“กรุงเทพเมืองฟ้าอมร”-เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

การ “พาดหัวข่าว” นี่
“พลาด” นิดเดียว
ทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่, ทำเรื่องไม่เป็นเรื่องให้เป็นเรื่องได้ ชนิด “เปลี่ยนโลก” ถึงขั้นนั้น
อย่างอังคารที่ ๑๕ กพ.๖๕ ครม.มีมติ ปรับปรุงแก้ไขการกำหนดชื่อประเทศ ดินแดน เขตการปกครอง และเมืองหลวง
เช่น “กรุงเทพมหานคร” ……….
จาก Krung Thep Maha Nakhon ; Bangkok
เป็น Krung Thep Maha Nakhon (Bangkok)
ตามที่ “สำนักงานราชบัณฑิตยสภา” ปรับปรุง

เท่านั้นแหละ สื่อหลายสำนักพาดหัวโครม……

“ราชบัณฑิตยสภา ประกาศเปลี่ยนชื่อเมืองหลวง Bangkok เป็น Krung Thep Maha Nakhon” บ้าง
“มติครม.ประกาศชื่อ กทม.เป็น Krung Thep Maha Nakhon (Bangkok) ตามราชบัณฑิต” บ้าง

เป็นใคร ใครก็ต้องด่า ครม….
“ว่างมากรึไง เรื่องฉลาดๆ ที่ควรทำไม่มีแล้วรึไง ถึงได้ขยันทำแต่เรื่องโง่ๆ แบบนี้”!

แต่ถ้า “ฉุกคิด” ซักนิด อ่านเนื้อข่าวซักหน่อย แทนที่จะด่าครม.ต้องกลับไปด่าสื่อด้วยซ้ำว่า
“สื่อพาดหัวมักง่ายแบบนี้ จะพากันไปตายทั้งหมด”!

ความจริง ไม่มีการ “เปลี่ยนชื่อ” เมืองหลวงแต่อย่างใด เป็นแค่ “คณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมชื่อภูมิศาสตร์สากล “สำนักงานราชบัณฑิตยสภา”

ปรับปรุงการเขียนชื่อประเทศ, ดินแดน, เขตการปกครอง และเมืองหลวง ให้สอดคล้อง “สภาพการณ์ปัจจุบัน” และครม. อนุมัติตามนั้น เท่านั้น

“กรุงเทพฯ” ก็ยังคงกรุงเทพฯ “บางกอก” ก็ยังคงบางกอกเหมือนเดิม
ไม่มีการเปลี่ยนชื่อ ชนิดต้องเรียกเป็นอื่น ต้องแก้เอกสารทั้งราษฏร์-ทั้งหลวง แต่อย่างใด

ก็ดูนะ ชื่อ “ทางการ” ที่ใช้และรับรู้ในโลกสากลอยู่เดิม
“กรุงเทพมหานคร”……
“Krung Thep Maha Nakhon; Bangkok“

“ราชบัณฑิตยสภา” ปรับปรุงใหม่ เป็น
“กรุงเทพมหานคร”……
Krung Thep Maha Nakhon (Bangkok)

ก็เหมือนเดิม แค่เปลี่ยนเครื่องหมายจากอัฒภาค (;) นำหน้า ;Bangkok เป็น (Bangkok) ในเครื่องหมายวงเล็บเท่านั้น

ถ้าจะถามว่า……..
“แค่นี้ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา ต้องทำให้ยุ่งยากไปทำไม? แค่เปลี่ยน ; เป็น (…)

ตรงนี้ไม่ทราบ แต่ในความเห็นผม เล็กๆ น้อยๆ นี่แหละแต่มันลึกซึ้งทางเทคนิกและกฎหมาย ด้านการกำหนดชื่อประเทศ, ดินแดน, เขตการปกครอง และเมืองหลวง

ยามอยู่ปกติ มองไม่เห็นความจำเป็น แต่อนาคต เราจะรู้หรือ ว่าเหตุการณ์ในอดีต ที่ชาติตะวันตกล่าอาณานิคม จะไม่เกิดขึ้นอีก?

