คลิกฟังบทความ..⬇️
เปลว สีเงิน
ผมก็ลืมไป….
ว่าเมื่อวาน (๒๖ ก.ค.) เป็นวันเกิดทักษิณ
ปีนี้ท่านก็ ๗๕ แล้วมั้ง?
อืมมมม….
ก็แก่เฒ่าไปตามๆ กัน กับคนวัยหนุ่ม-วัยสาว อาจเคยได้ยินคนวัยผมพูดว่า “แก่แล้ว…ไม่มีอะไรดีเลย”
มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ในด้านสังขารร่างกาย ที่จะดีอยู่บ้าง เท่าที่เห็น ก็มีอย่างเดียว คือ
“โลกและชีวิต” กับความคิดที่ “ตกผลึก”!
ผมเข้าใจทักษิณนะ
กับคนพลัดพรากจากบ้านเกิดเมืองนอนไปนานๆ ถึงกาลเวลาหนึ่ง ถ้าถามว่า ระหว่างเอาเงินมากอง-เอาทองมาท่วมหัวให้ กับการได้กลับบ้าน จะเลือกเอาแบบไหน?
ถ้าเป็นผม ขอเลือกกลับบ้าน….
ได้มาอยู่กับครอบครัว กับลูก กับเมีย กับหลานๆ ได้พบพานมิตรสหายและน้องพี่
ทั้งคนที่ฝังรัก-ฝากแค้นกันมาเนิ่นนานปี ถึงเวลาจะได้สะสางกันให้ “กระจ่างแค้น-ประจักษ์รัก” เป็นที่ประจักษ์กันไป
แต่กับคนวัยตกผลึก เรื่องคิดแค้นอาฆาต ผมว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล-ไร้สาระ
เพราะช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรา ก็ไม่เกินร้อยปี
ลองทบทวนซิ
ระหว่างไฟคือใจแค้น กับน้ำคือใจอภัย อย่างไหนทำให้เราชุ่มเย็น-เป็นสุข?
ใครว่า คิดนี้เป็นคิดผิด ผมไม่เถียง เพราะผมเข้าใจ “ในความคิดระหว่างวัย”
และใครๆ ก็-ไม่ต้องพยายามเข้าใจ เพราะเมื่อถึงเวลา “โลกและชีวิต” จะทำให้เข้าใจเอง
เรื่องทักษิณจะกลับนั้น ผมก็พูดตามที่อุ๊งอิ๊งโพสต์เมื่อวานว่า “พ่อจะกลับ วันที่ ๑๐ สิงหา.”
แต่จะกลับจริงๆ หรือเป็นข่าว “เบี่ยงกระแส” จากเรื่อง “เส้นทางสายใหม่” ของเพื่อไทย ให้คนหันไปสนใจเรื่องทักษิณแทน ผมยังเชื่อแบบกึ่งๆ อยู่
ความเป็นจริงที่ทุกคนต้องยอมรับอย่างหนึ่ง คือ
ทักษิณเป็นคนไทย ฉะนั้น มีสิทธิ์กลับเมืองไทยได้ทุกเวลา
ที่ไม่กลับ ไม่ใช่มีคนห้ามกลับ
ทักษิณ “ไม่กลับเอง” ตะหาก เพราะไม่ต้องการติดคุก จากโทษคุกที่ศาลตัดสินเด็ดขาดแล้ว ๔ คดี รวม ๑๐ ปี
แล้วทำไมจู่ๆ ทักษิณตัดสินใจกลับ?
