นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรค ร่วมกันแถลงมติคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ให้ สุรชาติ เทียนทอง เป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 9 หลักสี่-จตุจักร โดย นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ออกประกาศเพื่อให้สมาชิกพรรคผู้สนใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. กทม. เขตเลือกตั้งที่ 9 เขตหลักสี่-จตุจักร แทนตำแหน่งที่ว่างลงตามที่กฎหมายกำหนด ตั้งแต่วันที่ 26-28 ธันวาคม 2564 ณ ที่ทำการใหญ่พรรคเพื่อไทยและสำนักงานตัวแทนพรรคเพื่อไทย กทม. เขตเลือกตั้งที่ 9 โดยคณะกรรมการสรรหาได้ส่งรายชื่อและความเห็นให้กรรมการบริหารพรรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ นายสุรชาติ เทียนทอง ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย ด้วยเหตุผล ดังนี้
1.คุณสุรชาติ มีประสบการณ์ทำงานเพื่อประขาชนในพื้นที่มานานกว่า 17 ปี และมีบทบาทสำคัญในการช่วยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ฝ่าวิกฤตโควิด-19
แม้ยามที่เกิดการรัฐประหาร ยามที่ไม่ได้เป็นผู้แทนฯ คุณสุรชาติยังคงทำงานในพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทุกวิกฤตการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะในวิกฤตโควิด-19 ที่พี่น้องประชาชนในเขตหลักสี่-จตุจักร ต้องเผชิญกับการบริหารจัดการที่ล้มเหลวของรัฐบาล ระบบสาธารณสุขในชุมชนล่มสลาย คุณสุรชาติและทีมงานมีบทบาทสำคัญอย่างต่อเนื่องในการเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยรอเตียงและผู้กักตัว ซึ่งเป็นพลังสำคัญที่ช่วยบรรเทาสถานการณ์ให้พี่น้องประชาชนในเขตหลักสี่-จตุจักรผ่านพ้นวิกฤตไปได้
2.คุณสุรชาติ มีอุดมการณ์หนักแน่นในระบอบประชาธิปไตย และยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทย ได้ให้ความช่วยเหลือดูแลประชาชนในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากการทำลายประชาธิปไตยมาโดยตลอด
ตัวอย่างที่เป็นประจักษ์แก่พี่น้องประชาชนในเขตหลักสี่ คือการที่ คุณสุรชาติ ให้ความช่วยเหลือครอบครัว ‘ลุงอะแกว แซ่ลิ้ว’ เหยื่อความรุนแรงจากเหตุการณ์ ‘มือปืนป๊อปคอร์น’ ที่บริเวณหลักสี่ในปี 2557 จากการสูญเสียที่ไร้ความรับผิดชอบจากรัฐ คุณสุรชาติได้ให้การสนับสนุน ครอบครัวแซ่ลิ้ว จนกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้ง
3.คุณสุรชาติ มีเป้าหมายต้องการใช้กลไกสภา ส่งเสริมผลักดันการปฏิรูประบบราชการไทยในการรับใช้ประชาชน
เพื่อให้ข้าราชการทำงานอย่างเต็มที่ มีประสิทธิภาพ ตอบสนองต่อความจำเป็นขั้นพื้นฐานของประชาชน โดยเฉพาะช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก และถึงแม้หากชนะจะได้เป็นเพียง ส.ส. พรรคฝ่ายค้าน แต่คุณสุรชาติจะใช้กลไกสภาทุกวิถีทาง เพื่อทำหน้าที่ผลักดันและตรวจสอบรัฐบาลให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
ท่ามกลางภาวะวิกฤตซ้อนวิกฤตของบ้านเมืองเวลานี้ ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตโรคระบาด และวิกฤตการเมือง พรรคเพื่อไทยเห็นว่า ผู้แทนฯ ที่เหมาะสม นอกจากจะต้องมีวิสัยทัศน์ หนักแน่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย เพื่อต่อสู้กับการสืบทอดอำนาจเผด็จการแล้ว
ผู้แทนฯ ยังต้องใกล้ชิดประชาชน แก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน และเป็นที่พึ่งที่หวังให้กับพี่น้องประชาชนได้ในยามวิกฤต พรรคเพื่อไทยจึงขอเสียงพี่น้องชาวหลักสี่-จตุจักร เลือก สุรชาติ เทียนทอง เป็น ส.ส. กทม. เขตเลือกตั้งที่ 9 เพื่อเป็นบันไดขั้นแรกสู่ความหวังที่จะเปลี่ยนรัฐบาล คืนรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน ชนะครั้งนี้ เพื่อความหวังของคนทั้งประเทศ
ขณะที่ นายสุรชาติ เทียนทอง กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความหมายต่อหลายภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนคนในพื้นที่หลักสี่และจตุจักร ที่จะได้ตัดสินใจอีกครั้งว่าอยากได้ผู้แทนราษฎรแบบไหน ในส่วนของตนนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้มากกว่าผลแพ้ชนะ แต่เป็นก้าวที่สำคัญที่สุดในชีวิตที่จะพิสูจน์อุดมการณ์ ความเชื่อและความตั้งใจตลอด 17 ปีที่ผ่านมาที่อยู่ในพื้นที่ ภายใต้ความเชื่อที่ว่าต้องการทำการเมืองที่เป็นผู้แทนของพี่น้องประชาชนที่แท้จริง และหากได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จะนำสิ่งที่เก็บเกี่ยวและเรียนรู้มาตลอด 17 ปี มาแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนในทุกด้าน
นายสุรชาติ กล่าวว่า เราจะเริ่มต้นด้วยการให้เกียรติประชาชนเป็นอย่างแรกและจะทุ่มเททุกอย่างที่จะแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิตให้ประชาชน ไปจนถึงแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคอยู่ ซึ่งพบมาตลอด คือ ระบบราชการที่กดทับ ตีกรอบไม่ให้ตัวข้าราชการเองได้แก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มศักยภาพ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องผลักดันไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของระบบราชการ เพราะเชื่อมั่นว่าด้วยฐานของข้าราชการที่มีอยู่ หากสามารถจัดการระบบให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้เพิ่มขึ้นอีก 50% จะสามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างต็มประสิทธิภาพมากกว่านี้