด้านว่า “เพื่อนกิน เพื่อนกัน เพื่อนรู้ไม่ทัน เพื่อนกันเอาไปกิน”

นอกจากช่อกับหลานผดุงแล้ว ยังมีอีก ๒ คน ถูกหมายเรียกด้วย

คือธนาธร บิ๊กบอสอนาคตใหม่ กับนายไพรัฎฐโชติก์ จันทรขจร ผู้สมัคร สส.นครปฐมแทนเมีย แต่สอบตก นั่นแหละ

ทั้งสอง ไม่ได้เป็นสส.ก็คงต้องไปพบตำรวจ เพื่อรับทราบข้อหา ในความผิดตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.๒๕๕๘

-ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง

-ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ

-ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะฯ

-ร่วมกันโฆษณา โดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”

ก็จิ๊บจ๊อย ไม่หนักหนาอะไร ……..

แค่ปรับ แค่ดีดไข่ เทียบกับผลที่ได้จากจัดแฟลชม็อบ คุ้มเกินคุ้ม!

นายไพรัฎฐโชติก์ จันทรขจร ที่เห็นยืนประกบพระเอกธนาธรกลางวงม็อบและถูกหมายเรียกด้วยผู้นี้

เกียรติประวัติกว้างๆ เขาเป็นนักเรียน แต่ตามพี่ชาย นักศึกษา ยุค ๖ ตุลา.เข้าป่า กลุ่มเดียวกับพวกอยู่พรรคเพื่อไทยนี่แหละ

เขามีธุรกิจรักษาความปลอดภัย อย่างตอนชุมนุมเผาบ้าน-เผาเมือง บรรดาแกนๆ ก็พึ่งบริการคุ้มกันของเขา

และที่แฟลชม็อบ ก็เขานี่แหละ ผู้คุ้มกันแข็งแกร่งที่สุดในปฐพีให้กับธนาธร
ขออนุญาตไม่เขียนชื่อบ่อยนะครับ บอกตรงๆ เขียนยากเหลือเกิน

แรกๆ เห็นนามสกุล “จันทรขจร” ก็สงสัย เพราะผมคุ้นกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งนามสกุล “จันทรขจร” สมัยเป็นเด็กฝึกข่าวโรงพัก

อยากรู้ว่าเกี่ยวดองกันอย่างใด ก็ไปค้นๆ ดู

ก็ อ้อ..ใช่แล้ว

นายไพรัฎฐโชติก์ เป็นลูกชาย “พล.ต.ท.จำรัส จันทรขจร” รองผบชน.ประมาณปี ๒๕๑๘-๑๙

แต่ราวๆ ปี ๒๕๐๘-๐๙ พล.ต.ท.จำรัส ดำรงยศ พ.ต.อ.เป็นผู้กำกับนครบาล ๑

คุมโรงพักเขตเหนือ กองกำกับอยู่บนชั้น ๒ ของโรงพักพญาไท

ผมฝึกข่าวอยู่หนังสือพิมพ์ประชาธิปไตย ของพระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล โรงพิมพ์อยู่แม้นศรี ตรงข้ามโรงเลี้ยงเด็ก

ผมมีหน้าที่ตระเวณข่าวเขตเหนือ เช้าๆ ต้องแวะโรงพักพญาไท ขึ้นไปห้องพ.ต.อ.จำรัส

ไหว้…แล้วเอาหนังสือพิมพ์ให้ท่าน ๑ เล่ม ทุกวัน เมียงๆ ไปทางสิบเวร แอบๆดูรายงานประจำวัน ที่ส่งมาจากโรงพักต่างๆ ว่า วันนี้มีข่าวอะไรบ้าง

หลายปี จนท่านเมตตา อย่างปีใหม่ เจอหน้า นึกว่าจะเอาบุหรี่ซาเล็มเก่าๆให้ซักซอง แต่ท่านกลับบอกให้ผมพนมมือ

แล้วท่านก็ให้ศีล-ให้พรผม มีท่านเดียวเท่านั้น ที่ให้พรปีใหม่ จนจำติดใจมาถึงทุกวันนี้

ท่านเป็น “มือสอบสวน” อันดับ ๑ ของวงการตำรวจยุคนั้น ถึงขั้นพล.ต.อ.ประเสริฐ รุจริวงศ์ อ.ตร.ออกปากชม

