เด็กติดคุก ผู้ใหญ่สุขสบาย-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

เด็กๆ ติดคุก

แต่ผู้ใหญ่จอมยุ ลอยนวล

สถานการณ์ของกลุ่มต่อต้านการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เดินทางมาถึงจุดนี้

และอนาคต เด็กจะติดคุกเพิ่ม

ส่วนผู้ใหญ่ บงการมาจากต่างประเทศบ้าง ในประเทศบ้าง สุดแท้แต่เคลื่อนไหวประเด็นอะไร ก็ยังคงอยู่สบาย กิน  เที่ยว ตามปกติ

ยังได้นอนที่นอนนุ่มๆ แอร์เย็นสบายตามเคย

เว็บไซต์ไทยโพสต์วานนี้ เสนอข่าว “จรัล ดิษฐาอภิชัย”  อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประธานสมาคมนักประชาธิปไตยชาวไทยไร้พรมแดน ผู้ต้องหาคดี ม.๑๑๒ ลี้ภัยในประเทศฝรั่งเศส โพสต์เฟซบุ๊ก ลงรูป สบายใจเฉิบ

ขณะที่ “รุ้ง-ปนัสยา” กลับไปใช้ชีวิตในคุกอีกคำรบ

“จรัล ดิษฐาอภิชัย” เพลิดเพลินอยู่กับการท่องเที่ยวที่ชิคาโก อเมริกา

“…ถึงชิคาโก น้องพาไปตัดผมเหมือนครั้งที่แล้ว จากนั้น ไปกิน Bun bo hue อร่อยมากจริงๆ…”

“…เมืองตึกสวยที่สุดแห่งหนึ่งของอเมริกา…”

“…แสงสีในสวนสาธารณะลินคอน ปีที่ ๒๗ ต้อนรับเทศกาลวันหยุดประจำปี…”

ใครว่างก็เข้าไปเยี่ยมชมในเฟซบุ๊กของ “จรัล ดิษฐาอภิชัย” ได้

ถือซะว่าขออาศัยไปเที่ยวทิพย์

และ “จรัล ดิษฐาอภิชัย” ก็มีเวลาว่างมากพอ เปิดประเด็นเชิดชูเด็ก แล้วโจมตีศาล จุดเป็นเชื้อให้เด็กๆ ที่ยังอยู่นอกคุกได้ฮึกเหิม

จนบางคนลืมคิดว่าขาข้างหนึ่งเข้าไปอยู่ในคุกแล้ว

มารู้ตัวอีกที ก็โอดครวญ

กลัวเรียนไม่ทันเพื่อน

ประเด็นเคลื่อนไหวหนักๆ ขณะนี้มีอยู่เรื่องเดียวครับ

ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์!

เกิดอุปาทานหมู่ในคนรุ่นใหม่บางกลุ่มว่า คนส่วนใหญ่ในชาติ ไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว และการต่อสู้ครั้งนี้ จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย

จบที่รุ่นเรา!

หากประเมินกันจริงๆ คนรุ่นใหม่พลาดในหลายจุด

การที่เชื่อว่าตัวเองเป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ของประเทศ  แล้วเดินหน้าเคลื่อนไหวแบบไม่เผื่ออนาคต คือความผิดพลาดอันใหญ่หลวง

ยกมาสักหนึ่งตัวอย่าง

ยืน-ไม่ยืน ในโรงหนัง

ประเด็นนี้พูดกันเยอะ และนำไปสู่ความเข้าใจผิด

จนประเมินสถานการณ์กันผิดพลาด

เป็นเรื่องจริงที่มีคน “ไม่ยืน” ในโรงหนัง

และเป็นเรื่องจริงเช่นกัน ที่ปัจจุบันกลุ่มคนดูหนังโรง เป็นเด็กๆ รุ่นใหม่เสียส่วนใหญ่

ผู้ใหญ่ไปดูกันน้อยถึงน้อยมากๆ

สาเหตุ นอกจากโควิดแล้ว ไม่อยากไปทะเลาะกับเด็กๆ

ฉะนั้น จะมาสรุปเอาว่าประชาชนทั้งประเทศ ไม่ต้องการสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็นการประเมินสถานการณ์ผิดพลาดอย่างมหันต์

แล้วนำไปสู่การเคลื่อนไหวที่ผิดพลาด

ผู้ใหญ่ไม่ออกมาเวลานี้ เพราะยังไม่ถึงเวลา

แต่ถ้าออกมาเมื่อไหร่ ก็ให้ดูกรณี “มวลมหาประชาชน”  เป็นตัวอย่าง

ไม่ได้สนับสนุนแก้ปัญหาด้วยม็อบนะครับ เพราะมันไม่มีวันจบ

ฝั่งหนึ่งขึ้น ฝั่งหนึ่งลง สลับกันไป สังคมไทยควรเรียนรู้บทเรียนว่า ม็อบ ไม่อาจแก้ปัญหาได้จริง

มีแต่ชนะชั่วคราว สุดท้ายทุกฝ่ายเข้าสู่สถานการณ์ที่แท้จริงคือ ประเทศแพ้ ประเทศพัง

สิ่งที่ได้มาอาจกลายเป็นรัฐประหารแทน

ครับ…การกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ก่อหวอด เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทั้งจากคนที่เรียกตัวเองว่า อาจารย์มหาวิทยาลัย รวมทั้ง กลุ่มคนหลบหนีคดีความมั่นคงไปต่างประเทศ

ล่าสุดไปถึงขนาด ขนานนามรัฐบาลประยุทธ์ว่า….