ตรงนี้ ผมก็ยังไม่แน่ใจว่า ๑๐ สิงหา.จะกลับจริงหรือกลับหลอก พอใกล้ๆ วันก็เลื่อนอีก
ถ้ากลับจริง แสดงว่า เพื่อไทยตกลงจับขั้วกับซีกรัฐบาลปัจจุบันเป็น “รัฐบาลสมานฉันท์” ยุติการแบ่งข้าง-แบ่งฝ่าย คืนรัก-คืนสามัคคีให้ชาติบ้านเมือง
และก็แสดงว่า ทักษิณ “ตกผลึกคิด” ยอมเข้าสู่กระบวนการกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งการละตัวตนของทักษิณเท่านี้ ผมเชื่อว่า ประชาชนจะพอใจ
และพร้อม “มีอภัยให้ต่อกัน”
ส่วนต่อจากนั้น ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการราชทัณฑ์ เมื่อเข้าระบบ-ระบอบ “กับคนชรา” กฎหมายและกฎระเบียบราชทัณฑ์ เขามีผ่อนสั้น-ผ่อนยาวให้อยู่แล้ว
เว้นแต่ว่า ทักษิณยัง “ฝังคิด-ฝังแค้น”
เมื่อได้อำนาจคืน ก็คิดล้างแค้น มีการปลุกระดมเสื้อแดงออกมาในทาง “ยกนายใหญ่” ให้อยู่เหนือกฎหมายอีก
แบบนั้นแหละ ไฟจะท่วมเมืองอีกครั้ง!
แต่วัดใจ จากคนสังขารใกล้เคียง ตอนนี้ ไฟแค้นในหัวใจมันดับไปแล้ว การได้คืนบ้าน-คืนเมือง คือสุขที่ปรารถนา
แล้วไฉนเล่า….
จะเอาสุขที่กว่าจะได้ก็แสนเข็ญ กลับเอาไปสร้างทุกข์ให้ทับถมกับชีวิตที่เหลือน้อยให้ต้องลำเค็ญอีก?
ถ้าทักษิณกลับ คนอาจระแวงว่า ซักวันข้างหน้า ทักษิณจะลงการเมือง เข้าสู่อำนาจคุมรัฐบาลในตำแหน่งนายกฯ อีก
ไม่ต้องระแวงหรอก
เพราะการต้องโทษคุก เข้าลักษณะต้องห้าม ลงสมัครสส.ไม่ได้ เป็นนายกฯ ก็ไม่ได้
กั้นม่าน “บัญชาการ” หลังเก้าอี้นายกฯ
นั่น…ไม่มีกฎหมายห้าม!
ก็หมายความว่า เมื่อ MOU แปลว่า “จู๋” ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน เพื่อไทยเป็นรัฐบาล และถ้าไม่เขิน
เสนออุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ โอกาสผ่านฉลุย!
และไม่ต้องกลัวว่า “นายกฯ แม่ลูกอ่อน” เป็นมือใหม่หัดขับ เพราะจะมีคนจับพวงมาลัยอยู่ข้างหลังให้ตลอดเวลา
นี่ เห็นข่าวอ้างอิงสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญว่า พฤหัสที่ ๓ สิงหา.คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะประชุมพิจารณาว่าจะรับคำร้องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งมาหรือไม่?
ก็ในประเด็น จะเสนอพิธาเป็นนายกฯ ได้อีกหรือไม่ หลังจากที่ “สอบตก” ไปแล้ว เมื่อ ๑๓ กค.นั่นแหละ
เมื่อศาลฯ มีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว ก็พอดีแหละ
ราวๆ วันที่ ๑๐ สิงหา.การประชุมรัฐสภาโหวตนายกฯ ที่เลื่อนจากวันนี้ (๒๗ กค.) ก็น่าจะไปลงล็อกช่วงนั้น
นี่ถ้า ทักษิณกลับด้วย โหวตนายกฯ ด้วย พิธาตกใต้ถุนด้วย โอ…พระเจ้าช่วยกล้วยทอด!
สมมติเพื่อไทยเป็นฝ่ายรัฐบาล ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน
ผมว่ามันลงตัวด้านการ “ถ่วงดุล-ตรวจสอบ” ในระบบสภายิ่งกว่า “ผีจับยัด”!
๑๐ สิงหา.นี่ เหมือน “ขลัง” นะ
ไม่เพียงบ้านเราจะได้นายกฯ ใหม่ กัมพูชา “เพื่อนบ้าน” เมื่อวาน (๒๖ กค.๖๖)
“สมเด็จฮุนเซ็น” หลังชนะเลือกตั้ง ชนิดแลนด์สไลด์ ประกาศลงจากเก้าอี้นายกฯ ที่นั่งมา ๓๘ ปี ยาวนานที่สุดในโลก โดยบอกว่า
“กษัตริย์จะทรงแต่งตั้ง “ฮุน มาเนต” เป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ ๑๐ สิงหา.และสภาจะลงมติรับรองนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันที่ ๒๒ สิงหา.
