4 เมษายน 2565-น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาท้วงติงผู้มีอำนาจไม่ควรเปิดโอกาสให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ “อุ๊งอิ๊ง” ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยทำงานการเมืองว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ควรเบี่ยงเบนประเด็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมที่มีต่อการเข้ามาทำงานการเมืองของน.ส.แพทองธาร โดยโยนบาปให้กับผู้มีอำนาจทางการเมือง ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วย ทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าหมายถึงผู้มีอำนาจในรัฐบาล เป็นความพยายามที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มหรือปั่นราคาให้กับหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เพราะไม่มีใครไปปิดกั้นโอกาสของน.ส.แพทองธาร หรือขัดขวางใดๆ น.ส.แพทองธารยังเดินสายไปทำกิจกรรมทางการเมืองปกติ เพราะทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการอาสามาทำงานการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยเท่าเทียมกันหมด
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า เช่นเดียวกันกับสิทธิเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ของบุคคลต่างๆในสังคม ซึ่งหากวิญญูชนสามารถแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้แล้ว การสนับสนุนบุคคลในครอบครัวที่มีประวัติการทุจริตคอร์รัปชันโกงชาติบ้านเมืองแล้วหลบหนีไปใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในต่างแดน มีบ้านหลายหลัง และมีเครื่องบินส่วนตัว อย่างที่นายทักษิณ ชินวัตร ได้กล่าวออกมาเองในการเสวนานั้นให้มีเสรีภาพต่างหาก ที่ผิดปกติ เพราะการเป็นทายาททางการเมืองไม่ใช่เรื่องแปลกใดๆ นักการเมืองที่มีคุณภาพหลายคนในปัจจุบันก็มาจากตระกูลการเมือง แต่ที่แปลกก็คือ บางตระกูลเมื่อเข้ามาสู่อำนาจก็มีประวัติทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้นรุ่นต่อรุ่นจากรุ่นพ่อมาถึงรุ่นอา สังคมมีสิทธิที่จะตั้งคำถาม ตั้งข้อสงสัย วิพากษ์วิจารณ์และไม่ไว้วางใจว่าจะเกิดซ้ำรอยอีกหรือไม่ในรุ่นนี้
“ฉะนั้นเมื่อคิดย้อนกลับไป คนที่ปิดโอกาสน.ส.แพทองธารในวันนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน ถ้าจะกล่าวโทษใคร พรรคเพื่อไทยก็ควรโทษนาย ทักษิณเอง ที่เป็นผู้ต้องหาคดีทุจริตคอร์รัปชันหลายคดี และยังไม่ยอมทำให้กรณีโกงข้อสอบในยุคของตนเองนั้นเกิดความกระจ่างและโปร่งใส เป็นอดีตที่ลบไม่ได้ ยิ่งในยุคดิจิทัลผู้คนสามารถเสิร์ชหาข้อมูลได้เอง กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกไว้ให้ตระหนัก แบบนี้เข้าตำรารำไม่ดีโทษปี่โทษกลองและพ่อแม่รังแกฉันใช่หรือไม่ถามใจพรรคเพื่อไทยดู”น.ส.ทิพานัน กล่าว