นายพชร ธรรมมล หรือ “ฟลุ๊ค เดอะสตาร์” สมาชิก พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าผลการเลือกตั้งซ่อมกรุงเทพมหานครเขต 9 จตุจักร-หลักสี่ ที่นายสุรชาติ เทียนทอง จากพรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งแบบขาดลอยด้วยคะแนนแบบไม่เป็นทางการ 29,416 คะแนนในขณะที่พรรคพลังประชารัฐเจ้าของพื้นที่เดิมได้เพียง 7,906 คะแนนเท่านั้น ซึ่งเป็นการพ่ายแพ้แบบหมดฟอร์ม นอกจากจะแปลว่าคน กทม. และคนไทยส่วนใหญ่จะเบื่อหน่ายพลเอกประยุทธ์ อย่างสุดขีดแล้ว คนไทยส่วนใหญ่ คงอยากให้คนมีความรู้ความสามารถอย่าง “พี่โทนี่” กลับมาช่วยคิด ช่วยทำ ช่วยดูแล การบริหารประเทศไทยที่กำลังย่ำแย่โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ
เหมือนที่โพลสำรวจบอกว่าคนส่วนใหญ่อยากให้พี่โทนี่ กลับมาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย เพราะหากให้คนขาดความรู้ความสามารถและไม่รู้เรื่องแบบพลเอกประยุทธ์ บริหารต่อไป เศรษฐกิจไทยได้แต่รอวันเจ๊งและพังแน่ ซึ่งตอนนี้เศรษฐกิจไทยก็พังมากอยู่แล้วและยังไม่มีวี่แววจะฟื้นเลย คนลำบากกันมาก และประชาชนเบื่อหน่ายความด้อยประสิทธิภาพของพลเอกประยุทธ์ แล้ว
ทั้งนี้ ความไม่มั่นคงของฝั่งรัฐบาลน่าจะมีปัญหาอย่างมาก ดังจะเห็นได้จาก ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ออกมาโพสต์หลังทราบผลการเลือกตั้งแบบไม่เป็นทางการว่า “ผมดีใจมากครับที่เห็นพี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงเลือกตั้ง นี่คือ “ประชาธิปไตย” ครับ the enemy of my enemy is my friend หรือแปลว่า “ศัตรูของศัตรูผมคือเพื่อนผม”
ซึ่งน่าจะแปลได้อีกว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ น่าจะนับถอยหลังได้แล้ว ซึ่งเชื่อได้ว่าผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะเป็นรูปแบบของการเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตที่พรรคเพื่อไทยจะมีโอกาสชนะแบบแลนสไลด์ได้สูง ถ้าหากประชาขนให้ความเชื่อถือพรรคเพื่อไทย เหมือนการเลือกตั้งซ่อมในกรุงเทพมหานครเขต 9 นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ที่พรรคเพื่อไทยน่าจะมีความพร้อมในเรื่องนี้มากกว่าพรรคอื่นทั้งหมด
การพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อมที่กรุงเทพมหานครเขต 9 ครั้งนี้เป็นการพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อมครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนไม่เอาพลเอกประยุทธ์แล้ว ซึ่งพลเอกประยุทธ์ น่าจะรู้ตัวได้แล้วว่าคนส่วนใหญ่ไม่เอาแล้ว โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อย่างคนรุ่นผมไม่มีใครชอบพลเอกประยุทธ์ เลยไม่ใช่เพราะอายุมากแต่เพราะไม่มีผลงานแถมยังพาประเทศถอยหลัง
ในขณะเดียวกัน คนรุ่นผมกลับชอบคนที่อายุมากกว่าพลเอกประยุทธ์ แต่เก่งกว่าพลเอกประยุทธ์ อย่างพี่โทนี่ ที่มีผลงานในอดีตที่จับต้องได้อย่างชัดเจน แถมยังมีความรอบรู้ที่แชร์ให้กับคนรุ่นใหม่ได้รับชมและรับฟังในคลับเฮ้าส์อยู่เป็นประจำทุกอังคารเว้นอังคาร ดังนั้นจึงไม่ได้อยู่ที่อายุแต่อยู่ที่ความสามารถ โดยเฉพาะความสามารถในการตามโลกทันมากกว่า
ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่พลเอกประยุทธ์ ควรจะต้องยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ได้แล้ว และควรเตรียมพร้อมกลับบ้านไปได้แล้ว และน่าจะต้องเริ่มหาบ้านใหม่ได้แล้ว เพราะบ้านที่อยู่ในปัจจุบันเป็นบ้านหลวงซึ่งคงไม่สามารถจะอยู่ได้แล้วหลังต้องออกจากตำแหน่ง