ผมขอให้ทุกคนสนับสนุน “ฮุน มาเนต” ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่”
นี่แหละ ที่เรียกว่า “ไร้รอยต่อ-ทอเต็มผืน” ขนานแท้
สมเด็จฮุนเซ็นส่งต่ออำนาจให้ลูกชายวัย ๔๕ ราบรื่นและราบเรียบ เหมือนเหยียบตะไคร่น้ำ
สมเด็จฮุนเซ็น ลงจากเก้าอี้นายกฯ แล้วจะไปไหน?
เขาประกาศ ว่า ………
“จะดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา และทำหน้าที่เป็นประมุขแห่งรัฐ เมื่อ “พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี” เสด็จพระราชดำเนินไปต่างประเทศ”
ครับ…โน คอมเมนท์!
กลับมาเรื่องของเราต่อ “ก้าวไกลกับเพื่อไทย” ถ้าเป็นปาท่องโก๋ฉีกข้าง ท่านคิดว่า ก้าวไกลจะยอมมั้ย?
ผมว่าน่าคิดนะ ยิ่งฟังวิโรจน์ ทหารเอกคู่บัลลังก์ “สามสัส” ให้สัมภาษณ์แต่ละครั้งด้วยแล้ว
ถ้า “แดง” แยกไปจาก “ส้ม”
รัฐบาลเพื่อไทย ต้องเผชิญวิบากกรรม เหมือนรัฐบาลประยุทธ์ที่ต้องถูกยื้อยุด-ฉุดกระชากทั้งจากแดงและส้ม
เข้าตำรา “ยัง กัมมัง กะริสสันติ, กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา, ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ”
ทำกรรมอันใดไว้, เป็นบุญหรือเป็นบาป จักต้องเป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้นๆ สืบไป
นั่นแหละ อย่างนั้น คือ “วงเวียนกรรม” เป๊ะเลย!
เพราะอย่างนี้ จึงมีความน่าจะเป็นได้ ที่รัฐบาลเพื่อไทยเป็นแกน จะทำตัวเป็น “ผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่”
เป็นแกน แต่ยกแก่น คือเก้าอี้นายกฯ ให้พรรคอันดับ ๓ อันดับ ๔ คือพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ก็พลังประชารัฐ นั่ง
เพื่อเป็น “ยางกันกระแทก” ช่วงอาจเกิดปะทะระหว่าง “แดง-ส้ม” ที่อมเลือด-อมหนอง!
นี่เราก็คุย “คั่นเวลา” ช่วง ๘ พรรค เขาเจรจาตกลงจะหย่ากันลงตัวได้ขนาดไหน และเพื่อไทยจะเลือกพรรคไหนเป็นเจ้าสาวรายใหม่บ้าง?
เส้นตาย อยู่ภายในวันที่ ๓ สิงหา.เมื่อศาลฯ มีคำวินิจฉัยเรื่อง “เสนอพิธาซ้ำ” ได้หรือไม่ออกมา ทุกอย่างที่ “คลุมถุง” อยู่ตอนนี้ ก็จะเปิดหน้า
เอาเป็นว่า “อะไรจะเกิด” ถือว่า ดีทั้งนั้น
เพราะอะไรที่มันกระจ่าง ดีกว่าอึมครึม ทักษิณจะกลับ-ก็กลับ, เพื่อไทยจับขั้วใหม่-ก็จับ, ก้าวไกล-เพื่อไทยจะราวี-ก็ราวี
คือจะตีกันให้บรรลัย หรือจะสันติให้สงบสุข
จะอย่างไหน ก็ให้มันชัดกันไป
จะได้ไม่ต้องจับมือใครถามทีหลังว่า…มึงคนไทยหรือเปล่า?
เปลว สีเงิน
๒๗ กรกฏาคม ๒๕๖๖