ที่เราเสียดินแดนไปมากมาย ไม่เพราะแค่ “เส้นดินสอ” ที่ฝรั่งเศสมันลากเอาตามใจชอบดอกหรือ?

ฉะนั้น ราชบัณฑิตฯ ปรับปรุงครั้งนี้ ใช่ว่า “ไม่มีอะไรจะทำ” หากแต่ด้วยวิสัยทัศน์และบทเรียนเก่าๆ ทำให้ท่านต้องคิดรอบ-มองไกล
อย่าคิดแค่ ; และ (…) ไร้สาระ

ขึ้น “ศาลโลก” หลักฐานประจักษ์เขาไม่สน ก็เห็นอยู่มิใช่หรือ เขาสนแต่ “เส้นดินสอประจักษ์”
เราเสียดินแดนให้ตะวันตก ๑๔ ครั้ง แล้วจะรอให้เกิดครั้งที่ ๑๕ ก่อนค่อย “รู้งี้…” อย่างนั้นหรือ?

ที่ปรับปรุงชื่อนี้ ใช่ว่าราชบัณทิตฯ คิดเอง-ทำเอง
ในภาวะ “โลกหมุนกลับ” ด้วยแผ่นดินอุดมสมบูรณ์ของไทย ที่ทั่วโลกมองเห็น มีแต่คนไทยเท่านั้นที่มองไม่เห็น ก็อย่าคิดว่าการล่าดินแดนจะไม่เกิดขึ้นอีก

หากแต่มันต้องมีสัญญานบ่งบอกควรระวัง หลายฝ่ายจึงร่วมคิด-ร่วมกลั่นกรอง หาทางอุดร่องช่องโหว่ทุกด้านแต่เนิ่นๆ

อ่านแถลงการณ์ “สำนักงานราชบัณฑิตยสภา” หลังถูกวิจารณ์แหลกดูก็พอจะเห็น

“สำนักงานราชบัณฑิตยสภา
“กรุงเทพ​มหานคร” ใช้ได้ทั้ง Krung Thep​ Maha​ Nakhon​ และ​ Bangkok

สำนักงานราชบัณฑิตยสภา โดยคณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมชื่อภูมิศาสตร์สากล
ได้ปรับปรุงแก้ไขการกำหนดชื่อประเทศ ดินแดน เขตการปกครอง และเมืองหลวง ให้ถูกต้องและชัดเจน

โดยมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาวิชาจากกระทรวงการต่างประเทศร่วมพิจารณาด้วย
เพื่อให้ส่วนราชการ นำการกำหนดชื่อประเทศ ดินแดน เขตการปกครองและเมืองหลวงดังกล่าว ไปใช้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน

ทั้งนี้ หลังจากคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดชื่อประเทศ ดินแดน เขตการปกครอง และเมืองหลวง แล้ว

จะอยู่ในขั้นตอน ของ…….
“คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติ” ที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
ประกอบกับข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนดำเนินการต่อไป

เห็นมั้ย…..
เขาเน้นใช้เป็น “มาตรฐาน” ในส่วนราชการ เพื่อให้สอดคล้องสภาพการณ์ปัจจุบัน

ส่วนที่ไม่เป็น “ทางราชการ” จะใช้ Bangkok หรือ BKK หรือเอาเต็มยศ Krung Thep​ Maha​ Nakhon​ ซึ่งเป็นสากลอยู่แต่เดิมแล้ว ก็ตามสบาย

ทั้งโลกรู้อยู่แล้ว Krung Thep​…Bangkok…Thailand ครือกัน!

อย่างอังกฤษ สหรัฐ ออสเตรเลีย ใช้ UK ใช้ USA ใช้ Aussie ก็รู้ ด้วยเข้าใจกันทั้งโลก
ในความ well known แม้กระทั่งกับไทย เรียกชื่อเล่น ชื่อย่อ เพื่อสะดวกสื่อสารทั่วไป ก็ใช้ได้และเข้าใจกันทั้งโลก

อย่าทำตัวเป็น “รู้มาก ยากนาน, รู้น้อย พลอยรำคาญ” กันไปทุกเรื่องนักเลย!

