ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรกจริงๆ ประเทศไทย…
ยังไม่ทันผ่านปีใหม่ก็ส่อแววระห่ำอีกระลอก
ตอนนี้ผ่านปีใหม่มาแล้วก็ “ไม่ผิดคาด”
โอมิครอนฟุ้งกระจาย !
แต่เรื่องแบบนี้มันจะไปหาแพะมารับบาปก็ไม่ถูกทั้งหมด
เพราะคนมัวแต่จะโทษ ด่าทอ และไม่แยแสกันเอง มันก็ไม่เกิดการพัฒนาหรือการแก้ไขใด
แต่ถามว่าต้องใช้ชีวิตต่อไปไหม? มันก็เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว
ไอ้ “ความกลัว” ใครจะไม่กลัว
“ความเกรง” ใครจะไม่เกรง
แล้วกับไวรัสหน้ามึนที่เชื้อแพร่ได้เร็วเพิ่มขึ้นจากเชื้อเดิม
มันก็ต้องกระทบความเกรงกลัวของคนในสังคมแน่นอน
แต่ยังโชคดีหน่อยที่นี่ไม่ใช่ครั้งแรก…
เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยเข้มแข็งพอ
นโยบาย แผนงาน และความมั่นคงมีความพร้อมเพียงพอ
จึงทำให้หลายฝ่ายยืนหยัดที่จะต่อสู่ต่อไปได้
แม้ทำให้อาจจะต้องสูญเสียไปบ้าง แต่ก็ยังพอทุเลา…
พอมาระลอกนี้ ความตกใจอาจจะน้อยลง แต่เชื่อว่าคนเรารู้ตัวและเข้าใจได้มากขึ้น
ตรวจเชื้อเองที่บ้านได้!
รับมือเองได้เบื้องต้น!
เท่านี้ก็พอจะเยียวยาผลกระทบได้บ้างแล้วแหละ
แต่ถ้ายังไม่พอก็ยังมีโครงการต่างๆ ของหลายๆ หน่วยงานที่ยังยื่นมือเข้ามาช่วยอยู่อย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งนโยบายของภาครัฐก็ยังเดินหน้าที่จะแก้ปัญหายิบย่อยที่ประสบอยู่
กลุ่ม ปตท. เองก็ออกมายืนยันแล้วด้วยอีกหนึ่งเสียง
“ว่าจะช่วยดูแลและเดินหน้าโครงการลมหายใจเดียวกันต่อ”
พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจรุนแรงขึ้น และจะดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ไปจนกว่าสถานการณ์โรคระบาดจะคลี่คลาย เพื่อสร้างความอุ่นใจ ความปลอดภัยด้านสาธารณสุขให้แก่ประชาชน และแบ่งเบาภาระภาครัฐ
นอกจากนี้ไม่ใช่แค่บอกว่าจะเดินหน้าทำอย่างเดียว!
แต่ยังได้มีการพัฒนาบริการใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุนการทำงานด้วย
โดยได้จัดตั้งสายด่วนจิตอาสาให้บริการรับสายเรียกเข้าจากผู้ที่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเองและผลเป็นบวก เพื่อให้คำแนะนำทันทีและส่งรถพยาบาลรุดให้ความช่วยเหลือถึงบ้านในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ใครต้องการความช่วยเหลือ ก็สามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1745
รู้แบบนี้ก็อุ่นใจ…
เพราะเห็นว่าโครงการที่ว่านี้เป็นประโยชน์กับผู้ประสบภัยได้จริงๆ
จากเสียงของผู้เข้ารับบริการอย่าง “มนัญญา แก้วดี” ก็ยืนยันดีชัดเจน
…จากช่วงนั้นที่มีคนติดโควิด-19 เยอะ เตียงหายาก แต่มีคนหนึ่งแนะนำโครงการลมหายใจเดียวกัน ได้ยินว่าที่นี่ให้บริการดี เป็นระบบ จึงติดต่อไป
ตอนแรกคิดว่าจะได้ Home isolation เพราะอาการยังไม่หนัก แต่ถูกเสนอให้ไปรักษาตัวที่ Hospitel โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทั้งยังได้เอกซเรย์ปอดถึงสองครั้ง
โครงการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหาเตียง หาที่พัก หาจุดรักษา ถ้ามีโครงการแบบนี้เยอะๆ การแพร่ระบาดอาจจะไม่รุนแรงเท่านี้ คนติดเชื้อโควิด-19 มีความเครียดอยู่แล้ว แต่ทุกขั้นตอนในโครงการนี้ทำให้สบายใจขึ้น…
มันน่าจะตอบคำถามได้ว่าทำไม? ปตท. ยังเดินหน้าที่จะทำงานตรงนั้นอยู่
เพราะเสียงยืนยันของผู้เข้ามาใช้บริการก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดัน
บุญใหญ่เลยนะคราวนี้…
แต่คนในสังคมเองก็ต้องเตือนสติตัวเองทุกวันเหมือนกัน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเสี่ยง ใช้ชีวิตแบบมีสติตลอดเวลา
และต้องทำความเข้าใจกับมัน ตื่นตัว และต่อสู้ต่อไป อย่างเพิ่งหมดกำลังใจ