ตอบรับดี “จุรินทร์” จัดพาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน เผยเตรียมจัด Lot 17 ต่อเนื่อง ขอบคุณทุกความร่วมมือ ช่วยกันลดภาระค่าครองชีพในยามนี้
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2565 เวลา 10.45 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตรวจเยี่ยมโครงการโมบาย พาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชน ณ ชุมชนปิ่นเจริญ 2 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร
นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้นำโครงการโมบายพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot16 ซึ่งดำเนินการตั้งแต่ก่อนสิ้นปีเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ จนถึงสิ้นเดือนมกราคม ซึ่งทำต่อเนื่องถึง 16 Lotแล้ว
จำหน่ายราคาพิเศษ เช่น ไข่ไก่ แผงละ 80 บาท ฟองละ 2.60 บาท น้ำมัน ขวดละ 48 บาท หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท ข้าวหอมมะลิ ถุงละ 5 กิโลกรัม 120 บาท น้ำตาลทราย กิโลกรัมละ 18 บาท และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆอีกหลายรายการ ลดสูงสุดถึง 86%
และหลังจากนี้อาจจะไปต่อกับโครงการที่ ครม. เพิ่งให้ความเห็นชอบใน Lot 17 ต่อไป สำหรับรถโมบายจะไปจอดที่ไหน จะมีการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าอยู่ในเว็บไซต์ ของกระทรวงพาณิชย์ www.moc.go.th หรือที่ https://www.xn--42cl0af1c0aio7igbq82a.com/
ซึ่งประชาชนให้ความสนใจมาก ช่วยแบ่งเบาภาระได้เยอะมาก แม้ไม่ทั่วถึงเพราะยังมีข้อจำกัด แต่ทุกที่ที่ไปประชาชนเข้ามาซื้อเยอะมาก มีความพอใจอยากให้เดินหน้าโครงการนี้ต่อไป
แม้การแก้ปัญหาราคาสินค้าในภาพรวม ต้องใช้ยาขนานอื่นด้วย แต่อันนี้ก็เหมือนกับยาขนานหนึ่งที่ใช้ร่วมกับยาขนานอื่น เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชน
และนโยบายของตน ให้อธิบดีกรมการค้าภายในเชิญตัวแทนผู้ประกอบการ เช่น สมาคมบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ เกษตรกร และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มาประชุมหารือและทำข้อตกลงกันว่าเราจะตรึงราคาไว้ที่เท่าไร ให้ทั้ง 3 ฝ่าย อยู่ด้วยกัน ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการและผู้บริโภค ไม่ให้เดือดร้อนจนเกินสมควร ต้องหาความสมดุล ช่วยกันแบ่งเบาภาระซึ่งกันและกัน ที่ผ่านมาหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าจบแล้วไม่ให้ขึ้นราคาเด็ดขาด หากฉวยโอกาสขึ้นราคา จะใช้กฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการจัดการดำเนินคดีไม่ไว้หน้า
หมวดซอสปรุงรส ที่มีข่าวว่าซีอิ๊วจะขึ้นราคา ตัวแทนหยันหว่อหยุ่น และบริษัทอื่นๆมาร่วมกับเรา ไม่ขึ้นราคา บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชัดเจนแล้วว่าไม่มีการขึ้นราคา นอกจากนั้นยังมีหมวดน้ำอัดลมที่มีข่าวว่าจะขึ้นราคา ตอนนี้ยุติแล้วไม่ขึ้นเด็ดขาด ถ้าขึ้นราคากระทรวงพาณิชย์คงต้องใช้มาตรการในการบริหารจัดการ
หมวดที่ต้องเข้าไปดูใกล้ชิดเพราะมีช่องทางจำหน่ายเยอะมากไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด คือเนื้อสัตว์ แต่หลายหมวดก็ได้ข้อยุติ เช่น ไก่ ในห้างสำคัญ เช่นแม็คโคร โลตัส บิ๊กซี ไก่ทั้งตัวต้องไม่เกิน 60 -65 บาทต่อกิโลกรัม น่องติดสะโพกไม่เกิน 60-65 บาทต่อกิโลกรัม และไก่หน้าฟาร์มไม่เกิน 40 บาทต่อกิโลกรัม และไข่ไก่ ตรึงราคาหน้าฟาร์ม ไม่เกิน 2.90 บาท
และที่ยังสูงอยู่ คือ หมูเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่รัฐบาลทั้งรัฐบาล ซึ่งท่านนายกฯทราบแล้วเพราะลำพังกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งแก้โดยเบ็ดเสร็จไม่ได้ กระทรวงพาณิชย์เป็นปลายทางของการจำหน่ายหมูชำแหละแต่ต้องแก้ตั้งแต่ต้นทาง
