แรงงานตรวจสอบเบื้องต้นกรณีเพจสังคมโรงงานให้ข่าวว่าบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ย่านสมุทรปราการ เตรียมเลิกจ้างลูกจ้างกว่า 400 ชีวิต นั้นไม่พบข้อเท็จจริงดังกล่าว และยังไม่พบว่ามีบริษัทขนส่งปิดกิจการ แนะหากเกิดกรณีดังกล่าวจริงขอให้นายจ้างดำเนินการเลิกจ้างตามกฎหมาย
นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่เพจสังคมโรงงาน ให้ข่าวว่าบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เตรียมปิดกิจการ ส่งผลให้ลูกจ้างกว่า 400 ชีวิตต้องตกงานกระทันหัน ซึ่งเรื่องนี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยลูกจ้างและให้ความสำคัญในการช่วยเหลือบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนพี่น้องผู้ใช้แรงงานให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎมายคุ้มครองแรงงาน
จึงได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยนายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้มอบหมายให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น
พบว่าไม่พบบริษัทขนส่งปิดกิจการ หรือการเลิกจ้างลูกจ้างจำนวน 400 คน แต่ทางกรมฯไม่ได้นิ่งนอนใจพร้อมคุ้มครองสิทธิลูกจ้างให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และขอให้บริษัทฯที่ต้องการจะเลิกจ้างลูกจ้างให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมจ่ายค่าชดเชยและเงินตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานให้กับลูกจ้าง
ซึ่งหากนายจ้างไม่ปฏิบัติตาม ขอความร่วมมือให้ลูกจ้างที่ไม่ได้รับสิทธิตามกฎหมายเข้ามายื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื้นที่ หรือจังหวัดที่ลูกจ้างปฏิบัติงาน โดยสิทธิที่ลูกจ้างพึงได้ตามกฎหมาย ประกอบด้วย
ค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสม หรือตามสัดส่วน ใบสำคัญการทำงาน เงินสวัสดิการต่าง ๆ ตามที่กำหนดในระเบียบของนายจ้าง และแนะนำพี่น้องผู้ใช้แรงงานหากถูกเลิกจ้าง หรือบริษัทฯ ปิดกิจการนั้น นอกจากสิทธิด้านคุ้มครองแรงงานแล้ว ยังสามารถใช้สิทธิประกันสังคมกรณีว่างงาน พร้อมทั้งหางานใหม่ได้ที่กรมการจัดหางาน
โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ฝากส่งกำลังใจให้กับพี่น้องแรงงานทุกท่านในช่วงสิ้นปีนี้ให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งกระทรวงแรงงานให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ใช้แรงงานให้ได้รับการช่วยเหลือตามกฎหมายแรงงานโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานคร ทั้ง 10 พื้นที่ หรือสายด่วน 1506 กด 3