“ระบอบศักดินาฟาสซิสต์”

“เผด็จการฟาสซิสต์”

ต้องเขาใจนะครับ ลัทธิฟาสซิสต์ คือผู้นำที่ใช้อำนาจเผด็จการในการปกครองประเทศ

มุ่งใช้อำนาจเผด็จการปกครองประเทศเป็นการถาวร

ลัทธินี้เกิดในอิตาลี โดย “มุสโสลินี” เป็นเจ้าลัทธิ

มีความเชื่อว่าประชาชนไม่มีความสามารถ ขาดความรู้และมีอารมณ์แปรปรวน ไม่สามารถปกครองตนเองได้

จึงต้องถูกปกครองโดยชนชั้นนำ ที่มีคุณลักษณะสูงกว่ามวลชนทั่วไป

ทั้งในด้านความสามารถ

สติปัญญา

จริยธรรม

เป็นการปกครองที่เน้นความสำคัญของผู้นำที่มีอำนาจเหนือประชาชน

เน้นชาตินิยมอย่างรุนแรง

เพราะอุดมการณ์ของฟาสซิสต์ ให้ความสำคัญเรื่องรัฐ  ชาตินิยม ต่อต้านเสรีนิยม ส่งเสริมลัทธิทหารนิยม เน้นเผด็จการ

ตัวอย่างการปกครองแบบนี้ อาทิ

การปกครองของเบนิโต มุสโสลินี

และการปกครองของอดลอฟ์ ฮิตเลอร์ ผู้นำพรรคนาซีในเยอรมนี ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒

แต่ปัจจุบันรูปแบบเผด็จการฟาสซิสต์มันล่มสลายไปแล้ว

ถ้าบอกว่า รัฐบาลลุงตู่ เป็นฟาสซิสต์ เพราะส่งเสริมชาตินิยม เสริมลัทธิทหารนิยม ใช้อำนาจเผด็จการ ถือว่าผิดถนัด

ฟาสซิสต์จริง อย่างน้อยๆ ในพรรคพลังประชารัฐ จะไม่มีใครกล้าหือ

ทุกอย่าง “ลุงตู่” ทุบโต๊ะได้หมด

แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น

การบริหารประเทศ  “ลุงตู่” ไม่สามารถทุบโต๊ะได้ทุกเรื่อง เพราะมีฝ่ายค้าน มีองค์กรอิสระ จับตาอยู่ พลาดขึ้นมาก็ตกม้าตายได้ง่ายๆ เหมือนกัน

“ลุงตู่” ถูกด่าเป็นหมูเป็นหมาในโซเชียล

เข้าสภาก็ถูกฝ่ายค้านด่า

ถ้า ฟาสซิสต์ จริง จะมีโอกาสได้ด่าหรือเปล่า

ฟาสซิสต์ อีกความหมายน่าจะเป็นการเลียบๆ เคียงๆ  กระทบกระเทียบ ไปยังสถาบันพระมหากษัตริย์

ลัทธิฟาสซิสต์ ถูกจัดเป็น “ขวาจัด” หรือ “อนุรักษนิยม”

อย่างเช่นที่ “ธงชัย วินิจจะกูล” พยายามสรุปว่า รัฐศักดินาไทยปัจจุบัน ความดีเท่ากับความจงรักภักดี

หรือบอกว่า รัฐบาลไม่จำเป็นต้องใส่ใจเสียงของประชาชน แต่ต้องพินอบพิเทาต่อเสียงของนายเหนือหัวขึ้นไปอันเป็นลักษณะของ

“รัฐศักดินาโบราณ”

นี่คือสิ่งที่กำลังปลุกกันอยู่

และแน่นอนกระทบไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์

ก็ต้องรอดูว่า จะมีเด็กรุ่นใหม่รายไหนกระโดดงับหรือไม่

แต่ก็ต้องเตรียมใจ พลาดขึ้นมาคือติดคุก

ส่วนผู้ใหญ่ช่างยุ กิน เที่ยว นอนหลับสบาย

แค่รอหาเหยื่อรายใหม่

ภาพจากเฟซบุ๊ก Jaran Ditapichai


Written By
More from pp
ก.อุตฯ สั่ง 2.7 หมื่นโรงงาน เร่งรายงานข้อมูลกากอุตสาหกรรมภายใน 30 มิ.ย.นี้ ฝ่าฝืนปรับ 2 หมื่นบาท
กระทรวงอุตสาหกรรม แจ้งเตือนทุกโรงงานเร่งรายงานข้อมูลการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุไม่ใช้แล้วตามกฎหมายฉบับใหม่ ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2566 หลังพบกว่า 27,000 โรงงานผู้ก่อกำเนิดของเสียยังไม่รายงานข้อมูล ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 20,000 บาท
Read More
0 replies on “เด็กติดคุก ผู้ใหญ่สุขสบาย-ผักกาดหอม”