ตามที่ปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ กรณีที่มีกลุ่มนักเรียน นักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาท ยกพวกตีกัน จนสร้างความวุ่นวายและเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน โดยมีปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมลอกเลียนแบบตามภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง นั้น
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ปป.) ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาฯ อีกทั้งมีความห่วงใย ต่อเด็กและเยาวชน ที่อาจเกิดพฤติกรรมลอกเลียนแบบในการก่อเหตุทะเลาะวิวาท จึงมอบหมายให้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองจเรตำรวจแห่งชาติ (ช่วยงาน (ปป.)) เป็นหัวหน้ารับผิดชอบควบคุมกำกับดูแล การป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียน นักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาท ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทั้งนี้ กำหนดให้มีการประชุมการป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียน นักศึกษา ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ผ่านระบบวิดีโอทางไกล (VDO Conference) ในวันอังคารที่ 14 ธ.ค. 64 เวลา 10.00 น ณ ห้องประชุม ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 ตร. โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่าย เข้าร่วมประชุมฯซึ่งการประชุมฯ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1) ให้ทุก บก./ภ.จว. ที่มีสถานการณ์ปัญหา นักเรียน นักศึกษา ก่อเหตุทะเลาะวิวาท วิเคราะห์พื้นที่ปฏิบัติการ (IPB) โดยให้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่ที่มักจะเป็นจุดเสี่ยง จุดล่อแหลม รวมถึงการสำรวจกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบและการแสวงหาความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ
2) สำหรับ บก./ภ.จว. ที่มีการรับแจ้งเหตุเกิดขึ้นแล้วและมีผู้บาดเจ็บ หรือมีผู้เสียชีวิต รวมทั้งการรับแจ้งเหตุว่าจะมีการรวมตัวกันก่อเหตุและสามารถเข้าไประงับหรือป้องกันเหตุได้ก่อน ให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานระดับพื้นที่ขึ้น เพื่อทบทวนบทเรียนหลังจากที่มีการปฏิบัติ (AAR) เพื่อหาจุดแข็ง จุดอ่อน หรือปัญหาอุปสรรค เพื่อทำการแก้ไข ทั้งนี้มุ่งหวังให้มีรูปแบบการปฏิบัติที่เป็นมาตรฐาน (SOP) และมีการออกแผนปฏิบัติการและทำการซักซ้อมแผนเป็นประจำ สำหรับกรณีนักเรียน นักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาทแล้วมีผู้บาดเจ็บถูกส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาล ให้มีแผนเผชิญเหตุและทำการซักซ้อม เพื่อป้องกันการทะเลาะวิวาทต่อเนื่องที่โรงพยาบาลด้วย
3) นำข้อมูลที่ได้จากการรับแจ้งเหตุทางศูนย์วิทยุ 191 มาเป็นข้อมูลในการประชุมงานสายตรวจ เพื่อประกอบการวิเคราะห์และจัดทำแผนการตรวจ ให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาในพื้นที่ หากห้วงเวลาหรือ สถานที่ที่ได้จากการวิเคราะห์ว่ามีแนวโน้มการรวมตัวก่อเหตุ ให้มีมาตรการที่ชัดเจนและสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างแท้จริง
4) การบูรณาการความร่วมกัน ระหว่าง งานป้องกันปราบปราม งานสืบสวน และพนักงานสอบสวน ในระดับ สน./สภ. เมื่อรับแจ้งเหตุว่าจะมีเหตุดังกล่าว จะต้องประสานงานทั้งสายตรวจประเภทต่างๆ และ ทีมสืบสวน เพื่อเข้าไปป้องกันเหตุ หรือคลี่คลายสถานการณ์ หากเป็นเหตุที่จะต้องดำเนินคดีในชั้นพนักงานสอบสวน ฝ่ายสืบสวนจะต้องเร่งพิสูจน์ทราบกลุ่มบุคคล ที่ก่อเหตุ เพื่อดำเนินการด้วยความรวดเร็ว
5) มาตรการประสานงานกับสถาบันการศึกษา นั้น กำชับให้ระดับ ผกก.หัวหน้าสถานี เป็นผู้ประสานงานกับ ผอ.สถาบันการศึกษาที่มีความเสี่ยง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ซึ่งกันและกันโดยตรง
6) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ในฐานะผู้รับผิดชอบกำกับดูแลการป้องกันและแก้ปัญหานักเรียน นักศึกษาก่อเหตุทะเลลาะวิวาท ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานกับเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เพื่อสร้างความร่วมมือ และหาแนวทางในการป้องกันเหตุนักเรียน นักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาทต่อไป
สรุปสถิติการเกิดเหตุ นักเรียน นักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาท (ระหว่างวันที่ 9-13 ธ.ค.64)
-
- บช.น. รับแจ้ง 1 ครั้ง กลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 คน มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 1 คน
- ภ.4 รับแจ้ง 1 ครั้ง กลุ่มวัยรุ่นประมาณ 30 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 17.00 น.พื้นที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ มีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันหน้าลานจอดรถจักรยานยนต์ หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าไม่พบกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว จึงได้สอบถาม รปภ.ของห้างสรรพสินค้า ทราบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 30 คน ทะเลาะวิวาท วิ่งไล่ทำร้ายกัน และจากกรณีเหตุดังกล่าว ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์แต่อย่างใด
- ภ.3 รับแจ้ง 1 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 1 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 64 เวลาประมาณ 13.19 น.กลุ่มนักเรียนนักศึกษา 2 สถาบันชื่อดังใน จ.ชัยภูมิ เดินมาพบกันริมถนนก่อนเกิดเขม่นกัน ยกพวกตะลุมบอลกันข้างทางและวิ่งไล่ทำร้ายร่างกายกัน ก่อนจะวิ่งแยกย้ายกันหลบหนีไป ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะยืนขายของอยู่ได้มีกลุ่มนักเรียนต่างสถาบันขับรถจักรยานยนต์มาจอด ก่อนที่จะใช้อาวุธเป็นมีดสปาร์ต้า วิ่งลงมาหวังที่จะทำร้ายร่างกายกลุ่มนักเรียนต่างสถาบัน ก่อนที่จะมีครูวิ่งออกมาห้ามปราม ทำให้กลุ่มนักเรียนนักเลงดังกล่าว วิ่งขึ้นรถหลบหนีไป