4 มีนาคม 2565 – เวลา 13.30 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ นำ นายอนิรุทธ์ สุภวัตรจริยากุล และนางรัชนี สุภวัตรจริยากุล บิดาและมารดาของ แพทย์หญิงวราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเรื่องแนวทางการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจากกรณีการเสียชีวิตของหมอกระต่าย
ซึ่งทำให้สังคมเกิดการตื่นตัวในการเรียกร้องสิทธิ์ความปลอดภัยในการข้ามทางม้าลายขึ้นทั่วประเทศ
โดยมี นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเข้าร่วมหารือด้วย
ภายหลังการเข้าพบ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรีแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของหมอกระต่าย ถือว่าเป็นการสูญเสียบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของคนไทยเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะความรู้สึกของคนเป็นพ่อแม่ และเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ก้าวผ่านจุดที่ยากลำบากมาได้ จึงขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอย่างเต็มที่ให้เกิดความเป็นธรรม
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำอย่าให้การเสียชีวิตของหมอกระต่ายสูญเปล่าให้ยกเรื่องราวของหมอกระต่ายเป็นคติสอนใจ ร่วมรณรงค์สร้างจิตสำนึกการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับใครอีก ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันหามาตรการสร้างความปลอดภัย ปรับปรุงเครื่องหมายจราจร สัญลักษณ์ต่าง ๆโดยเฉพาะทางม้าลายต้องทำให้เห็นชัดเจน มีไฟจราจรคอยให้สัญญาณคนข้ามถนน และร่วมกันวางแผนกระตุ้นให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเกิดความรับผิดชอบ เข้มงวดวินัยการใช้รถใช้ถนน
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ดำเนินการติดกล้องรถยนต์ใหม่ทุกคัน เพื่อคอยบันทึกเหตุการณ์ และใช้เป็นหลักฐานหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสผู้กระทำความผิดกฎหมายจราจร โดยให้พิจารณาจัดสรรเงินรางวัลตอบแทน ให้สังคมเป็นเกราะป้องกันสร้างสังคมที่มีความรับผิดชอบ สร้างความปลอดภัยบนถนนมากยิ่งขึ้น
นายธนกร กล่าวด้วยว่า ในส่วนของข้อเสนอ ขอให้รัฐบาลพิจารณาให้วันที่ 21 มกราคมของทุกปีเป็น “วันถนนปลอดภัยแห่งชาติ” นั้น นายกรัฐมนตรีรับข้อเสนอดังกล่าว มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณาให้ครอบคลุมประเด็นความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง เสนอให้รัฐบาลพิจารณาอย่างเหมาะสมต่อไป