ท่านสุภาพ เรียบร้อย พูดน้อยคำมาก ไปไหนจะต้องถือสมุดจดบันทึกติดมือเสมอ

อย่างคดีฆ่าเบอริแกน บก.หนังสือพิมพ์บางกอกเวิลด์ ทิ้งศพคารถในซอยลือชา ตรงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นข่าวใหญ่มากยุคนั้น

พ.ต.อ.จำรัสนี่แหละ และร.ต.อ.ธนู หอมหวล สวส.โรงพักพญาไท คุมการสืบสวน-สอบสวน จนทราบว่า เบอริแกนพาหนุ่มมารักร่วมเพศในรถ เสร็จแล้วถูกฆ่า!

อืมมม..ยุคนั้น ในรถ
แต่ยุคนี้ อร้าอร่าม งามสภา!

ก็ไม่มีอะไร เพียงเห็นนามสกุล “จันทรขจร” ก็ทำให้นึกย้อนอดีต และอดแปลกใจไม่ได้

กับบทบาทลูกเทียบกับพ่อที่ผมเคยเห็น-เคยรู้จักเมื่อ ๓๐-๔๐ ปีที่แล้ว!?

ก็ย้อนเข้าเรื่อง “เพื่อนกิน-เพื่อนกัน”
จะเห็นว่า หลังธนาธรถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพสส. คนที่หัวร้อนมากที่สุดและออกมาสาดวาทะใส่ศาล รวมถึงการลงถนน
คือ ปิยบุตรสุดหล่อ!

ครั้นถึง ๑๔ ธค.ที่ธนาธรระดมพลแฟลชม็อบ

ช่อก็มา หลานผดุงก็มา ไพรัฎฐโชติก์ก็มา หลายสส.อนาคตใหม่ก็มา
และปิยบุตรก็มา!

คนอื่นมาแบบ “รองเท้าผ้าใบกับใจถึงๆ” ตามสโลแกนทนายนกเขา

แต่ปิยบุตรมาแบบ รศ.ดร.ปิยบุตร ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายรัฐธรรมนูญ และผู้รู้สารพัดกฎหมาย ระดับปรมาจารย์นิติราษฏร์ ผู้เคยสอนคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์

มาเพียงประสงค์ให้เป็นหนึ่งในร้อย-ในพันของผู้อยู่ในเหตุการณ์แฟลชม็อบของธนาธร

แต่ไม่ประสงค์เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อการแฟลตม็อบกับธนาธร!

ดังนั้น……….
ในหมายเรียกตำรวจขณะนี้ มีธนาธร มีไพรัฎฐโชติก์ มีพรรณิการ์ มีหลานผดุง “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”

ไม่มี “ปิยบุตร” สุดแสนฉลาด!

อย่างนี้แหละ ถึงจะเรียก “ความรู้ท่วมหัว เอาตัวรอด” และ “รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอด เป็นยอดดี”

ธนาธรนั้น ผมไม่ห่วง

ในความที่เขาเป็นนักธุรกิจ ลงทุนระดับพันล้าน-หมื่นล้านหลายประเทศ ทั้งในสหรัฐ ยุโรป เอเชีย จะเลือกอยู่ประเทศไหน สบายมาก!

ปิยบุตร ผมก็ไม่ห่วง
มีเมียเป็นชาวฝรั่งเศส ตามไปอยู่กับเมียก็สบายมาก!

ห่วงแต่ช่อนี่แหละ………
สมมุติพรรคถูกยุบ ตัวเองเป็นกก.บห.ต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และมีอีกหลายคดีทางอาญา

ถ้าเขาไปที่ชอบๆ กันหมด เหลือแต่ช่อ ซึ่งตัวเปล่าเล่าเปลือยคนเดียว
จะทำยังไง?

บอกตรงๆ เสียดาย ร้อยปีจะมีหญิงเก่งอย่างนี้ซักคน!

Written By
More from plew
คำพิพากษาแห่งศตวรรษ – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน ช่วงนี้ ทั้งกฎหมายและกฎกรรมกำลังทำหน้าที่เข้ม มีคดีหนึ่ง ที่ “ศาลอาญากรุงเทพใต้” “น.ส.ฐิตินาถ ณ พัทลุง” หรือ “ครูอ้อย”...
Read More
One reply on “เส้นทางสุดท้าย “๑ หญิง ๒ ชาย””

Comments are closed.