เป็นซากแล้วค่อยพูด?-สันต์ สะตอแมน

ผสมโรง

สันต์ สะตอแมน

จะมาคาจง-คาใจอะไรเอาตอนนี้..

ก็..ตอนที่โรงภาพยนตร์สกาลา (SCALA) ที่ว่ากันว่าเป็น “โรงหนังสุดคลาสสิก” กำลังถูกทุบทิ้งโดยรถแบคโฮอยู่นี้แหละ!

ก่อนนู้น จำได้ว่าเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผู้บริหารกลุ่มเอเพ็กซ์ ประกาศยุติกิจการด้วยไปต่อไปไหว แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ มีแสดงความคิดเห็นกันอยู่บ้าง..

แต่..ดูเหมือนจะพูดกันแบบพอเป็นพิธี ไม่ได้เอาจริงเอาจัง หรือคัดค้านชนิดหัวชนฝาแต่อย่างใด!

โดยเฉพาะใน “กลุ่มคนรักสถาปัตยกรรม” หากได้ร่วมแรง-ร่วมใจกันค้าน-กดดันในตอนนั้น พร้อมๆไปกับการพยายามพูด-อธิบายให้เห็นถึงคุณค่าทางสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์เหมือนตอนนี้

บางที เราอาจจะได้เห็น “ราชาโรงหนังแห่งสยาม” อย่าง “สกาลา” ตั้งเด่นสง่าอยู่กลางสยามสแควร์อีกต่อไปก็เป็นได้!

ผมน่ะเข้าใจความรู้สึกของคนรักสถาปัตยกรรม และรู้ซึ้งถึงความผูกพันของคนที่เป็นแฟนประจำของโรงหนังสกาลา แต่ผมไม่เข้าใจว่า ตลอดปีกว่า ตั้งแต่กรกฎา 63 จนถึง 30 ตุลา 64..

ทำไม ถึงไม่มีกระแสเรียกร้อง หรือคัดค้านดังๆ จากเหล่าท่านให้ได้ยิน กระทั่งสื่อเองก็เถอะ เหมือนจะไม่ได้อนาทร เดือดร้อนใจอะไรด้วย!

แล้ววันนี้ สกาลาเหลือแต่ซาก จะมานั่งวิพากษ์-วิจารณ์ คร่ำครวญ อาลัย อาวรณ์ให้ยิ่งช้ำใจไปไยเล่า!

อย่างไรก็ตาม ภายภาคหน้าหากจะมีการทุบทำลายสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เป็นตำนาน เป็นประวัติศาสตร์ เป็นความผูกพันทางใจ..

ขอนะว่า ช่วยกรุณาใคร่ครวญ-คิดกันให้รอบคอบ-รอบด้าน หรือหากจะเปิดโอกาสให้สังคม-ประชาชนแสดงความคิดเห็นได้ก็ยิ่งดี!

อย่างกรณี พรรคเพื่อไทยประกาศจะทุบจะยกเลิกม.112-ม.116 ก็เหมือนกัน ถ้าการทำให้สังคม-ประชาชนในชาติร้าวฉาน ถือเป็นงานถนัดของพรรคล่ะก็..เอาเลย!

ส่วนนั่น..เห็นแล้วต้องบอกว่าหดหู่ใจ และควรที่พระสงฆ์ สาวกของผู้มีพระภาคเจ้า อย่าง “พระพยอม กัลยาโณ” จะร้อนรุ่มจนต้องหันไปคว้าสุภาษิตจีนขึ้นเทศนา..

“คนจะประเสริฐล้ำเลิศเพราะรู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร คนจะต่ำต้อยหมดความสง่างามเพราะไม่รู้อะไรควร หรือไม่ควร”

ซึ่งป่านนี้คงได้เข้าตา-เข้าหู สาวรุ่นชื่อ “นัท นิสามณี” ที่แต่งกายเลียนแบบพระพุทธเจ้าในคืนฮัลโววีนไปแล้ว และไม่เพียงแค่นี้ พระพยอมยังได้เทศฯ ต่ออีกว่า..

อาตมาอยากฝากบอกถึงคนที่จะแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ต่อไป ถ้าจะแต่งแบบน้องลิซ่าที่ทำแปลกใหม่ แต่งกายแบบไทยจนโด่งดัง

แต่งแบบนี้ไม่ใช่แบบไทย มันเป็นไทยเพี้ยน ไม่มีความเคารพนับถือ ไม่สนใจคำติเตียน จงทำในสิ่งที่สัตบุรุษนับถือจะได้รับคำชม แต่ถ้าไม่หยุดอาจจะได้รับคำสาปแช่ง

การแต่งกายแบบนี้มันเกินไป ในภาพยนต์ที่สร้างออกมายังแต่งไม่เป็นแบบนี้”

ครับ..อะไรไม่ว่า การแต่งกายเลียนแบบพระ ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 208 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ..

ระทึกแล้วสินะ..เธอ!

ขอบคุณภาพจาก FB : สะบัดแปรง



Written By
More from pp
ศูนย์วิจัยคลินิกศิริราช พัฒนายารักษาที่ให้ประสิทธิภาพสูงเพื่อผู้ป่วยโควิด-19
“การวิจัยทางคลินิก” เป็นหนึ่งในกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ในคนว่า ยา วัคซีน หรือวิธีการรักษา ที่คิดค้นขึ้นมาใหม่นั้น มีผลในการรักษาโรคได้อย่างปลอดภัย และต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสมเพียงใด โดยมีเป้าหมายเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาผู้ป่วย
Read More
0 replies on “เป็นซากแล้วค่อยพูด?-สันต์ สะตอแมน”