นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลทำกับประชาชนมือเปล่าด้วยการสลายการชุมนุมของชาวบ้าน อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ในช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา (6 ธ.ค.64) คือการใช้อำนาจรัฐล้นเกินโดยเจ้าหน้าที่รัฐผ่าน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งที่ชาวบ้านมีความมุ่งหมายเพียงเพื่อกลับมาทวงคำสัญญาจากรัฐบาลที่ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงผลการเจรจาการแก้ไขปัญหาระหว่างกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ว่าจะศึกษาผลกระทบการก่อสร้างโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
โดยในหนังสือระบุว่าจะมีการประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพ (HTA) ซึ่งต้องมีการวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ก่อนตัดสินใจเชิงนโยบาย และต้องมีการตั้งตัวกลางที่ได้รับการยอมรับจากทั้งสองฝ่ายร่วมอยู่ในการประเมินนี้ด้วย แต่รัฐบาลไม่ฟัง ทั้งที่มีการลงนามในข้อตกลงอย่างชัดเจนโดยร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อย่างชัดเจน
แต่เมื่อเกิดความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล ปัญหานี้กลับถูกมองข้ามไป ไม่ดูดายประชาชน การกระทำเช่นนี้ยิ่งตอกย้ำว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา และไม่ใช่ผู้นำของประชาชน
“ปัญหาของการจับ-ปราบ การเรียกร้องของชาวบ้านจะนะ หรือผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆ คือการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอย่างฟุ่มเฟือย ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ ที่ผ่านมาหลอกประชาชนไปวันๆ ว่าจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ท้ายที่สุดก็เป็นไปเพื่อควบคุมการชุมนุมเท่านั้น พฤติกรรมของ พล.อ.ประยุทธ์คือ ไม่ฟัง ไม่แก้ แต่จับ อยู่กันไปแบบนี้มีแต่จะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ” นางสาวตรีชฎา กล่าว