กรุงเทพ: Krung Thep บางกอก: Bangkok เป็นที่รู้จักในความเป็น “เมืองหลวงราชอาณาจักรไทย” เป็นสากลโลกแต่บุราณกาล

ขี้เกียจค้น แค่จิ้มถามอาจารย์กู ในวิกิพีเดีย ก็บอกไว้หมดแล้ว ว่า

“บางกอก” นี่ ฝรั่งเป็นคนเรียกตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นแค่หมู่บ้านเล็กๆ อยู่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา คงเพราะแถบนั้นมีต้นมะกอก

หรือเรียกตามชื่อ “วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร”
ซึ่งขณะนั้นชื่อ “วัดบางมะกอก” โดดเด่นอยู่ปากแม่น้ำ

เมื่อ “สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก” ขึ้นเสวยราชย์ ทรงพระนาม “พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช” ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์จักรี

ทรงย้ายจาก “กรุงธนบุรี” ข้ามมาสร้างพระบรมมหาราชวัง “เมืองหลวงใหม่” ฝั่งตรงข้าม ตั้งชื่อว่า “กรุงรัตนโกสินทร์อินท์อโยธยา” ถึงปัจจุบันวันนี้ ๒๔๐ ปีพอดี

“พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว” รัชกาลที่ ๓ ทรงแก้เป็น “กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินท์ มหินทอยุธยา”

ต่อมา “พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” รัชกาลที่ ๔ ทรงเปลี่ยนคำ “บวร” เป็น “อมร” เปลี่ยนคำ “มหินทอยุธยา” สนธิศัพท์เป็น “มหินทรายุธยา”

และทรงเติมสร้อยนามต่อ…..
เปลี่ยนการสะกดคำ “สินท์” เป็น “สินทร์” เป็นที่มาของ “ชื่อเต็ม” ของกรุงรัตนโกสินทร์ กินเนสส์บุ๊ก บันทึกไว้ว่า “เป็นเมืองที่มีชื่อยาวที่สุดในโลก”

“กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์”

ชื่อเต็ม “กรุงเทพมหานคร” ถอดเป็นอักษรโรมัน คือ “Krungthepmahanakhon Amonrattanakosin Mahintharayutthaya Mahadilokphop Noppharatratchathaniburirom Udomratchaniwetmahasathan Amonphimanawatansathit Sakkathattiyawitsanukamprasit”

“กรุงเทพมหานคร” มาเรียกตอนรวมจังหวัดธนบุรีเข้ากับจังหวัดพระนคร เป็น “กรุงเทพมหานคร” เรียกย่อว่า กรุงเทพฯและ กทม.เมื่อปี ๒๕๑๕ สมัยจอมพลถนอม กิตติขจร นี่เอง

สรุป……
ชื่อ “กรุงเทพมหานคร” กับชื่อ “บางกอก” ใช้แทนกันได้เป็นที่รู้จัก-เข้าใจ บันทึกอยู่ใน “ทำเนียบโลก” นานนมกาเล

“ต่างชาติไม่งง”

มีแต่คนไทยด้วยกันนี่แหละ

“ง้ง…งง”!?



Written By
More from plew
นอกชาติ “เปิดหน้า” ล่มชาติ
ก่อนคุยอะไรกันวันนี้ ขอประกาศนาม………. “นายศักดา วิเชียรศิลป์” อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่าเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมชาติ สมเป็น “ข้าราชการของแผ่นดิน” ปฏิบัติหน้าที่มุ่งประโยชน์ชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง ด้วยสัตย์ซื่อและสุจริต
Read More
0 replies on ““กรุงเทพเมืองฟ้าอมร”-เปลว สีเงิน”