3 ธันวาคม 2564 – ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (บช.ภ.5) จังหวัดเชียงใหม่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 บูรณาการร่วมกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 (ปปส.ภาค 5), ทหารกองทัพภาคที่ 3 ศูนยอำนวยการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศอ.บส.ชน.) ฝ่ายปกครองได้ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติที่สำคัญในการปราบปรามยาเสพติดคดีสำคัญ โดยมี พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ปปส. ภาค 5 พ.อ.พิพัฒน์ ศรีทองพิมพ์ ตัวแทนกองทัพภาคที่ 3 ศอ.บส.ชน. และผู้แทนหน่วยงานเกี่ยวข้องแถลงผลจับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 2,664,000 เม็ด
โดยผู้ต้องหา 2 คน ได้แก่ นายอลงกรณ์ สุขแตง อายุ 53 ปี ที่อยู่ ต.วังน้ำเขียวอ.กำแพงแสน จ.นครปฐม และนางกมลธร สุขแตง อายุ 51 ปี ที่อยู่ ต.วังน้ำเขียว อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เหตุเกิดเมื่อ วันที่ 1 ธ.ค.2564 เวลาประมาณ 21.00 น. บริเวณด่านตรวจป่าตึง อ.แม่ลาว จ.เชียงรายได้พร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 25 กระสอบ รวม 2,664,000 เม็ด และเคตามีน 1 กก. รถยนต์ อีซูซุสีขาว สีขาว ทะเบียน 2ฒว7275 กทม. จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง
โดยแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ บก.สส.ภ.5 ได้สืบทราบและสะกดรอยรถต้องสงสัยจาก อ.แม่สาย มุ่งหน้าเข้าสู่ อ.เมืองเชียงราย จึงได้ประสานด่านตรวจป่าตึง ให้สกัดจับรถยนต์ ยี่ห้อ อีซูซู สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ฒว 7275 กทม. ซึ่งเป็นรถยนต์กระบะตู้ทึบลักษณะคล้ายรถขนประเภทอาหารทะเลแช่เย็น ซึ่งมีนายอลงกรณ์ ผู้ต้องหาที่ 1เป็นผู้ขับขี่ และมีนางกมลธร ผู้ต้องหาที่ 2 โดยสารมาด้วย จึงขอทำการตรวจค้นพบยาบ้าบรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยดัดแปลงเป็นกระเป๋าสะพาย จำนวน 25 กระสอบ รวม 2,664,000 เม็ด และเคตามีนอีก จำนวน 1 กก. จึงได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ลาว จ.เชียงราย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
และจากการขยายผล ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การว่า ได้รับการติดต่อจากนายหนุ่ม ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ให้ไปรับยาเสพติดภายในซอยริมถนนแม่จัน-แม่สาย ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย และ ริมถนนสายเลี่ยงเมืองตะวันตก ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย ให้ไปส่งที่ จ.นครปฐม โดยได้รับค้าจ้างเป็นเงินจำนวน 120,000 บาท ซึ่งในการจับกุมของกลางยาบ้าในครั้งนี้ถือว่าเป็นการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ก่อนที่จะมีการกระจายยาเสพติดไปสู่กลุ่มเครือข่ายยาเสพติดเข้าไปยังพื้นที่ตอนในของประเทศต่อไป
ผบช.ภ.5 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมต่อไปว่ามีผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ อีกหรือไม่ ทั้งผู้ว่าจ้าง ผู้สมคบ อีกทั้งจะดำเนินการริบทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดรายนี้ให้หมดไป ซึ่งตั้งแต่ 1 ต.ค.64 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันได้ดำเนินการจับกุมยาเสพติดไปแล้วกว่า 30 ราย ยึดทรัพย์สินเครือข่ายร่วมอีก 100 กว่าล้านบาท พร้อมขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน เพื่อร่วมกันสอดส่องบุคคลหรือยานพาหนะที่มีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ภายในหมู่บ้าน/ชุมชน โดยสามารถแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1599, สายด่วน 191, line@inthanon1(ผบช.ภ.5) และ Application Police I lert U ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.
