“เกษตรกรทุกคนเล็งเห็นถึงความเดือดร้อนด้านค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน จึงจับมือกันลดราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มอยู่ในระดับต่ำกว่า 100 บาทต่อกิโลกรัม ปัจจุบันราคาเฉลี่ยลงมาอยู่ที่ 94-97 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้ราคาหมูขายปลีกหน้าเขียงปรับตัวลงมาในระดับที่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาดที่แท้จริง ที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อหาเนื้อหมูมาบริโภคได้อย่างทั่วถึง เป็นการกระตุ้นการบริโภคเนื้อสุกร และประคับประคองทุกคนให้ก้าวผ่านปัญหาต่างๆไปด้วยกัน สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการช่วยเหลือประชาชนลดภาระค่าใช้จ่าย” นายสุนทราภรณ์ กล่าว
นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ กล่าวอีกว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงต่างร่วมกันรักษาระดับราคาหมูหน้าฟาร์มและมีมติร่วมกันในการปรับลดราคามาอย่างต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าต้นทุนการเลี้ยงสุกรในไตรมาสที่ 1/2565 จะปรับขึ้นมาสูงถึง 94.69 บาทต่อกิโลกรัม จากการที่เกษตรกรต้องยกระดับเพิ่มระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) และต้องลงทุนกับสารเสริมต้านไวรัสเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันแก่ตัวสุกร ถึงแม้ระดับราคาจำหน่ายจะต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยงแล้วก็ตาม แต่เกษตรกรก็ยินดีที่จะร่วมฝ่าวิกฤติต่างๆไปกับประชาชน