ปัญหาใหญ่ของหมูคือปริมาณหมูหายไปจากระบบ กรมปศุสัตว์เคยมาชี้แจงกับกระทรวงพาณิชย์ว่าประมาณ 30% จึงมีผลต่อราคาเพราะปริมาณไม่พอราคาจึงขึ้น ต้องเร่งป้อนหมูเข้าระบบให้เร็วที่สุดรัฐบาลมีนโยบายชัดเจน จัดวงเงิน 30,000 ล้านบาทให้ ธ.ก.ส. ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ กับผู้เลี้ยงหมู
ซึ่ง ธ.ก.ส.และกระทรวงการคลัง จะเข้าไปช่วยให้เกิดการจับคู่กู้เงินให้มากที่สุดหมูจะได้รับเงินทุนต่อลมหายใจและป้อนเข้าระบบได้มากขึ้นโดยเฉพาะรายย่อยและกรมปศุสัตว์ต้องเร่งผลิตลูกหมู ได้รับแจ้งว่าได้ประมาณสัปดาห์ละ 300,000 ตัว รวมทั้งต้นทุนอาหารสัตว์ เรื่องภาษีกระทรวงการคลังต้องเข้าไปดู ราคาน้ำมันกระทรวงพลังงานต้องเข้าไป เพราะเป็นเหตุหนึ่งของต้นทุนการผลิต ทุกกระทรวงต้องช่วยกัน
ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ห้ามส่งออกหมูจะช่วยให้หมูเข้าสู่ระบบอีก 1,000,000 ตัวและกำกับปลายทาง ซึ่งเป็นปลายเหตุว่าใครฉวยโอกาสขายราคาเกินสมควร จะแจ้งข้อหาค้ากำไรเกินควร โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะเดียวกันการกำหนดราคาจะดูจากราคาหมูหน้าฟาร์ม ซึ่งจะมีราคาบอกว่าถ้าหมูหน้าฟาร์มราคาเท่านี้ราคาขายปลีกไม่ควรเกินเท่าไหร่ ซึ่งขณะนี้ตรึงราคาหมูหน้าฟาร์มไว้ที่กิโลกรัมละ 100-110 บาท ถ้าเป็นหมูเนื้อแดงไม่เกิน 210 บาท ขณะนี้ราคาเนื้อหมูเริ่มทรงตัว แต่จะทำอย่างไรให้ราคาลดลง มาต้องเร่งผลิตหมูเข้าสู่ระบบให้เร็ว คงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง
ส่วนตรุษจีน ต้นได้สั่งการกรมการค้าภายในลงไปช่วยดูว่าจะจับจัดจุด หรือเชิญผู้ค้าทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าในช่วงตรุษจีนว่าจะตรึงราคาได้อย่างไร ที่กระทรวงพาณิชย์ทำเพิ่ม คือ จัดพาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชนพอมีข่าวว่ารัฐบาลอนุมัติงบประมาณ 1,400 ล้าน ก็มีการวิจารณ์บางส่วนว่าแก้ปัญหาปลายเหตุ แต่ก็ช่วยบรรเทาภาระพี่น้องประชาชนได้เยอะ และพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ทำมาถึง Lotที่ 16 แล้ว นี่จะเป็น Lotที่ 17 สร้างความพอใจให้พี่น้องประชาชนได้เยอะ แม้ไม่ทั้งหมดเพราะต้องแก้ทั้งระบบช่วยกันหลายกระทรวง แต่เป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงพาณิชย์ที่เข้าไปช่วยบรรเทาลดค่าครองชีพได้เยอะ และทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน
และจนถึงขณะนี้สำนักงบยังไม่ได้จัดงบให้ต้องรอซึ่งกำลังประสานงานอยู่ โดยต้องรองบประมาณว่าจะจัดให้งวดแรกเท่าไหร่ ไม่ใช่ 1,400 ล้านบาทงวดเดียว สำนักงบจะจัดมาให้แบ่งเป็นงวด ซึ่งตนมอบปลัดกระทรวงฯและอธิบดีกรมการค้าภายในว่าต้องทำอย่างไรที่ไหน วันจันทร์นี้จะมีการประชุมอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับสต๊อกหมูให้เป็นนโยบายและท่านนายกก็กำชับ ต้องขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจ พาณิชย์จังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมกำลังเข้าไปตรวจให้เกิดความชัดเจน ว่ามีการกักตุนหรือไม่ หรือปัญหาที่แท้จริงเกิดจากปริมาณหมูหายไปจากระบบจริงประมาณ 30% ดูที่หน้างานจริง จะมีการสำรวจและจนถึงขณะนี้ยังไม่พบการกักตุน แต่พบการกระทำความผิด เช่น
เก็บเนื้อหมูไว้แต่ไม่แจ้งปริมาณสต๊อก มีความผิดจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับหรือปรับวันละ 2,000 บาท จนกว่าจะแจ้ง เช่น ที่จังหวัดสงขลา ชัดเจนแล้วและโดยนโยบายบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด และใช้โทษสูงสุด เพราะในยามนี้ไม่สามารถปล่อยปละละเลยได้ เป็นนโยบายที่สั่งการไปแล้ว บางแห่งถ้าพบปริมาณเนื้อหมูจำนวนมากก็จะตรวจสอบหากไม่มีอะไรผิดกฎหมายต้องรีบปล่อย เพื่อให้ปริมาณหมูเข้าสู่ตลาดโดยเร็ว